"แกงส้ม" แย้มอยากบวชรอบสองอายุ 30 ปี เผยไรัปัญหาไม่ต่อสัญญาเพลง

"แกงส้ม" แย้มอยากบวชรอบสองอายุ 30 ปี เผยไรัปัญหาไม่ต่อสัญญาเพลง

        หลังจากถือโอกาสเข้าพิธีอุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่เป็นเวลา 10 วัน สำหรับหนุ่ม "แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ" ก็ได้ลาสิกขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมกลับมารับงานต่ออย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องสัญญากับทางค่ายที่หมดไปแล้ว เจ้าตัวจะมีการเซ็นสัญญาต่อหรือไม่ คงต้องให้หนุ่ม "แกงส้ม" ออกมาอัพเดทกันสักหน่อย

       ตอนบวชก็มีความสุขดี ตอนแรกก็คุยกับพระอาจารย์ว่าอยากยืดเวลาบวชไปอีกสักนิดนึง แต่ว่าด้วยงานและพระอาจารย์หาฤกษ์ที่จะสึกไว้ให้แล้ว มันเปลี่ยนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ออกมาทำงานก่อน จริงๆ ตอนแรกเราบวชไปทั้งหมด 10 วัน แล้วอยากจะเพิ่มให้เป็น 15 วัน แต่ว่าฤกษ์ที่สึกหาไว้แล้ว พระอาจารย์บอกไม่เป็นไร เราบวชเมื่อไหร่ก็ได้ มาทำงานทางโลกให้เต็มที่ก่อน

       ส่วนที่ไปจำวัดที่ภูเก็ตคือเต็มที่มาก พอไปอยู่ที่ภูเก็ตมันจะเป็นที่เล็กๆ รวมไปถึงมันค่อนข้างจะสงบ ได้อยู่กับตัวเองจริงๆ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ อย่างที่ทุกคนเห็น คือเราจะวาดรูปไว้ คือมีโอกาสได้ลองวาดรูปลงสีน้ำมันดู เราไม่เคยวาด ก็เป็นอะไรที่รู้สึกว่ามันเหมือนกับได้ฝึกสมาธิและได้ทำอะไรใหม่ๆ ด้วย ธรรมะมันคือธรรมชาติ เราสามารถมองเห็นธรรมชาติในทุกๆ อย่างจริงๆ

       เมื่อถามว่าการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม เจ้าตัวเผย สำหรับเรามันอาจจะไม่ได้เปลี่ยน แต่มันจะได้ใช้จริงๆ คือเราได้ใช้กับการแก้ปัญหาในการทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กัน อย่างคุมคน หรือแจกจ่ายงานให้กับคนอื่น มันเป็นนระบบมากขึ้น และแก้ไขปัญหาได้ง่าย มันช่วยให้เราจัดระบบความคิดได้ดีมากขึ้น

       ส่วนความรู้สึกที่อยากจะบวชต่อสำหรับเราพอเราเข้าใจจริงๆ ว่าสิ่งที่บวชมันคืออะไร เลยรู้สึกอยากบวชต่อให้เราเข้าใจมากกว่านี้อีกนิดนึง จริงๆ ตั้งใจว่าอายุประมาณ 30 อาจจะบวชอีกครั้งนึง คุยกับคุณพ่อเขาก็บอกว่าอยากจะบวชด้วย ก็บวชพร้อมคุณพ่อเลย พระอาจารย์ก็บอกว่าถ้าบวชพร้อมคุณพ่อก็ดี มันก็จะเป็นบุญใหญ่ ทางครอบครัวโอเค เพราะคุณพ่อเข้าวัดอยู่แล้ว แล้วรู้สึกว่าการบวชเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เหมือนกับเป็นการหยุดพักแล้วก็ได้อยู่กับตัวเอง

       สำหรับเรื่องสัญญาที่หมดไปทางหนุ่ม "แกงส้ม" บอกว่า จริงๆ มีการคุยกันแล้วเรียบร้อย ทางเราในเรื่องสัญญาเพลงอาจจะไม่ได้ต่อ จริงๆ ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่มานานพอสมควรแล้ว ทางผู้ใหญ่เขาก็รู้ว่าเรามีทางของเรา เราก็เริ่มทำเบื้องหลังมาสักพักแล้ว ทางเพลงเราก็ขอว่าอาจจะไม่ได้ต่อนะ แต่ละครก็ยังร่วมงานกันอยู่ ไม่มีปัญหา ถ้าอยากให้มาร้องเพลงละครก็ยินดี ไม่ได้ตัดขาดกันไปเลย ตอนนี้ที่คุยไว้ก็คือต่อสัญญาทางละครอย่างเดียว ตอนที่เป็นเดอะสตาร์มันต้องมีการเซ็นครอบคลุม 1 ปี แล้วก็อีก 5 ปี ตอนนี้เซ็นไปแค่ละคร แต่เรื่องเพลงเราออกมาดูแลตัวเอง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดว่าจะต่อกี่ปีดี แต่เราคุยในเรื่องที่ว่า เราทำงานตรงไหนแล้วมีปัญหาอะไรกันบ้าง ตอนนี้เรื่องเพลงตั้งเป้าไว้ว่าจะทำเป็นของตัวเอง แล้วตอนนี้พอหันมาทำเบื้องหลังมากขึ้นก็เริ่มจะมีผลิตอะไรในทางออนไลน์มากขึ้น แต่ถ้าเปิดตัวเป็นทางการเมื่อไหร่จะแจ้งอีกทีแล้วกัน แต่ตอนนี้เหมือนกับรวบรวมทีมแล้วเริ่มผลิตผลงานแล้ว อาจจะไม่ได้เชิงเป็นค่ายเพลงใหญ่โต เป็นแบบอินดี้แล้วกัน แต่สมัยนี้อาจจะมีสื่อออนไลน์เยอะ เราสามารถที่จะใช้พื้นที่โปรโมทได้ มันก็อาจจะไม่ต้องใช้งบเยอะขนาดนั้น แต่ทุ่มฝีมือมากกว่า แต่ถ้าคนชอบก็เดี๋ยวเข้ามาดูกัน

       ตอนที่เราคุยกับเขา ตอนที่เราอยู่ในสัญญา เราเข้าใจเลยนะว่าความเป็นเจ้าของที่เขาต้องจ่ายเงินให้เราทำงานมันก็ต้องมีความเสี่ยง และความเสี่ยงมันอยู่ที่เขา แต่พอเรามาทำงานเพลงเองซึ่งทุกคนก็รู้ว่างานเพลงมันไม่ได้ขายเป็นกอบเป็นกำแบบสมัยก่อน ซึ่งความเสี่ยงมันมาตกที่เรา เพราะฉะนั้นความสบายใจคือเราเต็มที่กับมันได้ เรามีอิสระในความคิด แต่เราก็ต้องยอมรับผลของมันผมว่ามันก็แฟร์ๆ คุยกับผู้ใหญ่เขาก็บอกว่ามันโอเคอยู่แล้ว และพี่เขาก็รู้สึกว่าเราก็มีแนวทางที่ชัดอยู่แล้ว