"โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" เปิดใจ ทำไมแม่ถึงไปอยู่วัด!!

"โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" เปิดใจ ทำไมแม่ถึงไปอยู่วัด!!

1

"โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" เปิดใจ ทำไมแม่ถึงไปอยู่วัด!!

          "ตอนนี้ข่าวในโลกโซเชียลแพร่ข่าวกันไปในหลายๆ ทาง แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณช่องทางนี้ที่ให้กำลังใจเรา เรื่องที่เกิดขึ้นมาอีก คือหลังจากที่เราไปรับแม่มาอยู่ได้ประมาณเดือนกว่าๆ แต่คุณแม่เราอยู่ไม่ได้ สาเหตุมาจากเหงา เพราะเขาไม่มีความผูกพันกับครอบครัวเรา สุดท้ายแกก็เบื่อและหนีไปที่เก่าคือ "วัดพระยาสุเรนห์" เราก็ไปตามให้กลับมา แต่แกไม่กลับ เลยต้องพึ่งเจ้าอาวาสให้ช่วยเหลือ เราก็เล่าเหตุการณ์ให้หลวงพ่อฟังถึงสาเหตุ หลวงพ่อเลยให้คำปรึกษาว่า ถ้าแม่โยมอยากอยู่ที่นี่ ท่านก็จะดูแลให้ เราก็ค้านแล้วว่าจะดีหรอ ให้แกไปอยู่ที่บ้านบางแคดีกว่าไหม จะได้ไม่เป็นภาระหลวงพ่อ และบ้านบางแคเองก็ไม่ใช่จะเข้าออกง่ายๆ ซึ่งเราก็ติดต่อไป และทางนั้นเขาลัดคิวให้ เราก็มารับแม่ แต่แกก็ไม่ยอมไป จนสุดท้ายแกก็จะไปอยู่ที่วัด ซึ่งหลวงพ่อก็รับปากว่าจะดูแลแกให้ ทุกอย่างดำเนินไปปกติ ไม่มีอะไร เราก็ไปเยี่ยมแกบ้าง ภรรยาก็มีชวนไปบ้าง เราก็ไปกราบเท้าแก มีถ่ายรูปไว้บ้าง คิดเอาไว้ว่า สักวันเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น ลูกชายของเราก็ไปประจำ

          ส่วนตัวเราคิดว่า การไปเยี่ยมแม่ จำเป็นที่ต้องบอกใครด้วยหรอ ต้องเอาสื่อไปแบบนี้ไหมว่าเราไปเยี่ยมแก ส่วนในเฟซบุ๊คที่มีภาพอย่างที่เห็นที่มีแผลเน่าต่างๆ นั้น เราก็ไปสืบมาคือแม่เราล้มในห้องน้ำ และต้องผ่าเข่า การผ่าเข่าก็ต้องให้ญาติมาเซ็นรับรอง  หลวงพ่อติดต่อมาทางภรรยา ซึ่งตอนนั้นเราถ่ายละครอยู่ต่างจังหวัด ด้านหลวงพ่อก็มองว่าช้าไม่ได้ เลยตัดสินใจแทนเรา เพราะว่าสนิทกับเราว่าให้ผ่า หลังจากผ่าก็ต้องมาพักฟื้นที่วัด และมีคนดูแลอยู่หนึ่งคน ทีนี้เวลาต้องทำแผล บางทีต้องพึ่งสถานีอนามัยแถวนั้นบ้าง เราก็ไม่รู้ทางอนามัย เขาคิดอย่างไรถึงโทรมาหาทางภรรยาเราว่า ทำไมไม่มาดูแม่ และคนที่ดูแลแม่เราของทางวัดบอกกับเราว่า มีคนมาถ่ายรูปแม่ไปด้วยตอนที่เปิดแผลสดๆ แล้วเอาไปลงในเฟซบุ๊ค 

          ส่วนตัวเราก็เพิ่งกลับมาเมื่อวาน แล้วเกิดเรื่องพอดี ก็เลยไปที่วัด ได้ไปคุยกับท่านเจ้าอาวาส ท่านก็บอกว่า แม่ต้องมีคนดูแล ส่วนคนที่ดูแลอยู่ตอนนี้ เขาไม่ได้สะดวกทุกวัน ท่านก็บอกจะหาคนใหม่มาให้ แต่เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนะ เราก็ยินดี ให้เดือนละหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน

 

 

          หลังจากนั้นก็มีทางมูลนิธิที่เห็นภาพต่างๆ อยากจะมาช่วยเหลือ  เลยมาพาแม่เราไป ซึ่งเราถ่ายละครอยู่ที่บางแคตอนนั้น หลวงพ่อติดต่อมาช่วงเช้า เลยไม่ได้รับ พอเสร็จ โทรกลับไป ท่านบอกว่า คนที่พาไปเป็นลูกศิษย์ของท่าน และเขาจะดูแลให้เอง โดยจะพาไปโรงพยาบาลหลังรักษาเสร็จก็จะพากลับมาที่วัด จริงๆ เราก็เหวอทั้งวัน ไม่มีสติทั้งวัน ใจลอยไม่มีสมาธิ ขอยืนยันว่าไม่ใช่เราไม่ดูแล แต่เราต้องทำงาน ดูแลลูกอีก 6 คน เราไม่ได้ไป แต่ลูกเราไปตลอด ไม่เคยทิ้ง คิดว่าตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว เชื่อว่าสื่อมวลชนก็เป็นกลางมาก ที่ยังไม่ลงอะไรไปชัดเจน เพราะยังไม่ได้ฟังจากปากเรา ที่เราออกมาพูดวันนี้ คือยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งจริงๆ มีคนที่รู้เรื่องราวยืนยันได้ 

          คนที่ลงโซเชียล เขาอาจจะไม่ได้หวังร้าย แค่ทุกคนรักแม่ เราเองก็ต้องขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด ตอนนี้สงสารภรรยามากๆ ที่โดนโจมตีหลายๆ อย่าง ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง 

          ด้านภรรยาของ 'โป๊งเหน่ง' ก็ออกมายืนยันเรื่องเหวี่ยงพยาบาลว่าไม่ใช่ความจริง โดยแจงว่า พยาบาลโทรมาบอกว่าไม่มีคนมาดูแลคุณแม่ เราเลยบอกว่าให้ลูกชายเราไปดูแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลก็บอกว่า เขาได้จัดคนดูแลไว้ให้ แต่ต่องมีค่าใช้จ่าย เราเลยถามไปว่า ต้องจ่ายเท่าไหร่ ซึ่งเขาแจ้งมาว่าหมื่นห้า เราเลยบอกว่าขอถามทางสามีก่อน เพราะเราก็มีภาระเยอะ แค่นี้จริงๆ ไม่ได้เหวี่ยง และเราก็ไม่เคยมีเรื่องกับคุณแม่เลยตั้งแต่ก่อนแต่ง" 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments