“พ้อยท์” ปัดผู้ใหญ่ดันให้เล่นละครดัง แจงสนิท “ตูน” แค่คนบ้านเดียวกัน

“พ้อยท์” ปัดผู้ใหญ่ดันให้เล่นละครดัง แจงสนิท “ตูน” แค่คนบ้านเดียวกัน

1

“พ้อยท์” ปัดผู้ใหญ่ดันให้เล่นละครดัง แจงสนิท “ตูน” แค่คนบ้านเดียวกัน 

     “พ้อยท์ ชลวิทย์ มีทองคำ” รับ“สงครามนางงาม ซีซั่น2” บทค่อนข้างหิน แจงความสัมพันธ์กับ “ตูน ปาณิสรา ปริญญารักษ์” แค่เพื่อนเท่านั้น ฝากแฟนๆ ติดตาม “สลักจิต” และ “เล่ห์เสน่หา”

 

  
     เป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักแสดงที่มากความสามารถสำหรับ “พ้อยท์ ชลวิทย์” ที่สร้างชื่อเสียงซิทคอมจากเรื่อง “ยีนเด่น” ซึ่งผลงานล่าสุดของเขาอย่าง “สงครามนางงาม ซีซั่น2” กับบทบาทหนุ่มมาดเข้มที่ต้องดูโตกว่าตัวจริง ที่เล่นคู่กับสาว “ตูน ปาณิสรา” ทำให้คนมองว่าทั้งคู่มีแววพัฒนาความสัมพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้พร้อมอัพเดทผลงานให้ฟังว่า

     ในเรื่องนี้ผมรับบทเป็น “วุฒิกร” ครับ เป็นผู้บริหารสายการบินที่มาซื้อสปอนเซอร์รายการนี้ แล้วก็ได้เป็นกรรมการด้วย ซึ่งมาในพาร์ทเดียวกันกับพี่ “สน ยุกต์” ในภาคที่แล้ว เรื่องนี้ต้องเล่นโตกว่าทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา แล้วด้วยความที่เราเป็นเด็ก ไม่ค่อยได้จริงจังกับอะไรที่ผ่านมามากนัก มาเรื่องนี้เจอบทหินต้องสวมลุคเข้ม และจะเป็นผู้ชายที่ดูเย็นชาที่ภายนอก แต่ว่าในใจนี่อ่อนมาก เล่นกับรุ่นพี่ก็รู้สึกเกร็งครับ เพราะว่าพี่ “ลูกเกด” เขาเล่นไว้ในภาคที่แล้วดีมาก แล้วบางทีผมเองก็รู้สึกว่าพอตัวเองมาเล่นก็ทำให้เขาเสียเวลา เพราะต้องมานั่งทำความเข้าใจกับตัวละคร ก็รู้สึกประหม่ากลัวว่าจะทำได้ไม่ดี แต่พอหลังๆ ได้มาทำความรู้จักกับพี่ๆ ในกอง ก็รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น และเวลาซ้อมหรือต่อบทก็จะเฮอามากขึ้น ตอนหลังๆ ก็เริ่มสนุก เริ่มกล้าเล่นขึ้น         

      ส่วนผลงานละครตอนนี้ก็มีอีก 2 เรื่องครับ คือ “เล่ห์เสน่หา” กับ “สลักจิต” และมีอีกเรื่องนึงที่จะได้เล่นและเพิ่งฟิตติ้งไปคือเรื่อง แต่ปางก่อน ครับ เล่นเป็นน้องพี่บี ก็จะเล่นเป็นคนจริงจังกับชีวิต แต่ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น จะมีติดขี้เล่นนิดๆ ตอนถ่ายสองเรื่องนี้จะถ่ายพร้อมๆ กัน ทำให้ตีกันมากเลย ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่รับบทเป็นคนขรึมๆ จริงจัง แล้วก็พูดแรงๆ ส่วนในแต่ปางก่อนจะเล่นเป็นเด็กน้อยขี้โรค เหมือนได้ไปรับเชิญเล่าเรื่องในช่วงแรกๆ มากกว่า ผมไม่มองว่างานเยอะแล้วมีคนดันหรอกครับ เพราะผมมองว่าคาแร็คเตอร์เราตรงมากกว่า ซึ่งนางงามน่าจะเห็นในความเหวี่ยงของเรา ซึ่งสองเรื่องก่อนเขาน่าจะมองว่าตรงกับคาแร็คเตอร์เรามากกว่า ไม่ได้ดันอะไร แล้วก็เพราะว่าเราเรียนจบแล้วด้วยเหมือนกัน

      ส่วนเรื่องเรียนต่อผมก็อยากนะ ตอนแรกมองเอาไว้ว่าอยากจะต่อโท เรื่องการเขียนบทกับการกำกับ แต่ซึ่งมันติดปัญหาเรื่องการถ่ายละคร แล้วคิวชนช่วงเสาร์-อาทิตย์พอดี ถ้าเลือกไปเรียนก็อาจจะทำให้ถ่ายละครไม่ทัน เราก็เลยพักเรื่องเรียนไว้ก่อนสำหรับวันที่เราพร้อมจริงๆ ดีกว่า ที่อยากเรียนงานเบื้องหลัง ก็เพราะว่าเราอยากที่จะรู้ว่าการที่เขาถ่ายแบบนี้ ตีบทและตัวละครแบบนี้มันคืออะไร ซึ่งเราเอามาปรับใช้กับตัวเราได้ ตอนนี้เราอาจจะมองอะไรพื้นๆ อยู่ แต่เราไม่เคยไปตีความหมายของมันจริงๆ ผมเลยคิดว่าถ้าหากว่าเราได้ไปเรียนจริงๆ เราจะได้เข้าใจความหมายของมันจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงเล่าเรื่องแบบนี้ ทำไมเขาต้องใช้ภาพแบบนี้เล่าเรื่อง ทำให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่าเขาต้องการแบบไหนเวลาเราแสดง 

     สาวๆ ในกองเยอะก็แฮปปี้นะครับ (หัวเราะ) แต่แฮปปี้ที่ได้เห็นเขาเล่นละคร ทำงานกันมากกว่า เพราะกองอื่นๆ ก็มีผู้หญิงเยอะเหมือนกัน แต่ว่าเราก็ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้มาก มาถ่ายละคร มาทำงานมากกว่า  ผมบอกเลยว่ากับ “ตูน” นี่ผมไม่ได้มีอะไรเลย คือผมเป็นคนที่ชอบต่อบทเยอะ แล้วก็ชอบดึงเขาไปซ้อมบทกันในที่เงียบๆ ไปนั่งต่อบทกันสองคน แล้วก็น่าจะมีคนบังเอิญไปเห็นแล้วเข้าใจผิดมากกว่า แล้วเรื่องการไปส่งเขาที่บ้าน มันเป็นเพราะว่าเราเห็นว่าเขาเป็นคนเหนือเหมือนกับเรา ตอนแรกๆ ที่เราเข้ามาอยู่กรุงเทพ เราก็ไม่ค่อยรู้จักทาง แล้วเราก็มานั่งคิดว่าขนาดเราเป็นผู้ชายเรายังกลัวเลย แล้วนี่เขาเป็นผู้หญิงแล้วก็อยู่ไกล เราก็เลยไปส่งด้วย แล้วก็ชวนเขาไปทำนู่นทำนี่ เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม จะได้สนิทกันด้วย ถ้าในอนาคตผมไม่รู้ครับ แต่เขาเป็นคนคุยสนุกนะ แล้วผมก็เป็นคนชอบฟัง แต่ถ้าถามว่ามีลุ้นมั้ย ตอนนี้ยังเป็นเพื่อนกันไปก่อน ในสิบสาวงามคนที่สเป็ค (หัวเราะ) ผมเอา 2 คนได้มั้ยครับ มี “ตูน” กับ “มายด์” สองคนนี้เขาคล้ายกัน ผมชอบคนขาวๆ พูดอะไรแล้วดูจริงใจ ไม่ใช่คนอื่นไม่จริงใจนะ แต่เหมือนว่าเราเป็นเด็กบ้านนอกแล้วคุยกันรู้เรื่องมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเราเป็นคนจังหวัดเดียวกันเดียว ก็มีการนัดเจอกันที่บ้านด้วยอย่างสงกรานต์ที่ผ่านมาเราก็ได้มีการนัดเจอกัน กับเพื่อนที่รู้จักกันด้วย

      สุดท้ายผมขอฝากผลงานที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้คือ “สงครามนางงาม 2” ก็อยากให้ทุกคนติดตาม ถ้าใครคิดว่าแรง มันก็แรงนะครับ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่สะท้อนสังคมด้วย น่าจะเอาไปปรับใช้กับทุกคนได้ แล้วก็ฝากละครอีก 2 เรื่อง คือ “สลักจิต” ละครที่เป็นความรักระหว่างอากับหลาน ซึ่งความรักไมได้แบ่งแยกเรื่องอายุ ส่วนใน “เล่ห์เสน่หา” ก็ฝากละครสามเรื่องนี้ด้วย

#สงครามนางงาม2 พ้อย บันเทิง ตูน นักแสดง ละคร ความสัมพันธ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นางเอกดัง! ประกาศเลิกแฟน ลั่นแรงโสดจีบได้

“นุ๊ก ธนดล” ดึง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ทำเพลง ยินดี “ป๊ายปาย” งานรุม ขำหมดไปเยอะอีกฝ่ายหมุนวงล้อ

เบิร์ดเดย์ “จันจิ จันจิรา” รักเธอนะสาวน้อยแสนซน

“แจ๊ส” สุดทน! พร้อมปะทะ “แจง” ลั่นไม่นับญาติกันได้

“แจ๊คกี้ จักริน” ขึ้นแท่น CEO ต้อนรับวันเกิดอายุ 23 ปี เปิดบริษัท “OTH ENTERTAINMENT”

“ฐากูร” อดีตสามี “เป็กกี้ ศรีธัญญา” เปิดตัวสาวคนใหม่ หวานฉ่ำสุดๆ

ส่องโมเมนต์น่ารัก “เจนี่” พาลูกสาว “น้องโนล่า” ไปทำกิจกรรม งานนนี้ทำคอมเมนต์สนั่น

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments