"บุ๋ม-ตรีรัก" จากนางเอกสู่คนเลี้ยงหมา-แมว

‘บุ๋ม-ตรีรัก’ จากนางเอกสู่คนเลี้ยงหมา-แมว

     จากเส้นทางนางเอกและเซ็กซี่สตาร์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ของ “บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี” สู่เส้นทางของผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุนัขระดับมาสเตอร์ ที่เหล่าซุป’ตาร์คนดังระดับฮอลลีวู้ดต่างไว้วางใจให้เธอดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรัก จนสื่อท้องถิ่นในเมืองต่างรุมสัมภาษณ์เรื่องราวของเธอ และขนานนามให้เธอเป็นมาสเตอร์ ทางด้านการดูแลสุนัขอันดับ 1 ของเมืองลอสแอนเจลิส ตลอดระยะเวลากว่า 11 ปี ที่เธอเริ่มก้าวเดินจากศูนย์บน

     เส้นทางใหม่ในต่างแดน ไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับหญิงสาวตัวคนเดียว และนับเป็นจุดเปลี่ยนสําคัญของชีวิตเธอ โดย “บุ๋ม” เล่าให้ฟังถึงชีวิตที่ผ่านมาว่า “หลังจากหันหลังให้กับวงการบันเทิง ก็ตัดสินใจศึกษาต่อทางด้านการดูแลสัตว์เลี้ยง ใช้เวลาเรียนประมาณ 1,000 ชั่วโมง จนได้ประกาศนียบัตร ตอนนั้นเรียนหนักมาก เพราะภาษาก็ไม่ดี ต้องใช้ความพยายามมาก ฟังอาจารย์ก็ไม่ทัน แต่ด้วยความมุมานะจนเรียนจบได้ หลังจากเรียนจบขั้นแรก ก็เรียนต่อระดับมาสเตอร์ ซึ่งยากมาก เหนื่อยนะกว่าจะได้มา หืดขึ้นคอเลยทีเดียว ใช้เวลาเกือบ 2 ปี บางคนยอมแพ้ก่อนจะสอบเสร็จ ตอนนั้นท้อเหมือนกัน แต่เป็นคนที่มีความมุมานะ มีความอดทนสูง ซึ่งบุ๋มเชื่อว่าหากเรามุมานะ ความสําเร็จอยู่ข้างหน้าจริงๆ”
ปัจจุบัน “บุ๋ม” ทํางานเกี่ยวกับการดูแลสุนัขอยู่ที่ร้าน “แอลเอ ด็อกเวิร์คส์” โดยมีเซเลบฯ ชื่อดังอย่าง เจเน็ต แจ็คสัน, นิโคล ริชชี่ และตระกูลออสบอร์น หรือแม้แต่โปรดิวเซอร์ชื่อดังในแวดวงบันเทิง ส่งสุนัขและแมวแสนรักมาให้เธอดูแล รวมทั้งฝีมือขั้นเทพของเธอยังโด่งดังไกลถึงขั้นมีแมกกาซีน และรายการทีวี ประมาณ 20 กว่ารายการ สนใจสัมภาษณ์เธอ        

     แม้ “บุ๋ม-ตรีรัก” จะใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างลอสแอนเจลิส แต่การใช้ชีวิตของเธอกลับสมถะ พอเพียง และไม่มีความฟุ้งเฟ้อเลยแม้แต่น้อย ซึ่งจุดเปลี่ยนสําคัญที่เธอบอกว่า ชีวิตทุกวันนี้อยู่ในจุดนี้ได้เพราะการเปลี่ยนสังคม และงานที่เธอทํา 

     “เมื่อถึงจุดหนึ่ง บุ๋มรู้สึกว่ามีความสุข ไม่เครียด จนคนบอกว่า หน้าตาเด็กลง ดูอารมณ์ดีขึ้น เฟรนด์ลี่ เพราะเราทํางานกับสุนัขและแมว สิ่งนี้ทําให้เราเปลี่ยนมุมมองความคิดและการใช้ชีวิต ไม่โกรธง่ายเหมือนแต่ก่อน เชื่อใจคนง่ายขึ้น อาชีพเปลี่ยน สังคมการใช้ชีวิตเปลี่ยน และอายุมากขึ้น ทําให้ใจเย็นมากขึ้น โดยเฉพาะ รู้คุณค่าของเงิน เพราะการเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านเครื่องเทศ กว่าจะได้เงินยากลําบากมาก 
ชีวิตตอนนี้ของบุ๋มตั้งแต่ 35-49 ทุกอย่างลงตัว มีความสุขมาก อยู่อย่างพอเพียง มีคอนโดฯ 1 ห้อง มีรถยนต์ 1 คัน มีงานทําที่มั่นคง มีบ้านหลังเล็กๆ ในไทย ทําให้ไม่เครียด และไม่คิดจะมีอะไรหรูหราฟุ่มเฟือยอยากจะได้อยากจะมี ชีวิตที่นี่ นอกจากการทํางานแล้ว บุ๋มชอบเดินทางท่องเที่ยว” 

     กว่า 11 ปีกับการครองความโสดโดยไร้คนรู้ใจมายืนเคียงข้าง วันนี้ “บุ๋ม-ตรีรัก” ก็ยังคงยืนยันว่า เธอยังคงมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี้ และยังไม่เจอคนที่ใช่ในความรู้สึกเธอ

     “มีคนเข้ามามากมายทั้งชาวไทยและเทศ บุ๋มปิดเรื่องความรัก และตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ แต่เวลานี้ยังไม่เจอ ใครเข้ามา   ก็คุย แต่เวลาขอเบอร์เราไม่เคยให้ เพราะเรารู้ว่าไม่มีทาง และเราเป็นคนมีกฎเกณฑ์ ตีกรอบตัวเองตลอด มีโลกส่วนตัว รักอิสระ และแข็งแกร่ง ดังนั้น ผู้ชายที่จะเข้ามายืนอยู่ข้างๆ ต้องเข้าใจเรามากๆ เป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะผู้หญิงอายุมากยิ่งมองว่าเขาจะจริงใจกับเราหรือเปล่า บุ๋มไม่แคร์ด้วย เพราะบุ๋มอยู่ตัวคนเดียวได้ 

     ส่วนมุมมองความรักสําหรับบุ๋มคือ ความเข้าใจ เข้าใจเราและเข้าใจเขา ยอมรับข้อดีข้อเสียซึ่งกันและกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ไม่แคร์อดีต แต่วันนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ และที่สําคัญต้องเก่งและเป็นผู้ใหญ่กว่า ดูแลเราได้ ส่วนการแต่งงานไม่ใช่      เรื่องสําคัญ ไม่ใช่สิ่งจําเป็น แต่สิ่งที่มองคือ สามารถดูแลเราได้ หรือเปล่า”

     วันนี้ เธอยังขอเดินหน้าทํางานในอาชีพที่รักอย่างการดูแลสุนัขและแมว ณ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อไปอีก 15 ปี โดยคาดว่าเร็วๆ นี้ อาจจะมีโอกาสจับมือกับพันธมิตรเพื่อทําธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง หลังจากเคยพับแผนการเปิดร้านไปก่อนหน้านี้ ส่วนผลงานในวงการบันเทิง ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ใจอ่อนรับงานใดๆ แม้ใจจะคิดถึงก็ตาม