“อาร์ต” ยิ้มสู้กระแสวิจารณ์ ขอเดินหน้าทำงานจิตอาสา
“อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” ยิ้มสู้ ไม่ท้อเจอเกรียนคีย์บอร์ด พร้อมเตรียมทำงานจิตอาสาต่อในวันที่ 25-27 ต.ค.นี้
โดนคอมเมนต์วิจารณ์มาตลอด สำหรับหนุ่ม “อาร์ต พศุตม์” เกี่ยวกับการทำดีในฐานะจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเมื่อช่วงเดือน ต.ค. 59 จนถึง ต.ค. 60 ว่าสร้างภาพ ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดใจว่า
ทำงานจิตอาสาก็โดนหลายอย่างเลย โดนไล่ โดนว่า โดนด่าบ้าง แต่ก็ยิ้มรับสู้ ก็พยายามทำโดยที่จะไม่มีอารมณ์มากที่สุด ก็พยายามทำมาตลอด 1 ปี ยิ้มอย่างเดียวตามที่บอก เรานำคำสอนมาใช้ พยายามบอกให้เขารู้ อยู่หลังคีย์บอร์ดมันไม่ได้มีความสุขและเราก็พยายามบอกหลายๆ ครั้ง บางคนก็บอกว่า บ่นบ้าง มาบ่นอะไรตอนนี้ เราก็เฉยๆ ยิ้มๆ ไป ไม่ท้อเลย ถ้าท้อไม่ทำแล้ว เดี๋ยว 1-2 วันนี้ก็จะไปแจกเสื้อคนที่เขาอยู่ตามสถานีขนส่งต่างๆ ที่เขามาจากต่างจังหวัดแล้วไม่มีเสื้อใส่ ก็พยายามจะทำต่อ แล้วก็ 25-27 ต.ค. ที่เป็นงานวันจริงก็ไปลงจิตอาสาไว้เรียบร้อยแล้ว ลงหน่วยแถวๆ เขตกทม. ช่วยคัดกรองคนเข้าสนามหลวง จริงๆ เราไม่ได้ปล่อยวางนะ ผมก็จะสวนกลับบ้าง บางคนก็ว่าผมจะไปปวดหัวกับคนพวกนี้ทำไม คำหนึ่งที่ผมจะสอนคือ เราไม่ได้ว่าเขาหรือคำพูดที่แรงๆ ผมจะตอบกลับว่า สิ่งที่คุณทำดีแล้วเหรอ ผมจะตอบลักษณะนี้มากกว่า และก็อีกคำหนึ่งคือคำว่า คนที่เขาทำไม่ดีเขาจะไม่รู้เหรอว่าทำไม่ดี แต่ผมก็บอกเขาดีๆ ไม่ได้ว่าแรงๆ แต่ตอนนี้คือ คนที่ว่าเราแทบจะไม่ถึง 1% ผมก็เบาๆ ลงแล้ว ถ้าคนคิดว่ากระแหนะกระแหนก็แบบนั้น ถ้าคนคิดว่าเป็นการบอกกล่าวก็คือบอกกล่าว อยู่ที่คนจะคิดไปทางลบหรือทางบวก ถ้าการทำดีสร้างภาพเป็นทางลบ ก็ขอโทษแล้วกัน ถ้าเป็นทางบวกทุกคนก็จะบอกว่าทำดีสร้างภาพ ทำดีมีความสุขอย่างที่บอก ถ้าคนคิดว่ากระแหนะกระแหนก็ตามนั้น หรือมองผมว่าดีก็คือดี ให้มองกันที่การกระทำจะดีกว่า ระยะเวลาก็ถ้า 365 วัน ผมก็เป็นคนต้นๆ ประเทศที่อยู่ตรงนั้นนานที่สุด น่าจะเป็น 100 วันอยู่ตรงนั้น ก็อยู่ที่คนมองอีกครับ 100 วันสร้างภาพเหรอ ผมไม่เคยมองว่าผมเป็นคนดีและไม่เคยบอก ผมแค่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง ที่เขาไปอยู่บนสวรรค์ ผมไม่ได้ทำให้ใคร แล้วก็ถามว่าทำให้ท่านหรือเปล่า จริงๆ
ก็ไม่ได้ทำให้ท่าน ผมทำให้คนที่มาหาท่านมากกว่า
มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตถึงในอีก 1 ปี 5 ปี 10 ปี จะลืมแต่ผมไม่ลืม มันอยู่กับผมว่าผมทำ ก็คงทำไปเรื่อยๆ ถ้ามีอะไรให้ทำ ไม่ได้บอกว่าหมดงานของในหลวงแล้วจะไม่ทำ ก็ทำเรื่อยๆ จริงๆ บอกว่า หาเรื่องให้ตัวเองดีกว่าไปทำมูลนิธินั่นนี่เยอะมาก ไปหาเงินให้วัดพระบาทน้ำพุบ้าง ผมทำมาตลอดเพียงแต่ว่าคนเห็นน้อย โดนแจ้งจับก็มีหาว่าเอาเงินไปใช้ ผมต้องโทรไปวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อหาหลักฐานว่าผมไปทำจริงๆ ก็มี ก็ถึงบอกว่าแล้วแต่คนจะคิด คนที่แจ้งจับคือคนที่อยู่ในจังหวัด เขาบอกว่าหลวงพ่อไม่รับนิมนต์ต่างที่แล้วอาร์ตรับได้ไง ผมเลยโทรไปหาหลวงพ่อว่า ผมโดนแจ้งจับเหมือนแบบพยายามจะเอาเงินวัด เอาชื่อเสียงวัดไปหากิน เหมือนฉ้อโกงหาว่าผมเอาเงินไปใช้ ผมก็แบบ มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ ผมก็เลยเฉยๆ กับคนที่มาว่าผมนี่นั่น สุดท้ายจบลงที่ว่า วัดลงเพจว่าผมมานิมนต์ คือจะมารับเงินที่สนามนครชัยศรี ผมก็ลงรายละเอียดต่างๆ ก็เงิบไป เขาก็คงถอนแจ้งความไปแล้ว เรื่องนี้ประมาน 3 ปี แต่ไม่ท้อ