“สไมล์” งัดท่ามินิฮาร์ทใน “ขอบคุณที่รักกัน” ทำแฟนซีรีส์อินหนัก เกลียดบท “เปียกปูน”
“สไมล์ ภาลฎา ฐิตะวชิระ” เล่าความรู้สึกหลัง “Love Songs Love Series To Be Continued ตอน ขอบคุณที่รักกัน” จบ ดีใจแฟนซีรีส์อินหนักถึงขั้นทวิตด่าไม่เลิก
อีกหนึ่งนักร้อง-นักแสดงจากเวทีประกวดดัง สาว “สไมล์ ภาลฎา” ที่ผลงานละครที่เธอแสดงอย่าง “Love Songs Love Series To Be Continued ตอน ขอบคุณที่รักกัน” เพิ่งจบไป งานนี้แฟนๆ หลายคนอินถึงขนาดทวิตเตอร์ด่าเธอ เมื่อได้พูดคุยกับสาว “สไมล์” เธอก็เล่าถึงความรู้สึกที่ได้แสดงซีรีส์เรื่องนี้ พร้อมทั้งอัพเดทผลงานในตอนนี้ว่า
"สำหรับกระแส 'Love Songs Love Series To Be Continued ตอน ขอบคุณที่รักกัน' ค่อนข้างดี ถ้าดูในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค หรือยูทูบ ก็จะมีคนพูดถึง 'เปียกปูน' ค่อนข้างเยอะมาก เกลียดแบบสุดๆ เกลียดต่อเนื่อง ตอนเล่นเราตั้งใจ เพราะตัวละครนี้ต้องเล่าให้คนดูหมั่นไส้ มันดำเนินมาจากเป็นคนใสๆ ก่อน 2EP แรกคือคนชอบเลย น่ารัก ใส คนดูเริ่มตายใจ พอสุดท้ายเราเปลี่ยนขั้วในใจเป็นร้ายลึก เราทำการบ้านเยอะ เพราะจะมีท่าทางเหมือนเป็นกิมมิกของ 'เปียกปูน' ก็คือท่ามินิฮาร์ท ในบทไม่ได้เขียนไว้ แต่เราพยายามคิดมินิฮาร์ทที่เรายกตอนแรกกับตอนสุดท้ายมันต่างกันสิ้นเชิง ตอนแรกมาด้วยความจริงใจ ตอนหลังมาด้วยความปลอมสุดๆ รู้สึกดีใจเพราะว่าตอนที่เราคิด วันที่ไปถ่ายฉากแรกคือฉากสุดท้าย ก็เลยพยายามให้มัน Contrast กับฉากแรกมากที่สุด เพราะว่าผู้กำกับฯ ก็บอกความต้องว่าพลิกเลย ในตอนสุดท้ายก็เลยคิดว่านอกจากการแสดงมันมีสัญลักษณ์อะไรอีกมั้ยที่สามารถสื่อสารให้คนดูจำ
ส่วนเรื่องความกดดัน เราไม่กดดันที่เป็นภาคต่อ ทำงานสบายๆ ทำการบ้าน และไม่มีความกดดัน กองนี้สนุก แฟนๆ อยากให้มีต่ออีก ถ้ามีก็ไม่รู้จะมี 'เปียกปูน' มั้ย ถ้ามีต่อเราก็ดีใจ คนก็ยังอยากรู้ว่าชีวิตแต่ละคนจะเปลี่ยนไปยังไง
เวลาคนเกลียดตัวละครเราเยอะๆ ไม่เครียดเลย เป็นความสนุกด้วยซ้ำ รู้สึกแค่ว่าอยากให้เขาสนุก สิ่งที่เราแสดงเป็นตัวละครอยู่แล้ว ถ้าคนในกองเห็นก็จะเป็นอีกคนเลย พอเข้าฉากก็เป็นอีกแบบนึง เอาง่ายๆ ว่าฉาก 'เปียกปูน' ผ่านไปแล้ว คนยังทวิตด่า 'เปียกปูน' เพราะเกลียดมาก เราก็รีทวิตทุกอันที่เขาพูดถึง รู้สึกว่ายิ่งคนดูอิน เราตีโจทย์ได้แตก ทำจากที่ผู้กำกับฯ ต้องการได้ ก็โอเค เหมือนงานสำเร็จ
ในส่วนตัวละคร 'เปียกปูน' เหมือนเรื่อง 'Daddy จำเป็น' ก็จะเป็นแนวใสๆ คุณแม่ ม.3 พอมาเป็นเรื่องนี้ปุ๊บเราดีใจที่ได้เล่นร้าย ผู้กำกับฯ ไม่ได้ฟิกซ์มาว่าเล่นร้ายแบบไหน แต่เราเลือกที่จะเล่นร้ายลึกๆ ร้ายข้างใน โดยไม่กรี๊ดออกมา ร้ายแบบมนุษย์ปัจจุบัน เลยอยากเป็นตัวละครตัวนี้ให้ดีที่สุด ความจริงไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงมานาน ไม่ได้เล่นหลายบทบาท แต่ก็เคยเล่นร้ายกรี๊ด ร้ายตลกสมัยก่อน เราได้มาเล่นร้ายแบบนี้ก็ชอบ เพราะอยากเล่นหลายๆ บทบาท อยากทำให้ได้ทุกๆ อย่าง
ผลงานต่อไปยังไม่มี ด้วยความที่ไม่มีผู้จัดการ ไม่มีสังกัด ก็เป็นฟรีแลนซ์ ไม่มีใครดูแลอะไร เรื่องนี้จะพยายามของานผู้ใหญ่ ถ้าใครขาด บทไหนไม่มีคนเล่น นักแสดงคิวไม่ได้ก็อย่าลืมนึกถึงเรา ถ้ามีช่องมาทาบเซ็นสัญญาตอนแรกก็มีคุยๆ แต่ยังไม่ได้คุยทางการ ก็เลยยังไม่มีอะไรคืบหน้า ตอนนี้วงการบันเทิงเปิดขึ้น มีหลายช่องให้เราได้ลอง เราเพิ่งออกมาเป็นฟรีแลนซ์ไม่ถึงปีก็อยากดีลงานเอง ในช่วงแรกอยากรู้วิธีการทำงาน ถ้าเราทำงานคนเดียวเป็นยังไง แต่ถ้าวันนึงเริ่มเข้าใจ หรือได้เจอกับสังกัดที่เขาพร้อมจะซัพพอร์ตดูแลเราจริงๆ ก็อยากจะเข้าไปอยู่กับเขา
ท้ายสุดอยากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนมากเลย ขอบคุณที่ติดตามผลงาน อาจจะหายไปนานก็กลับมาแล้ว ขอบคุณที่เห็นพัฒนาการมาตลอด เราไม่ใช่คนที่เก่ง ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่อยากให้ทุกคนเห็นว่าเราพยายามพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นทุกๆ ผลงานที่ทำจากนี้เราตั้งใจแล้วก็เชื่อว่าหลายๆ คนจะเห็นความตั้งใจ ก็ฝากติดตามผลงานต่อไปด้วย"
