ฟรีทีวี ระส่ำ เมื่อพิธีกรข่าวแตกรัง

ฟรีทีวี ระส่ำ เมื่อพิธีกรข่าวแตกรัง

1

ฟรีทีวี ระส่ำ เมื่อพิธีกรข่าวแตกรัง

     ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านจากโทรทัศน์ระบบ  อนาล็อคไปสู่ระบบทีวีดิจิตอล นอกจากการสรรหา คอนเทนต์ของรายการและละครที่มีความแตกต่างแล้ว บุคลากรด้านงานข่าว ยังเป็นหนึ่งส่วนสําคัญ สําหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลหน้าใหม่ เพราะ ไม่ว่าจะเป็นช่องทีวีดิจิตอลประเภทใดก็ตาม จําต้องมีสัดส่วนข่าวไม่ต่ำกว่า 25% อยู่ในผังรายการเหมือนกัน ทุกช่อง

     ทําให้เกิดเส้นทางลัดของการสร้างจุดแข็งให้เกิดขึ้นกับช่อง นั่นคือ การดึงตัวผู้ประกาศข่าว หรือทีมข่าวที่มีความเก๋ามาร่วมงาน เกิดภาพการโยกย้ายของคนข่าวมืออาชีพจากช่องหนึ่งไปยังอีกช่องหนึ่ง อาทิ อดีตทีมผู้ประกาศข่าวจากช่อง 5 มนัส ตั้งสุข, กรสุมา เจียมสระน้อย ย้ายมาอยู่ช่อง PPTV เช่นเดียวกับ บรรจง ชีวมงคลกานต์ จาก เนชั่น ชาแนล

     นอกจากนี้ยังมี เขมสรณ์ หนูขาว และ สืบสกุล พันธ์ุดี อดีตผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่จากช่อง 5 ซึ่งขอย้ายข้ามค่ายมาอยู่กับช่องไทยรัฐทีวี แต่ดูเหนือชั้นกว่าคงจะเป็นช่อง VOICE TV ที่สามารถดึงอดีตคนข่าวไอทีวี ธีรัตถ์ รัตนเสวี กลับมาร่วมงานในตําแหน่งผู้อํานวยการฝ่ายรายการและสื่อดิจิตอล ฟากช่อง 3 ก็ไม่น้อยหน้า ล่าสุดได้คุณพ่อน้องณัชชา บ๊อบ-ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ และ ประวีณมัย บ่ายคล้อย อดีตผู้ประกาศข่าวช่องไทยพีบีเอส มาร่วมครอบครัวข่าว 3 เมื่อเร็วๆ นี้ 

     มนัส ตั้งสุข อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง 5 ที่ข้ามมาเป็นผู้ประกาศข่าวช่อง PPTV เผยถึงการปรับเปลี่ยนสังกัดว่า 

     “ผม กับ กรสุมา เจียมสระน้อย มารับหน้าที่พิธีกรข่าวหลักทาง PPTV คุณเขมสรณ์ หนูขาว คุณสืบสกุล พันธ์ุดี ไปอยู่ไทยรัฐทีวี ตอนนี้ยังไม่เปิดตัว แล้วก็มีน้องปรินดา คุ้มธรรมพินิจ, น้องรวิฌา ทังสุ-บุตร จากช่อง 5 มาร่วมทีมผู้ผลิต ตอนนี้พิธีกรหลักจากช่องต่างๆ ถูกดึงตัวแทบจะทุกช่อง ค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้น ผมถือว่าทุกคน   มีศักยภาพ แล้วก็มีคุณภาพ ที่สําคัญที่สุดคือ อยู่กับข่าวในงานที่เรารักมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น พอถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนผ่าน องค์กร หรือแม้แต่ช่อง 5 เองก็ยอมรับได้ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนผมและเพื่อนๆ ที่ขยับตัวออกมา และองค์กรใหม่ที่เข้าไปก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นเดียวกัน

      ถ้ามองอย่างคิดบวก ผมขยับออกมา น้องๆ หลาย คนก็มีโอกาสโตด้วย นี่จะเป็นประโยชน์สําหรับคนดูมากกว่า เป็นยุคเปลี่ยนผ่านของสื่อสารมวลชน เป็นโอกาสของคนข่าวที่ได้เข้ามาทํางานตรงนี้”

      นอกจากนี้ “มนัส” ยังพูดถึงความแตกต่างระหว่างคนข่าวรุ่นเก่า และคนข่าวในยุคปัจจุบันว่า 

      “ผู้ประกาศข่าวหลายคนไม่ได้อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชนมาก่อน แต่หลายคนมีโอกาสจากกิจกรรมที่ตัวเองได้สั่งสมประสบการณ์มา ซึ่งต่างจากผู้ประกาศในยุคก่อนที่เรียนสายตรง แต่พอมาถึงยุคปัจจุบันมีการมิกซ์กันเกิดขึ้น มีความสามารถส่วนตัว มีพรสวรรค์บวกกับพรแสวงแทรกเข้าไปอีก ทําให้กลายเป็นว่า ผู้ประกาศสมัยนี้เปรียบเสมือนซูเปอร์สตาร์ ดารา ไปไหนก็จะเป็นที่รู้จัก แล้วก็ที่สําคัญที่สุดคือ เรื่องคุณภาพ ผมว่าทุกคนขยัน ทุกคนทําการบ้าน มีประสบ- การณ์ และอยู่ในสนามข่าวด้วย” 

       เช่นเดียวกับ “ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท” ผู้ประกาศ ข่าวชื่อดังจากช่อง 3 เป็นอีกหนึ่งคนข่าวที่เคยผ่านประสบการณ์การปรับเปลี่ยนข้ามช่อง แม้วันนี้ไม่ได้ข้ามช่องไปไหนไกล แต่ทีวีดิจิตอลกําลังจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเขา

       “มันเป็นยุคของคนวงการทีวี เพราะว่ามีช่องทางมากมายเกิดขึ้นจากทีวีดิจิตอล เพราะฉะนั้น มันเป็นธรรมดาที่มีการปรับเปลี่ยน โยกย้าย และเป็นโอกาสของคนทีวีที่จะได้ผลักดันตัวเอง พิสูจน์ศักยภาพตัวเอง เพราะฉะนั้น คนวงการทีวีจะมีจุดหนึ่งคือ คนอาจจะติดกับภาพหน้าจอ และภาพความกตัญญูกตเวที แต่จริงๆ คนในวงการทีวีเข้าใจกันว่า การปรับเปลี่ยนและเพิ่มโอกาสให้กับตนเอง เป็นเรื่องธรรมดา 

       ผมเคยตอบคําถามนี้มา ตอนผมย้ายจากช่อง 7 มาช่อง 3 ผมเคยคิดอยู่ในใจว่า ผมพูดผิดคําเดียว คือ ผมจะทดแทนความกตัญญูกตเวทีนั้นได้อย่างไร เหมือนกับว่า ผมเกิดจากช่อง 7 และเป็นที่แรกที่ให้โอกาส แต่ว่าในมุมของผมได้รับคําดีๆ กลับมาว่า ไปเพิ่มศักยภาพของตัวเอง เพิ่มบทบาทของตัวเอง ไปเพิ่มความท้าทายให้กับตัวเอง 

       ทีวีมีแค่กรอบสี่เหลี่ยม แต่จํากัดด้วยเวลา ใน 1 ช่องมีเวลาได้เท่านี้ แต่อีกช่องมีเวลาและโอกาสให้ ได้พิสูจน์อะไรมากขึ้น การปรับเปลี่ยนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราจะทดแทนบุญคุณได้อย่างไร ส่วนตัวผมจะพูดอยู่เสมอว่า เกิดและโตจากช่อง 7 ในทํานองเดียวกัน ณ เวลานี้ที่มีการเปลี่ยนแปลง ก็เหมือนกัน เราจะได้เห็นว่า แต่ละคนมีต้นกําเนิดมาจากไหนอยู่แล้ว และทุกคนจะทราบกันอยู่แล้วถ้าเป็นแฟนของคนๆ นั้น และถ้าเขามีโอกาสได้เติบโต มีชีวิตที่ดีขึ้นก็น่าจะดีใจกับเขา” 

       วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านของคนข่าวให้เราได้เห็นกัน หลังจากทีวีดิจิตอลเข้าสู่การออกอากาศอย่างเป็นทางการ ความเข้มข้นของวงการโทรทัศน์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายใครจะอยู่รอดได้ ผู้ชม คือ ผู้ตัดสิน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments