"เอิน" ปรับบทหญิงรักหญิงเข้ายุคสมัย โต้ใช้คำคมแซะเรื่องอื่นแค่อยากสื่อถึงสังคม

"เอิน" ปรับบทหญิงรักหญิงเข้ายุคสมัย โต้ใช้คำคมแซะเรื่องอื่นแค่อยากสื่อถึงสังคม 

       ไม่ใช่เพียงแค่คอละคนที่ดูเรื่อง "วัยแสบสาแหรกขาด" แล้วรู้สึกอินไปกับเรื่องราวเท่านั้น เพราะถึงขนาดตัวนักแสดงเองยังรู้สึกอินไปตามๆ กัน ล่าสุดมีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่ม "เอิน นิธิภัทร์" ผู้จัดฯคนเก่ง หวานใจนางเอกสาว "จ๊ะ จิตตาภา" ที่ก่อนหน้านี้เคยทวิตข้อความว่าแฟนสาวนั้นถึงกับร้องไห้ โดยงานนี้หนุ่มเอินได้เล่าให้ฟังว่า

       พอดีเราได้มีโอกาส เพิ่งทำงานเสร็จ อยู่ห้องตัด แล้วก็วันนั้นก็นั่งดูละครพอดีเลย พอดูไปจ๊ะเค้าก็ร้องไห้ เราก็ตกใจ เพราะปกติเค้าดูละครจะไม่ค่อยร้องไห้ แต่อันนี้ทำให้ร้องไห้ได้ เล่นเองอินเองปกติคนที่เป็นนักแสดงเค้าจะเหมือนสมมติว่าเราเป็นคนเล่น เราก็จะรู้ตั้งแต่บทแล้ว ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง เราก็เห็นตั้งแต่ถ่ายทำแล้ว ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง แต่ตัวจ๊ะเองทั้งอ่านบท ทั้งเล่นแล้ว มาดูก็ยังร้องไห้ เราก็รู้สึกว่าเราทำได้ ก็คงจะอินกับฉากเค้า

       ส่วนกระแสนางร้ายแย่งนางเอก จริงๆ ก็จะพูดว่าเป็นนางร้าย ก็ไม่ร้ายนะ แต่เค้าเรียกว่าเป็นศัตรูอีกคนนึง เป็นตัวละครสำคัญอีกตัวนึงที่จะมาสร้างสีสันให้เรื่อง  ตอนแรกเราก็คิดมันก็น่าเบื่อ เราก็เลยคิดว่าสมัยนี้มันเป็นยังไง บางทีเรื่องของผู้ชายคนนึงชอบผู้หญิงอยู่คนนึง แต่ว่าผู้หญิงอาจจะไม่ชอบผู้ชายก็ได้ หรืออาจจะเป็นกรณีแบบเป็นเกย์ หรือเป็นสาววาย อะไรแบบนี้ก็มีเยอะครับ เราก็เลยอยากลองนำเสนอในประเด็นนี้ดูครับ แล้วมันก็เหมือนกับว่าเราก็ปูคาแรคเตอร์ของทรายไว้เป็นผู้หญิงผมสั้น คนก็อาจจะเข้าใจผิดบ้าง อะไรแบบนี้ครับ ตัวจ๊ะถูกจิ้นกับผู้หญิงก็ไม่เขินนะครับ  จริงๆ กับน้อง "นิวเคลียร์" ก็สนิทกันอยู่แล้วครับ เหมือนเราก็บอกบทนี้นิวเคลียร์สามารถทำได้แน่นอน

       กับเรื่องที่บางคนมองว่า คำคมบางอันไปกระทบกับละครเรื่องอื่นๆ หรือกระทบบางส่วนรึเปล่า จริงๆ ถามว่าเรื่องนี้มันก็มาจากเรื่องจริงครับ สิ่งที่เรานำเสนอมันก็คือไม่ได้ตั้งใจจะกระทบคนใดคนหนึ่ง แต่มันอยากกระทบให้รู้ว่ามันมีแบบนี้จริงๆ ในสังคมนะ กับคนที่คิดแบบนี้ หรือสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ ขออนุญาตยกตัวอย่างแล้วกัน อย่างในเรื่องของการสอบ GAT,PAT จริงๆ เอินก็ไม่ได้อยู่ในวัยนี้ เอินก็ไม่เข้าใจนะครับ แต่สิ่งที่เราได้ยินมาจากเด็กๆ สมัยนี้ ถามว่าคนชื่นชม คนชอบก็มีนะ แต่คนไม่ชอบก็มีเยอะ หรือบางคนก็สงสัยก็มีว่ามันคืออะไร ทำไมไม่เหมือนสอบเอ็นทรานซ์สมัยที่เราสอบกัน อย่างเราเอ็นทรานซ์มันก็จะไปสอบเก็บคะแนน 1 , 2 , 3 เราไม่เข้าใจ บางทีมันก็จะมีจากหลายๆ เสียง เราก็พยายามนำมารวมๆ กัน แล้วก็มาดูในมุมที่เค้าพูด ว่าดูสิ มันจริงรึเปล่า อะไรแบบนี้ครับ เราก็ต้องทำรีเสิร์ชเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะบางทีอย่างทีมงาน ทีมคนเขียนบท รุ่นๆ เนี้ย มันก็จะไม่มีใครได้สอบ GAT PAT ก็ไม่รู้ว่าต้องเก็บรายละเอียดยังไงบ้าง อะไรแบบนี้

      ก็ขอบคุณที่ติดตามกันครับ แล้วถ้าใครมีเรื่องราวอะไรที่สามารถช่วยเราได้ นำเสนอเราได้ มีประสบการณ์ชีวิต ประสบการณ์เพื่อนๆ ประสบการณ์ตรง อาจจะเป็นในเรื่องของโรงเรียนก็ได้ ของคุณครู พ่อแม่ ครอบครัว ที่คิดว่าแชร์แล้วมันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ก็อยากให้ลองได้มีโอกาสแชร์ เดี๋ยวนี้เราพูดได้ เราพิมพ์ได้ ก็อยากให้ช่วยแชร์ๆ กันมา เผื่อเอินจะได้ไอเดียที่จะมาทำต่อด้วยครับ นำเสนอว่าปัญหาในสังคมมันมีอีกเยอะนะ บางทีชีวิตคนนึง มันสามารถมาทำเป็นละครได้อีกหลายซีซั่นเลยครับ ก็อยากให้ช่วยแชร์ๆ กัน ช่วยฟีดแบ็คกัน ว่าทำดีไหม หรือว่าคนที่มีปัญหาในเรื่องนี้ วิธีการแก้ไขนอกจากวิธีนี้ ยังมีวิธีอื่นบ้างรึเปล่า ทำยังไงให้ครอบครัวที่มีปัญหาอยู่แล้วมันดีกลับมาได้ เราก็อยากจะได้ยินในมุมนี้เหมือนกัน หรือว่าสิ่งใดที่ละครสามารถช่วยคุณได้ เราก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเราจะช่วยคุณยังไง เผื่อเราจะสามารถนำไอเดียตรงนี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำต่อๆ ไปครับ