"พลอย" ปัดพูดดิสเครดิต "ปีเตอร์" ลั่นเคยบอกลูกว่าพ่อแม่ไม่ได้รักกันแล้ว

"พลอย" ปัดพูดดิสเครดิต "ปีเตอร์" ลั่นเคยบอกลูกว่าพ่อแม่ไม่ได้รักกันแล้ว

      "พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์" แจงหลังเจอประเด็นพูดดิสเครดิตอดีตสามี ลั่นเคยบอกลูกว่าพ่อแม่ไม่ได้รักกันแล้ว

      เป็นประเด็นไม่จบง่ายๆ สำหรับคู่ของสาว "พลอย พลอยพรรณ" และ "ปีเตอร์ คอร์ป" ที่เลิกรากันไปแต่ยังคงมีสัญญาเรื่องการดูแลลูกกันอยู่ ล่าสุดดูเหมือนว่าหนุ่ม "ปีเตอร์" จะออกมาขอร้องให้อดีตภรรยาอย่างสาว "พลอย" ไม่ให้ดิสเครดิต ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูลูกตอนนี้สรุปว่าอย่างไร สาว "พลอย" ก็ออกมาบอกกับสื่ออีกครั้งว่า

      วันนี้ที่มาไม่ได้บังคับ แต่บอกลูกว่าเราช่วยกันหาเงิน เพราะพลอยไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นักร้อง หรือคนในวงการ ก็เลยให้ลูกนี่แหละช่วยกันกับแม่ทำมาหากิน รายได้ของน้องก็อยู่กับแม่นี่แหละ ต้องเอาไปใช้จ่ายของน้องเหมือนกัน ส่วนการทำงานของน้องพี่เขาเข้าใจอยู่แล้วว่าทุกบาทเอามาใช้จ่ายของลูก คือลูกอยู่กับเราก็ต้องตัดสินใจอะไรที่ดีที่สุดให้ลูกอยู่แล้ว

       ส่วนเรื่องสัญญาพลอยขอพูดในส่วนของพลอยแล้วกัน ไม่พูดในส่วนของเขา เราก็เอาตามที่ใช้ชีวิตอยู่ ถามว่าเป็นยังไงบ้าง ลูกเป็นไงบ้าง เราก็ถามตามที่เราเป็น อย่าเรียกว่าเป็นการดิสเครดิตเลย เราก็ทำอะไรตามที่เราทำทุกวัน เอาจริงๆ บางทีพลอยก็ไม่ทราบว่าเขาให้สัมภาษณ์ด้านไหนมาหรือเรื่องอะไรมา อย่างบางทีมาพลอยไม่ใช่คนในวงการ มาสัมภาษณ์เราก็ตอบตามที่ถาม ถ้าถามว่าดิสเครดิตไหมคือไม่ ถ้าเขามีงานดี ชีวิตที่ดี ลูกจะได้มองเห็นคุณพ่อเขาเป็นตัวอย่าง เอาจริงๆ พลอยไม่ค่อยสนใจเรื่องชื่อเสียงเท่าไหร่ เราไม่ใช่คนในวงการ จริงๆ ถามอะไรมาเราตอบแบบนั้น ถ้าพี่เขาบอกว่าเราดิสเครดิตเราขอโทษด้วยแล้วกัน

       สำหรับเรื่องตารางบินนั้นเป็นตารางชีวิตพลอย แต่ตารางชีวิตลูกเขาอยู่บ้านมีพี่เลี้ยง เขาก็มีคอนแท็ค มีเบอร์โทรศัพท์กัน มันเป็นอะไรที่พลอยเปิดอยู่แล้วกับการที่เขาจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ เรื่องตารางบินมันก็ค่อนข้างจะยาก พลอยรู้สึกว่าไม่อยากจะต้องมานั่งอัพเดทชีวิตตัวเองให้พี่เขาฟัง ถ้าพี่เขาสะดวกแบบไหนให้พี่เขาทำแบบที่สบายใจเลยดีกว่า

      สำหรับเรื่องที่หนุ่ม "ปีเตอร์" หาย ได้บอกว่าหายไปเพราะทำงาน สาว "พลอย" จึงบอกว่า ไม่ทราบ ก็ตามภาพ เห็นตามภาพเขาทำอะไรเราก็เห็นตรงนั้น เพราะไม่เคยได้ติดต่อกับเขาเลย ถ้าถามว่าเชื่อในสิ่งที่เขาพูดไหมก็ไม่ได้ไม่เชื่อ เขาก็คงขยันจริงๆ แต่เราก็ใช้ชีวิตในส่วนของเราดีกว่า ถึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันไม่ได้กระทบอะไรกับชีวิตพลอยเลย ช่วงนี้เขาดี เริ่มจะกลับมาหาลูกจริงจัง เริ่มมานัดตารางวันที่มันแน่นอน พลอยก็ไปส่งลูกให้เขา แล้วก็ไปรับลูกกลับมา พลอยรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดีกับเด็กที่เขาได้เจอหน้าพ่อประจำ และแพนเตอร์เขาเริ่มจะซึมซับสิ่งที่เขาอยู่กับพ่อเขาแล้วมาเล่าให้เราฟัง พ่อเขาเป็นฮีโร่ของแพนเตอร์เลย อยากจะบอกว่าพี่เตอร์เขาเป็นฮีโร่ของลูกอยู่แล้วไม่ว่าอะไรก็ตาม พลอยจะบอกว่าที่ผ่านมามันดีหรือไม่ดียังไง มันไม่เคยมีเอฟเฟคท์กับลูกตรงนั้น

       ประเด็นที่กลัวว่าลูกจะรู้สึกขาดไหม ตรงนั้นพลอยมองว่าตราบใดก็ตามเราจัดหาในสิ่งที่ลูกต้องมีต้องใช้ คือพ่อไม่ได้ตายจากไปมันยังดีกว่าบางคนที่พ่อจากไปเลย พลอยว่าอันนี้มันยังแก้ตัว ยังปรับตัวกันได้ เรื่องปัญหาของเรามันยังไม่ได้หายไปไหน แต่มันเบื่อกับการที่จะเอามาพูดถึงมากกว่า ที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป หลังจากนั้นก็คุยกันแบบส่งสติ๊กเกอร์ พอพูดมากไม่ดีเพราะว่าปากไม่ดีกันทั้งคู่ ก็คุยอะไรที่จำเป็นดีกว่า อย่างที่บอกเรื่องอารมณ์คงต้องอายุสัก 70-80 ถึงจะมานั่งคุยกันได้ มันเป็นปัญหาระหว่างพลอยกับเขามากกว่า มันไม่ใช่ปัญหากับลูก แล้วพลอยไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขาแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถือว่ามันพักเอาไว้เลย มันเป็นเบื้องหลังที่ไกลมากๆ คือตอนนี้มันเป็นส่วนของลูก คือตรงนี้พยายามเชื่อมยังไงก็ได้ให้มันดีและเหมาะสมกับลูกมากที่สุด

       ลูกเคยถามตั้งแต่เด็กว่าพ่อไปไหน เราก็ตอบว่าไปทำงาน เราบอกด้านนี้ตลอด และเป็นไปตามที่บอกจริงๆ ก็เคยอธิบายให้ลูกฟังไปแล้วว่าตอนนี้พ่อกับแม่ไม่ได้รักกัน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันนะ แต่ในระหว่างที่พ่อกับแม่อยู่กับลูกคือรักลูกมาก แค่นี้คือสิ่งที่มันสำคัญและจำเป็นต่อตัวลูก พลอยเชื่อว่าถ้าเราไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกมันไม่ได้สร้างความเจ็บช้ำอะไรให้ลูกเลย