"หนุ่ม กะลา" ลั่นเคลียร์กันไม่ลงตัว กรณีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง "ยาม"
ทำเอาแฟนคลับตกอกตกใจไม่น้อยหลังตำรวจออกหมายจับกุมตัว "นาย ณพสิน แสงสุวรรณ" หรือ "หนุ่ม กะลา" หลังมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุด "หนุ่ม กะลา" ได้เดินทางมารายงานตัวที่สน.บางเขน พร้อมชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
วันนี้มารายงานตัวตามหมายเรียก ซึ่งหมายเรียกที่นำเพลงยามไปร้องประมาณ 44-47 ที่ ก็คือโดนเรียกทุกที่ที่เราไปโชว์ ช่วงเวลาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึง 8 มกราคม สาเหตุที่โดนก็ต้องขอโทษก่อนที่พลาดทำผิดในครั้งนี้ เนื่องจากพลาดเข้าใจผิด เพราะคิดว่าทางค่ายแกรมมี่ซื้อลิขสิทธิ์เพลงนี้มาแล้ว เป็นการเข้าใจผิดที่ว่าผมเห็นว่าลาบานูนย้ายมาอยู่ค่ายนี้แล้ว เลยคิดว่าคงมีการซื้อลิขสิทธิ์เพลงมาด้วย ซึ่งผมก็นำเพลงไปเล่นโดยไม่รู้ พอมันเกิดเหตุการณ์ขึ้นผมก็เพิ่งมาทราบเรื่องในวันที่ 10 มกราคม ว่ามีการแจ้งความเกิดขึ้น และเกิดขึ้นไป 40 กว่าที่แล้ว เราก็หยุดเล่นในทันทีที่รู้ข่าว เราก็ยอมรับผิด และรู้ว่าต้องเสียงเงินแน่นอน เพื่อจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ส่วนที่คนมองว่าทำไมปล่อยให้โดนหมายจับเยอะขนาดนี้ วันแรกที่รู้ข่าวก็ให้ผู้จัดการฯ นัดเขาตั้งแต่แรกปลายๆ เดือนมกราคม เพื่อมาไกล่เกลี่ยที่สน.สมุทรปราการ ซึ่งเขาก็ไม่ได้มา เราก็พยายามติดต่อเขาเรื่องตัวเลข มีการคุยกันแต่ยังหาข้อสรุปตรงกลางไม่ได้ ยืนยันไม่ได้หนี เพราะด้วยคิวงานหนีไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนตัวก็อยากให้เขาเมตตาเรามากที่สุด เพราะบางทีสิ่งที่เรียกร้องมาอาจจะสูงเกินไป ผมก็อยากให้เป็นมาตรฐานของการเรียกเก็บจริง ตอนนี้ยังบอกตัวเลขไม่ได้ แต่มันสูงมากจริงๆ
กับหมายเรียกที่ส่งมาที่เห็นก็เลยกำหนดเรียกหมดแล้ว กับเคสพัทยาที่ถูกเรียกหมายจับเราก็ติดต่อกับพี่เขาแล้ว แต่เขาไม่ได้คุย และเหมือนเราไม่ได้รายงานตัว เลยทำให้เกิดหมายจับเกิดขึ้น ยอมรับได้คุยกับอีกฝ่ายเมื่อวาน แต่ยังต้องหาข้อสรุปเหมือนเดิม ส่วนตัวก็อยากให้ดีขึ้น พร้อมขอความเมตตาอีกฝ่าย ส่วนที่โดนหมายจับก็เอาเงินไปประกันตัวมา 1 แสนบาท หลังจากนี้ก็ต้องเดินทางไปตามหมายเรียกอีก 40 กว่าแห่ง
ด้านงานก็มีผลกระทบ เพราะเรามีงานทุกวัน เลยต้องตื่นเร็วกว่าปกติ และก็ต้องเดินทางไปตามหมาย ก็จะเหนื่อยกว่าปกติ ทางค่ายก็ให้คำปรึกษาตลอด ย้ำชัดไม่เคยทอดทิ้ง แต่เราจะต้องดำเนินการเอง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น อยากให้แฟนๆ ตระหนักถึงเรื่องลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นใครก็จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลง พร้อมขอบคุณแฟนคลับและทุกคนที่ให้กำลังใจ