“อั้ม” เอาจริง! ยื่นฟ้อง “บลูริบบอน” หมิ่นปมหนี้ 27 ล้าน
“อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" ยื่นฟ้องศาลกรณีปมหนี้ 27 ล้าน พร้อมเตรียมฟ้องหมิ่นประมาท “บริษัท บลูริบบอน” กรณีให้ออกใบเสร็จเท็จ
เป็นอีกหนึ่งประเด็นดราม่าอย่างหนักโดยการฟ้องร้องยังคงมีประเด็นดราม่าอย่างต่อเนื่อง ในกรณีปัญหาเบี้ยวค่าตัวนักแสดงบางส่วน จากละครฟอร์มยักษ์เรื่อง "เจ้าเวหา" ที่มีนักร้องนักแสดงสาวอย่าง "นัท มีเรีย" พร้อมสามี "อั้ม อธิชาติ" เป็นผู้จัดฯ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่รวมถึงที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย “บริษัท หกหนุมาน” ได้มีการจัดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมโชว์หลักฐานเอกสารการชำระเงินค่าใช้จ่ายให้นักแสดงกับทางโมเดลลิ่งผู้ดูแลไปเป็นที่เรียบร้อย
แต่หลังจากเกิดปัญหาขึ้น เมื่อฟากของ “บริษัท บลูริบบอน” ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุไม่ส่งเงินค่าตัวให้นักแสดง ออกมาแถลงกลับว่าเราไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนักแสดง และยืนยันว่าไม่ใช่โมเดลลิ่ง พร้อมแฉ “อั้ม อธิชาติ” กับ “นัท มีเรีย” ว่ายังค้างเงินส่วนที่ต้องจ่ายทางบริษัทตนอีก 27 ล้านบาท
ล่าสุดช่วงบ่ายของวันที่ 8 กันยายน 2559 ที่ศาลอาญารัชดา “อั้ม อธิชาติ" พร้อมด้วยทนาย "ปริยพล กมลศิลป์" ได้เดินทางมาพร้อมกันเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลหลังถูกหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยใช้เวลาในการพูดคุยนานพอสมควร ก่อนออกมาชี้แจงต่อสื่อ และระบุให้ใจความว่า
วันนี้ทางเราและทนายตัวแทนได้มายื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรม ให้ศาลได้ลงโทษบุคคล กลุ่มบุคคล และบริษัทที่ทำการหมิ่นประมาท ให้ข้อมูลการเป็นเท็จ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับตัวเรา และครอบครัว ทางบริษัทที่อ้างว่าเราติดเงินอยู่ 27 ล้าน เอาเป็นว่าบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดที่ได้พูดหมิ่นประมาท เราก็ฟ้องบุคคลนั้น วันนี้ได้เตรียมเอกสารที่ถูกต้องเพื่อยื่นร้องต่อศาลเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ศาลพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ เราขอให้เป็นขั้นตอนของศาล วันนี้แค่มายื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งยังไม่ได้มีการตัดสินใดๆ ทั้งสิ้น เราเข้าใจ เดี๋ยวมันจะไม่ยุติธรรมต่อฝ่ายตรงข้าม เพราะฉะนั้นเราขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ได้มีการฟ้องค่าเสียหายไป โดยเป็นตัวเลข 50 ล้านบาท วันนี้มายื่นฟ้องต่อศาล
ซึ่งตัวเรามีความมั่นใจทุกอย่างว่าเราไม่มีความผิด เราเชื่อว่าเราไม่ได้ทำงานบริษัทตัวคนเดียว มีพยานหลักฐาน เอาง่ายๆ เราทำงานมา 8-9 เดือน เราทำงานกันเป็นร้อยชีวิต ทุกคนที่ทำงานร่วมกับเราฝ่าฟันความยากลำบากมาด้วยกัน เราผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง เราผ่านจุดนั้นมาด้วยความถูกต้องหรือเปล่า ในเบื้องต้นนัดไต่สำนวนฟ้องจะเรียก 16 ม.ค. ในปีหน้า ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนที่อีกฝ่ายได้ออกมาชี้แจงว่าเราติดเงินเขา 27 ล้านนั้น เราขออนุญาติชี้แจงเท่าที่เราชี้แจงได้ ว่า “บริษัท หกหนุมาน” ได้เป็นกลุ่มผลิตที่ถูกต้องตามกฏหมาย มีสัญญาการผลิตจากทางช่อง “ทรู โฟร์ ยู” ในส่วนของการร่วมงานทาง “บริษัท หกหนุมาน” ได้มีการร่วมงานกับทีมงานหลายๆ ท่าน หรือกับบริษัทต่างๆ ซึ่ง “บริษัท หก หนุมาน” ได้ควบคุมการผลิตตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และได้มีการชำระเงินให้ทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว และเราขอถามกลับ ถ้าทุกฝ่ายที่ทำงานกับเราและมีค่าใช้จ่ายจริงๆ และได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องไปเป็นหนี้กับใครอีก วันที่คู่กรณีแถลงเขาบอกเราค้างชำระอีก 4 งวด ใบเสร็จยังอยู่ที่เรา จริงๆ เรื่องรายละเอียดต่างๆ ที่ในเป็นดีเทลของบริษัทขออนุญาตไม่พูด แต่เรายืนยันตรงนี้ว่า “บริษัท หกหนุมาน” ได้ชำระค่าใช้จ่ายให้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายอื่นๆ มันเกิดขึ้นจากค่าอะไร อีกฝ่ายอ้างว่ามีการเลี่ยงข้อความบนใบเสร็จ เราจะชี้แจงยังไง เราเป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฏหมาย และเราคิดว่าบริษัทใหญ่ๆ คงไม่ทำความผิดกับกรมสรรพากร โดยส่วนตัวเราเองไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เขายืนยันว่าบริษัทเขาไม่ใช่บริษัทจัดหานักแสดง ที่เราแถลงข่าวครั้งที่แล้ว ไม่ได้ต้องการที่จะพาดพิงถึงใคร เราแค่แถลงว่าเราและบริษัทรับผิดชอบทุกอย่างตามหน้าที่ของเรา และเราไม่เคยพูดต่อว่าบริษัทไหน เราไม่ทราบว่าเป็นการว่าจ้างนักแสดงแบบไหน แต่นักแสดงท่านนั้นๆ ที่มีบริษัทว่าจ้างนักแสดง ได้ว่ามีการจ้างนักแสดงจริง และมีการคิดค่าบริการ แต่เราทำหน้าที่เราเสร็จสิ้นแล้ว ทางฝั่งเขาบอกว่าอยากให้ไปเจรจากัน ณ ตอนนี้เราขอใช้ขั้นตอนทางกฏหมาย เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างบุคคล มันเป็นเรื่องระหว่างบริษัท เพราะฉะนั้นถ้าต่างฝ่ายต่างมีข้อมูลมีเอกสารของตัวเอง เราขอให้ศาลเป็นคนตัดสินดีกว่า ถึงขั้นแตกหักไปเลยไหม เอาเป็นว่า ต่างคนต่างทำงานดีกว่า ทาง “บลูริบบอน” บอกเป็นลิขสิทธิ์ของเขา 100% ด้วย เรื่องลิขสิทธิ์มันมีรายละเอียดอยู่ที่ต้องอธิบายในชั้นศาล เราขออธิบายภาษาบ้านๆ แล้วกันว่า เราได้มีการพูดคุยกับผู้เขียนบทประพันธ์มาตลอดตั้งแต่เริ่มเรื่อง ทางผู้เขียนบทประพันธ์ได้แจ้งว่าเราได้รับสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ตามเจตนาที่ผู้เขียนบทประพันธ์ตั้งใจที่จะมอบให้ แต่รายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของสิทธิ์บทประพันธ์ที่แท้จริงคงต้องไปคุยกันในชั้นศาล มีข่าวว่าจะกลับไปทำงานกับทางช่อง 3 แล้ว ยังไม่ทราบเลย ทางผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ทุกท่านเป็นเหมือนครอบครัวเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดฯ ทุกท่านให้โอกาสผมตั้งแต่เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ วันนึงเราพร้อมจะตอบแทนบุญคุณของช่องอยู่แล้วไม่ว่าจะหน้าที่ใดๆ
