ที่นี่ที่เดียว! เปิดใจ "บักจ่อย" จากดินสู่ดาว

ที่นี่ที่เดียว! เปิดใจ "บักจ่อย" จากดินสู่ดาว

1

เส้นทางชีวิต“เต้ย”  “บักจ่อย” แห่ง “คุณชายรัชชานนท์” รับคุณแม่เจ๊ดันสู่โลกมายา

                 จากนักแสดงที่ไม่มีใครคาดคิดหลายๆ จากละครซีรี่ย์“สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ตอนคุณชายรัชชานนท์กันแทบทุกคนอย่างล่าสุด “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์”  จากบท “บักจ่อย” ก็โด่งดังเป็นพลุแตกแบบไม่คาดคิดมาก่อน
                 ล่าสุดจนสาวๆ เทคะแนนอยากเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจกันแทบทุกคนลองมาดูกันว่าหนุ่มหล่อมีเสน่ห์คนล่าสุดที่ตบเท้าสู่โลกมายาหลังจากจบเวที the idols 2  กระโดดสู่ถนนสายนี้ได้อย่างไรแถมลองมาค้นหัวใจดูว่ามีสาวครอบครองหรือยัง ?



เห็นว่าตอนประกวด “คุณแม่” ส่งเสริมด้วย ?
                “ใช่ครับ..คุณแม่เป็นคนอยากให้ผมเข้าประกวดthe idol 2 ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วแล้วพอเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายชาย 5 หญิง 5 แล้วก็ชนะในรายการ เป็น top of  the idol  ก็ดีใจนะครับ”
คุณแม่นึกยังไงถึงอยากให้”เต้ย”ประกวด ?
                “คุณแม่เห็นผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาโฆษณา อยู่แล้วครับแล้วครับอย่างผมเองก็เล่นละครเวทีด้วยที่ ม.กรุงเทพ พอคุณแม่เห็นว่าเกี่ยวๆ กับการแสดงทางช่อง 3 อยู่แล้วยิ่งท่านชอบพี่ "เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธุ์” ก็เลยอยากให้ลูกได้ทำงานตรงนี้บ้าง”
แสดงว่าคุณแม่คิดไว้อยากจะดันลูกเข้าวงการ ?
                “ถ้าเป็นความคิดท่านน่าจะใช่ครับนะครับ”
พอเข้าประกวดแล้วได้รางวัชนะเลิศความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?
                “แค่เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายก็ดีใจแล้วครับ แต่ได้ตำแหน่งหรือเปล่าตอนนั้นก็ไม่ได้หวังหรอกครับเพราะว่าคนมาสมัครเยอะมากผมรอคิวตั้งแต่เช้าจนถึงมืดเลยแล้วพอรู้ว่าเข้ารอบก็ดีใจมากทางบ้านก็ดีใจมาก เพราะก็ไม่เคยชนะเลย เพราะท่านคิดว่าแค่ผมเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายก็ดีใจมากแล้วอีกอย่างก็เป็นเวทีแรกเลย”
พอเข้ามาทำงานตอนนั้นยังต้องรียนการแสดงหรือเรียนอะไรเพิ่มไหม ?
                “มีครับ ก็มีเรียนแอ็คติ้งกับครูเงาะ(รสสุคนธ์ กองเกตุ) ครับเรียนกับครูเงาะประมาณ 20 ครั้งนอกนั้นก็มีไปเรียนร้องเพลงบ้าง”
เส้นทางการแคสติ้งละครเรื่องแรกๆเป็นยังไงบ้าง ?
                “เรื่องแรกก็ละครซีรี่ย์ “คุณชายรัชชานนท์”เลยครับมาแคสติ้งกับพี่แดง(ธัญญา วชิรบรรจง)กับพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) แคสอยู่ 2 วันแล้วพี่แดงก็โทรศัพท์กลับมาว่ามาเจอกันที่ช่อง 3 หน่อยซึ่งตอนนั้นให้ลองเทสต์แบบอัดเทปไว้เป็นบทบักจ่อยสั้นๆ นี่แหละครับ จากนั้นพี่แดงก็เรียกให้ผมเจอกันวันฟิตติ้ง”
หลังจากฟิตติ้งแล้วเป็นยังไงต่อ ?
                “หลังจากฟิตติ้งแล้วต้องบอกว่าของแบบนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนนะครับเพราะว่าบางทีฟิตติ้งไปแล้วเริ่มถ่ายไปแล้วก็มีเปลี่ยนตัวได้เลยไม่ประมาท พอผมได้บทมาก็ศึกษาแล้วอีก 1 อาทิตย์พี่อ๊อฟก็จัดworkshopขึ้นมาให้นักแสงมาเจอกันทำความสนิทสนมกัน พี่ออฟก็บอกไว้ตั้งแต่วันฟิตติ้งแล้วล่ะแต่ผมก็ไม่ประมาท”
ฉากแรกเป็นยังไงบ้างละครเรื่องแรก ?
                “ยังจำได้แม่นอยู่เลยครับฉากแรกผมเข้ากับพี่แต้ว(ณฐพร เตมีย์รักษ์) คือลงจากบันไดมาแล้วถูกถามว่าจะออกจากหมู่บ้านไปทำไม ตอนนั้นพี่ออฟยังถ่ายรูปไว้ให้เลยว่านี่คือฉากแรกของเองนะ”
ประหม่ามั้ยตั้งแต่ซีนแรกจนถึงซีนทุกสุดท้ายของ “เต้ย”  ?
                “อ๋อ ! ครับแรกๆผมประมาทมากเข้าฉากกับพี่แต้วนางเอกมากฝีมือนะก็เกร็งมากเลยครับแต่พอเล่นไปเรื่อยๆ เริ่มสนิทสนมกันก็ไม่เกร็งแล้วครับก็อีกอย่างผมพยายามบอกตัวเองว่าอย่าประมาทว่าถ้าทำฉากแรกๆได้แล้วก็ต้องทำทุกฉากให้ดีที่สุด”
เรียนการแสดงมาระดับหนึ่งช่วยตรงจุดไหนบ้าง ?
               “ช่วยได้เยอะเลยครับ...แต่สำหรับละครเวทีจะต้องเล่นใหญ่กว่าหน่อยแต่ละครที่มีกล้องตัดแล้วซูมไปใกล้ๆแล้วเล่นได้หลายครั้งแต่ละครเวทีจะเป็นการเล่นแค่ครั้งเดียวแล้วยาวเลยซึ่งโชคดีที่ผมมีพื้นฐานแล้วก็นำไปปรับใช้ช่วยได้เยอะทีเดียว”
เข้าฉากกับนักแสดงท่านอื่นๆ เป็นยังไงบ้าง ?
               “เข้าฉากกับพี่รุ่นใหญ่ๆ ก็ดีครับจำได้ว่าเข้าฉากที่ 3 กับพี่โอลิเวอร์ บีเวอร์ ,  พี่เจี๊ยบ-ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ แล้วพวกพี่เขาส่งมาอารมณ์มา ปึ้งปึ้ง ปึ้งก็ต้องตะเกียกตะกายทำให้ออกมาดีที่สุดแล้วพอเวลามาดูจอมอนิเตอร์ก็จะรู้สึกได้เลยว่าพลาดตรงไหนแล้วพี่อ๊อฟก็จะเรียกมาคุยว่าต้องนี้ต้องแบบนี้ อารมณ์แบบนี้”
แล้วซีนที่เข้ากับ “พี่ออฟ” ล่ะเป็นยังไงบ้าง ?
               “ก็ไม่เกร็งนะครับจะไปเกร็งพี่ออฟตอนเวิร์คชอปครั้งแรกๆ มากกว่าซึ่งตอนเจอพี่เขาครั้งแรกพี่ออฟจะดูเหมือนคนที่ดุแต่จริงๆแล้วพี่เขาตลกมากแล้วพี่เขาจะมีวิธีการทำให้นักแสดงผ่อนคลายพอผมเวลาเข้าฉากแล้วเราจะไม่เกร็งเลยคือ เขาส่งมาให้ดีมากเลย”
ชีวิตที่ต้องกินนอนกองถ่ายล่ะ ?
               “ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาขึ้นรถตอนตี 4 ทำงานที่โคราช 7 โมงเช้าแล้วถ่ายถึงดึกอีกวันพอกลับถึงบ้าน เที่ยงคืนแล้วก็ต้องนอนอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ไปกาญจนบุรีต่อเลยเรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นซอมบี้ไปเลย ถือว่าหนักมากเลยครับ แล้วผมเองก็ไม่เคยทำงานเจอแบบนี้มาก่อน พอลงสนามจริงแล้วหนักกว่าที่คิดหนักกว่าที่เรียนมา 2 กองนี้ก็ไม่เหมือนกันด้วยถ่ายไม่เหมือนกัน ตอนเป็นบักจ่อยจะเป็นเป็นแบบถ่ายธรรมดามากแต่พอตอนถ่ายทำซีรีย์ละคร “พันท้ายนรสิงห์” บทจะเป็นแบบผู้ใหญ่กว่าซึ่งต้องแยกให้ออกว่าตอนนี้อยู่กองถ่ายไหนเล่นเป็นตัวอะไรอยู่”
ตอนเล่นละคร “รัชชานนท์” ถือวามีเพื่อนๆเพิ่มขึ้นมั้ยสนิทกันหรือเปล่า ?    
               “อ๋อถ้าเป็นกลุ่มเพื่อนๆ กลุ่มนี้จะสนิทกับบอมบ์ , พี่ท็อปก็จะสนิทกันตั้งแต่เรียนแอคติ้งแล้วครับแต่บางคนอย่างสาวๆ ก็พึ่งมาสนิทกัน”
แสดงศักยภาพด้านการแสดงเยอะทีเดียวฉากไหนที่คิดว่ายากสุด ?
               “ฉากที่ต้องเมาเมาสุดๆเลยเพราะว่าผมกินแอลกอฮอลล์ไม่ได้ป็นคนแพ้แอลกอฮอลล์พี่ออฟก็เลยบอกผมว่า ไม่จำเป็นต้องเมาจริงๆให้นึกถึงเวลาคนเมาเขาทำยังไง คนเมาเป็นยังไง คนเมาเขาจะพยายามยืนตรงไม่ใช่เดินเซ แล้วคำพูดจำค่อนข้างช้าไม่ค่อยรู้เรื่องมันเป็นคนที่จะหลับครับ พี่ออฟก็จะช่วยผมได้เยอะมากเป็นคนที่เข้าใจนักแสดงทุกคนตรงนี้ถือว่าโชคดีมาก” 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้นสังกัดร่อนแถลงการณ์ “พร้อม ราชภัทร” ยุติสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัด

“เก๋ไก๋ สไลเดอร์” โพสต์อาลัย “คุณพ่อ” พร้อมแจ้งกำหนดการพิธี

“โอบ” ควง “ปราง” ร่วมจอยวันเกิดคุณแม่ ครอบครัวสุขสันต์แค่แคปชั่นคือที่สุด!

“บอย-หน่อง-ภัทร์-วันใหม่” ลอยอังคารส่ง “คุณแม่งามทิพย์” ที่เดียวกับคุณพ่อ

เพลงสุดเจ็บปวด! “เจฟ ซาเตอร์” ประกาศปล่อยซิงเกิลใหม่ที่ทุกคนรอคอย “Tell Me The Name”

รู้แล้ว! “อั้ม พัชราภา” โพสต์ภาพคู่ “ทนายแก้ว” ทำเรื่องอะไร?

อินฟลูและติ๊กต๊อกเกอร์สายฮาทำบุญวันเกิด 33 แล้วจ้า

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments