"มาริโอ้" ไม่เที่ยวแต่เข้าผับเพื่อ "โช"

"มาริโอ้" ไม่เที่ยวแต่เข้าผับเพื่อ "โช"

3

               พระเอกพันล้าน “โอ้ มาริโอ เมาเร่อ” ที่ยามนี้หนีความเป็นเพราะดาราคิวทองไปไม่ได้แน่ๆ งานนี้ผู้จัดการส่วนตัว ที่คลิกกันลงตัวมานานถึง 3-4 ปี แล้วอย่าง “โช พิษณุ ประยูรทอง” คงต้องทำงานหนักกว่าเดิมเป็นแน่ จากที่ผ่านมาปฎิเสธไม่ได้ว่า ผู้จัดการส่วนตัว คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เรามาทำความรู้จักกับ ผู้จัดการส่วนตัวของมาริโอ้ รวมทั้งให้เมาท์มาริโอ้ให้เราฟังกันดีกว่า

ก่อนมาเป็นผู้จัดการดารา...
               “โชเคยทำงานออแกไนซ์มาก่อน ก็ได้เจอพี่ "เอ ศุภชัย" ตามงานบ้าง พี่เอก็เลยดึงมาช่วยงาน ให้มาช่วยดูเวียร์ก่อน ทำงานเป็นผู้จัดการดาราก็ถือว่าเป็นงานที่ไม่ได้หนักมาก เราแค่โฟกัสที่น้องกับเรื่องงาน ต้องออกตัวก่อนว่าโชไม่ได้เป็นคนเก่ง แต่โชคดีที่น้องๆ เขามีผลงานและได้รับความนิยม เราก็ไม่ผลักดันมาก งานมันก็จะเข้ามาหาเราเอง ส่วนรายได้เราก็ได้จากทั้งพี่เอด้วยจากทั้งน้องด้วย”

มาเป็นผู้จัดการมาริโอ้...
                “พอโอ้เข้ามาอยู่ในสังกัดพี่เอแล้ว ตอนนั้นเป็นวันเกิดโอ้พอดีแล้วเขาไปจะทำบุญที่เด็กกำพร้า และมีทติ้งแฟนคลับไปด้วย พี่เอก็บอกว่าน้องโชไปช่วยดูโอ้หน่อย ก่อนหน้านี้ก็รู้จักกันเคยเจอกันที่บ้านพี่เอ ก็พูดคุยกันตามปกติ พอผ่านมาสักระยะหนึ่งพี่เอก็บอกว่าจะให้น้องโชช่วยดูโอ้นะ ถึงตอนนี้ก็ประมาณ 3-4 ปีแล้ว จริงๆ แล้วโชอยู่กับพี่เอประมาณ 7 ปี ก่อนหน้านี้โชดู "เวียร์" มาก่อน ดู "เวียร์" ดู "โอ้" แล้วก็มาดู "เคน ภูภูมิ" ต่อ
                 คือตอนแรก "โช" ต้องวิ่งดู "เวียร์" เป็นหลัก ก็จะมีเวลาให้ "โอ้" น้อยมาก แต่พอทำงานกันไปเรื่อยๆ เวียร์เขาก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น โตขึ้น เขาก็อยู่คนเดียวได้ เวลาไปกองถ่ายอะไรอย่างนี้ เราก็เลยมาทุ่มเวลาให้โอ้ เขาก็มีงานเยอะเราก็ช่วยดูแลเขา ทั้งเรื่องคิว ทั้งเรื่องงาน หรืออย่างเวลาไปกองถ่าย เขาก็จะถามผู้กำกับด้วย แล้วก็จะมาถามกับเราด้วยว่าเขาเล่นเป็นยังไงบ้าง เหมือนเราไปนั่งในฐานะคนดู ถ้าเราดูเขาแล้วเราอินกับการแสดงของเขา คนดูก็น่าจะอินด้วย พออยู่ด้วยกันเรื่อยๆ ก็ติดว่า เวลาเราไปกองเรา ก็ต้องไปคอยเช็คให้เขาว่าเล่นซีนไหนโอเค ซีนไหนไม่โอเค
                  เราดูแลเขา เราก็จะหางานให้ด้วย โดยส่วนตัวน้องเขาดังอยู่แล้ว ก็จะมีงานนู่นนี่เข้ามา เราก็คอยเลือกให้เขา สกรีนงานให้เขา คือเวลาทำงาน โชบอกเขาแต่แรกแล้วว่าเราทำงานเป็นอารมณ์เพื่อนนะ เราจะไม่มานั่งพูดว่าโอ้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เรามาแชร์กันว่า งานนี้โอเคหรือเปล่า คือตอนนี้เราเหมือนเพื่อนกันมากกว่า คุยกันได้ทุกเรื่อง บางทีเรามีปัญหายังปรึกษาเขาเลย ซึ่งเขาก็ให้คำแนะนำเราได้ หรือบางทีเขามีปัญหาส่วนตัวเขาก็มาคุยกับเราว่าจะยังไงดี เราก็ต้องช่วยกัน เพราะว่าเรื่องส่วนตัวของเขา บางทีคนก็อยากรู้ด้วย คือเราต้องช่วยเขาด้วยว่าจะต้องเดินอย่างไรถึงจะโอเคอะไรอย่างนี้”

อยู่ด้วยกันตลอดไหม...
                “อยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน วันละหลายชั่วโมง แต่ว่าเวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยได้คุยกันนะ ถ้าไปอยู่ที่กองถ่ายเขาก็ทำงานของเขาไป เราก็คอยเช็คดูมอร์นิเตอร์ แต่ว่าพอเขาเลิกทำงานขึ้นรถกลับ เขาก็จะคุยๆ มีเรื่องอะไรเขาก็จะมานั่งเล่าให้เราฟัง โอ้เป็นคนที่คุยเยอะมาก ช่างเล่า คือถ้าต่อหน้าคนอื่นที่เขาไม่สนิทก็จะนิ่งๆ เงียบๆ เรื่องที่เขาชอบเอามาคุยมาเล่าก็จะเป็นเรื่องรถ เรื่องของเล่น”

อยู่ด้วยกันมีขัดใจกันไหม...
               “ก็มีนะ คือจริงๆ เราสองคนเนี่ยนิสัยเหมือนกัน คือขี้นอยด์ เวลามีอะไรผิดนึดนึงเราก็จะนอยด์ คือโชจะนอยด์เองมากกว่า คือถ้าโชทำอะไรผิดก็จะนอยด์ เขาก็จะบอกพี่โชไม่ต้องนอยด์”

โอ้เคยคุยเรื่องสเป็คสาวๆ ไหม
              “ไม่มีสเป็คเลย คือเราก็บอกเขาว่า ถ้าสมมติว่ามีใครเข้ามาก็ดูดีๆ นะ เพราะไม่รู้ว่าต่างคนต่างเข้ามาหาเรา เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง เอาง่ายๆ ก็คือน้องเป็นคนที่แบบว่าคนก็จับจ้อง แต่ว่าเราก็ไม่รู้หรอกว่าแบล็กกราวแต่ละคนน่ะเป็นยังไง คือมันก็มีแบบน่ากลัวๆ เยอะ”

มุมรั่วๆ ของโอ้...
              “โอ้ชอบฟังเพลง แต่ไม่ชอบร้องเพลง แต่จริงๆ เขาก็ร้องเพลงโอเคนะ ไม่ได้แย่นะ แต่ว่าเขาจะไม่มั่นใจในการที่จะต้องไปร้องเพลงต่อหน้าคน แต่พอเวลาขึ้นรถ เขาก็จะฮัมเพลงจนเราไม่ต้องเปิดเครื่องเสียงในรถเลย คือเขาร้องเพลงเพื่อให้ผ่อนคลาย แต่เขาไม่ชอบร้องเพลงต่อหน้าคน”

เรื่องอาหารการกิน...
             “ไม่กินเลย โอ้เป็นคนที่กินน้อยมาก จนบางครั้งเราต้องบังคับ เขากลัวอ้วน ก็จะออกกำลังกาย แต่ไม่ค่อยกิน จนเราต้องบอกว่าโอ้ต้องกินนะ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่มีแรง”

เรื่องเซอร์ไพรส์กันและกัน...
             “ไม่ค่อยนะ เพราะว่าอยู่กันจนชิน แล้วโอ้เป็นคนที่แบบว่าถ้าสิ่งไหนที่เขาชอบเขาจะแฮปปี้ แต่ถ้าเขาไม่ชอบ เขาก็จะนิ่งๆ เฉยๆ เราก็เลยไม่กล้าไปเซอร์ไพรส์เพราะกลัวไม่ถูกใจ แต่ว่าเขาจะมีมาเซอร์ไพรส์เราเรื่อยๆ มีอยู่ปีนึงเป็นวันเกิดเรา แล้วตรงกับงานของสหมงคลฟิล์ม ซึ่งวันนั้นคนเยอะมาก เขาก็ขึ้นไปเบิร์ดเดย์เราบนเวที เราก็ประทับใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ หรืออย่างล่าสุด คือโอ้เป็นคนไม่ชอบเที่ยวเลย ไม่ชอบผับ บาร์ แล้วพอวันเกิดเรา เรากับเพื่อนๆ ก็อยากไปจัดวันเกิดที่ผับ แต่เราก็รู้ว่าเขาไม่ชอบไปผับ แต่สุดท้ายเขาก็มา เขาก็บอกว่าปีนึงโอ้เที่ยวผับแค่ครั้งเดียวก็คือวันเกิดพี่โชนี่แหละ”

ความประทับใจที่มีให้กัน...
             “คือตรงนี้มันเป็นเหมือนเพื่อน แล้วเวลาเรามีปัญหาเขาก็จะคอยช่วยปลอบ คอยให้กำลังใจ คือแค่นี้เราก็โอเคแล้ว มันเหมือนมีเพื่อนสนิทคนนึงที่แบบเรารู้สึกดีเวลาเราทำงานด้วยเราไม่ต้องเครียด กับโอ้นี่พูดได้เลยว่าเราพูดให้เขาฟังได้ทุกเรื่อง คือเขาต้องรู้ความเป็นเรา เราก็ต้องรู้ความเป็นเขา มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ พูดเลยได้ว่าช่วงหลังๆ นี้ โชต้องดูแลโอ้มาก เอาจริงๆ ก็คือตั้งแต่ตอนที่มีข่าว เราก็รู้สึกว่าเป็นช่วงที่แย่ในชีวิตเขา เราจะทิ้งเขาได้ยังไง เราก็ต้องคอยซัพพอร์ทเขา คอยช่วยเหลือเขา แล้วพอผ่านเรื่องอะไรร้ายๆ มา มันก็เป็นช่วงที่เขาต้องทำงานหนักมาก เราก็เป็นห่วงเขาทิ้งไม่ได้”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments