“โอปอล์” รับย้ายบ้านใหม่ให้ใกล้ ร.ร.ลูก

“โอปอล์” รับย้ายบ้านใหม่ให้ใกล้ ร.ร.ลูก

       “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” และ “หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล” เผยที่งาน มิวพาส 6 อัพเดทถึงพัฒนาการของลูกแฝด “น้องอลิน” กับ “น้องอลัน” ว่าพร้อมที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนเนอสเซอรี่แล้ว แต่ต้องมีการเตรียมตัวก่อน โดยรับว่าได้ย้ายเข้าบ้านหลังใหม่เพื่อให้ใกล้โรงเรียนที่ครอบครัวได้เล็งเอาไว้ให้ลูกๆ

         ทั้งนี้ “โอปอลล์” เผยพัฒนาการของลูกแฝดว่า ต้องเตรียมความพร้อมและให้เขาเรียนรู้สิ่งรอบกายให้มากที่สุด โดยเผยว่าลูกชายสนใจด้านชีววิทยา ลูกสาวสนใจด้านศิลปะ จริงๆ แล้วเราไม่ได้ปฏิเสธว่าอะไรดีไม่ดีนะ สำหรับลูกนะ เราเชื่อว่าทุกอย่างลูกต้องได้เห็นได้เรียนรู้ทุกอย่าง คืออย่างเราเหมือนกับในยุคปัจจุบันมันสะดวกกว่าสมัยก่อน เรารู้ว่าลูกชอบอะไร เราก็ดันให้สุดทาง อย่างทุกวันนี้ลูกชายเราจำชื่อปลาได้แทบทุกชนิด เราก็ส่งเสริมด้วยการพาไปอควาเรียม ต่อให้ไปญี่ปุ่นไปจังหวัดไหนไปที่ไหนก็ต้องพาไปอควาเรียม เพราะเดี๋ยวนี้ตามพิพิธภัณฑ์มันทันสมัยขึ้นเยอะ มีทั้งได้เห็น ได้ยิน ได้สัมผัส เขาจะซึมซับอยู่ในความทรงจำบางทีเก็บไปฝันเลยนะกลางคืน ละเมอถึงปลา ละเมอถึงสัตว์ต่างๆ ก็เลยรู้สึกว่ามันได้ผลจริงๆ 

         เขาก็ตามวัยของเขา แต่ตลกตรงที่ว่าขนาดและความชอบที่ต่างกันมากๆ เราในฐานะพ่อแม่ก็ได้แต่ขำ อย่างอลินก็ชอบอะไรที่เป็นศิลปะ คืออย่างแค่พูดว่านกฮูก อลินก็สามารถเล่าเรื่องว่านกฮูกอยู่ตอนกลางคืน คือมันเป็นนิทานที่เราเล่าให้เขาฟังแล้วเขาเอามาต่อยอดในจินตนาการ เราเลยรู้สึกว่ามันสำคัญนะ

         ตอนนี้ก็อยากให้เขาได้รับประสบการณ์ดีๆในชีวิต และเราได้มีเวลาอยู่กับเขา สนุกกับเขา ให้เขาเล่าอะไรให้เราฟังบ้าง ให้เขาพาเราไปสัมผัสกับอะไรหลายๆ อย่าง ต้นไม้ ต่างจังหวัด ต่างประเทศ ให้รู้สึกว่าเขาได้เรียนรู้  

        “โอปอล์” เผยการเลือกเรื่องโรงเรียนให้ลูกว่า เราตระเวนเลือกตั้งแต่ท้องอยู่เลย แต่เรากำลังเลือกอยู่ว่า ที่ไหนเหมาะกับลูกเรา เพราะว่าพ่อแม่แต่ละคนก็จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่ว่าโจทย์คือลูกเราสองคนความชอบต่างกัน เราจะเอายังไง แล้วเราก็อยากให้ลูกเรียนใกล้บ้าน ตอนนี้ก็มีเลือกไว้หลายโรงเรียนเหมือนกัน เพราะโรงเรียนก็สำคัญที่บ้านก็สำคัญ เราจะไปโทษแต่โรงเรียนก็ไม่ได้ 

        เราไม่ปิดกั้นอะไรเลย หลักสูตรเป็นยังไง ครูผู้สอนเป็นยังไง สังคมโรงเรียนเขาเป็นยังไง เราไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเรียนอินเตอร์หรือไม่อินเตอร์ หรือจะโรงเรียนไหน มันเป็นปีกย่อยมาก เราสองคนคุยกันตลอด และเหมือนกันมาก ตลอดจนวิธีการเลี้ยงลูก อีกสองเดือนน้องก็ครบเกณฑ์เข้าเรียนแล้ว ตื่นเต้นตลอดเวลาลูกจะเข้าโรงเรียน

        และสำหรับการย้ายเข้าบ้านใหม่ “หมอโอ๊ค” เผยว่า เด็กๆ ตื่นเต้นจนไม่ออกจากบ้านตั้งแต่ย้ายบ้านใหม่ เล่นทั้งวัน ตอนอยู่บ้านเก่าแถวชานเมืองบ้านใหญ่มาก แต่มาอยู่ในเมืองบ้านเล็กลง ข้าวของอะไรที่เรายกมาก็ต้องยกไปคืนบ้านเก่า ขำๆ เราสร้างบ้านเอาแค่สบายไม่ได้ต้องการใหญ่โตมากมาย ก็ยังไม่อยากมีเพิ่ม พอแค่นี้แล้ว แต่ก็ขอดูก่อนพักก่อน และคงหาโรงเรียนในย่านนี้