เรื่องย่อละคร เรือนเสน่หา

เรื่องย่อละคร เรือนเสน่หา

1

       “เรือนเสน่หา”
บทประพันธ์ – บทโทรทัศน์ : ชวนนท์ สารพัฒน์, อภิศรา วงศร, วรรณถวิล สุขน้อย
กำกับการแสดง : ฉัตรชัย  สุรสิทธิ์        อำนวยการผลิต : นิพนธ์  ผิวเณร, ถกลเกียรติ  วีรวรรณ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
        พุทธศักราช 2448 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกเลิกการมีทาสไปแล้ว ผู้ชายโดยเฉพาะเจ้าขุนมูลนายนิยมมีภรรยาหลายคน   ขณะที่ฝ่ายชายต่อสู้และแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่ทางสังคม ฝ่ายหญิงก็ต่อสู้เพื่ออำนาจในเรือน   ครอบครัวของคุณหลวงธำรงค์นคราเอง(ศักดิ์สิทธิ์  แท่งทอง) ก็เช่นกัน คุณหลวงมีภรรยาเอกคือ ชมนาด(น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) หญิงสาวจากตระกูลสูง  
  


    และเอื้องคำ(พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวพ่อค้าจากเชียงใหม่  ทั้งสองคนต่างต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้เป็นคนโปรดของคุณหลวง  ชมนาดนั้นมีอีอี่(รัญญา ศิยานนท์) เป็นบ่าวคนสนิทคอยรับใช้เป็นหูเป็นตาให้  ส่วนเอื้องคำมีอีมุ่ย(ณหทัย พิจิตรา) บ่าวที่ติดตามมาจากเชียงใหม่เป็นบ่าวคนสนิท   และคอยเป็นหูเป็นตาเช่นกัน ทั้งชมนาดและเอื้องคำมักมีเรื่องกันบ่อยครั้ง เพราะเอื้องคำนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจ เจ้าคิดเจ้าแค้น จึงไม่ยอมลงให้กับชมนาดเมียเอก

 



   ส่วนชมนาดนั้น  ภายนอกดูเป็นคนจิตใจดี  มีเมตตากรุณา  แต่ซ่อนความเลือดเย็นเอาไว้  แต่เอื้องคำและอีมุ่ยมองทะลุเข้าไปถึงใต้ท่าทีเหล่านั้น  จึงไม่วางใจในตัวชมนาด  เมื่อเมียบ่าวที่ชื่อสร้อย(อุทัยศรี ศรีณรงค์) เกิดตั้งท้องขึ้นมา  ชมนาดก็แอบจัดการฆ่าไปเสียโดยใช้บึ้งชะงัก  แล้วแอบใส่ความโยนความผิดให้เอื้องคำ  ระหว่างนั้นเอื้องคำเกิดตั้งท้อง  คุณหลวงจึงให้รอคลอดลูกให้เรียบร้อย  แล้วไสหัวเอื้องคำและอีมุ่ยออกไป 

 


    เอื้องคำแค้นใจมากที่ไม่มีใครเชื่อตน  ด้วยความแค้นเอื้องคำจึงแอบไปบนเรือนชมนาดจะฆ่าแต่ก็พลาดต้องตกบันไดลงมาแท้งลูก  ทำให้เอื้องคำไม่เหลืออะไรอีกแล้ว  รอเพียงวันที่จะออกไปจากเรือนเท่านั้น  ปราฏกว่าในวันที่ต้องออกไปจากเรือน  เอื้องคำเกิดเสียสติร้องหาลูก  ทำให้คุณหลวงสงสารเลี้ยงดูให้อยู่ในเรือนต่อไป  แม้เอื้องคำจะตกต่ำลงไปแล้ว  ชมนาดก็ยังนอนใจไม่ได้ เพราะยังเหลือ มะลิ(โสภิตนภา ชุมภาณี) 

 


    เมียบ่าวแสนซื่อของคุณหลวงอีกคนที่เป็นหนามยอกอก  ยิ่งไปกว่านั้น มะลิและไอ้มิ่ง(อาณัตพล ศิริชุมแสง) บ่าวชายเกิดไปรู้เห็นเรื่องบึ้งชะงักเข้า  ยิ่งทำให้ชมนาดต้องกำจัดมะลิกับไอ้มิ่ง  ด้วยการใส่ความว่าทั้งสองคนเป็นชู้กัน เมื่อคุณหลวงมาเห็นก็โมโหมาก สั่งลงโทษและไล่ออกจากเรือนไป  มะลิ ไอ้มิ่งและป้าพิศ(พิมพ์แข  กุญชร ณ อยุธยา) ป้าของไอ้มิ่งหนีไปตั้งหลักที่วัด  ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านคุณหลวงมากนัก

   หลวงตาน้อย(สรพงศ์  ชาตรี) พระที่ให้ความช่วยเหลือ ให้ทั้งหมดอยู่ที่กระท่อมท้ายวัด  ปรากฏว่า มะลิมีลูกคุณหลวงติดท้องมาด้วย ทำให้ทุกคนยังออกเดินทางไปตั้งรกรากที่อื่นไม่ได้ ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน ส่วนชมนาดเองก็เกิดตั้งท้องขึ้นมาเช่นกัน
      

 


   วันหนึ่ง อีอี่ไปที่วัดก็แอบเห็นไอ้มิ่งแล้วตามไป จึงได้รู้ว่ามะลิตั้งท้องลูกของคุณหลวงเช่นกัน  ชมนาดสั่งอีอี่ให้จัดการพวกของมะลิ  เย็นวันนั้นมะลิคลอดลูกแฝดชายออกมา  พอตกดึกอีอี่แอบตามมาเผาบ้านหวังให้ทุกคนตายคากองเพลิง  มะลิคว้าลูกมาได้เพียงคนเดียว  ส่วนลูกอีกคนที่หน้าอกโดนพระที่หลวงตาน้อยให้มาร่วงใส่อกจนเป็นรอยแผลเป็นนั้นคาอยู่ในกองไฟกับป้าพิศ  มะลิและไอ้มิ่งหนีออกมาได้ก็สลบอยู่ที่ข้างบ้าน  หารู้ไม่ว่าป้าพิศโยนเด็กอีกคนออกมาได้  เด็กไปคาอยู่บนกอผักบุ้ง 

 


    ทางฝั่งชมนาดที่รออีอี่กลับมารายงานนั้น  ก็เกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกเช่นกัน  แต่ร้องหาบ่าวไพร่ไม่ได้สักคนเพราะบ่าวไพร่มัวแต่ไปช่วยกันดับไฟที่เรือนบ่าว  คนที่ขึ้นมาดูชมนาดก็คือเอื้องคำ  เมื่อชมนาดคลอดลูกสาว  เอื้องคำก็แย่งเอาลูกไป  ทำให้ชมนาดรู้ทันทีว่าเอื้องคำแกล้งบ้า เอื้องคำสะใจ อุ้มลูกสาวชมนาดหนีออกไปกับอีมุ่ยในคืนนั้นเอง เมื่ออีอี่กลับมาพบจึงรีบออกไปตามหาเอื้องคำเพื่อเอาลูกชมนาดกลับมา แต่เด็กที่อีอี่ได้กลับมานั้น

   คือลูกชายของมะลิ ที่หลวงตาน้อยเป็นคนไปพบบนกอบัว  ชมนาดจึงตกกระไดพลอยโจนเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงแทนลูกตนเอง  อีอี่นั้นแม้จะรู้จากหลวงตาน้อยว่าเป็นลูกของมะลิ  แต่ก็มิได้บอกชมนาด ฝั่งมะลินั้นเมื่อเข้าใจว่าลูกอีกคนตายไปในกองเพลิงกับ

 


    ป้าพิศแล้วก็เศร้าโศกเสียใจ พากันย้ายไปตั้งรกรากอยู่ที่อยุธยา  ระหว่างทางได้เจอกันหญิงท้องแก่คนหนึ่ง ซึ่งเกิดเจ็บท้องจะคลอดลูกกะทันหัน หญิงคนนั้นรู้ว่าตนจะไม่รอด จึงฝากลูกสาวที่เพิ่งคลอดให้มะลิช่วยดูแลแทนตน  ก่อนจะขาดใจตายไป  มะลิตั้งชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นว่า สายหยุด(เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) และตั้งชื่อลูกชายของตนว่า เมือง(ชัยพล  จูเลี่ยน  พูพาร์ต

    ส่วนเอื้องคำและอีมุ่ยที่ขโมยลูกชมนาดไป จับผลัดจับผลูได้ไปเป็นเมียของเถ้าแก่ซ้ง(ประกาศิต  โบสุวรรณ) เจ้าของโรงฝิ่น เอื้องคำตั้งชื่อให้ลูกสาวชมนาดว่า ชวนชม(บุษกร  ตันติภนา) และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นเหม่ยฟาง ส่วนอีมุ่ยก็เปลี่ยนเป็นชื่อเง็ก เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมเป็นอย่างดี ให้ฝึกหักทุกอย่างตามแบบฉบับของสาวชาววัง ท่ามกลางความแปลกใจของอีมุ่ยว่าเหตุใดต้องทำเช่นนั้น

 


    คุณหลวงรักและหลงลูกชายคนแรกมาก ตั้งชื่อให้ว่า สุข(นิธิดล  ป้อมสุวรรณ) เพราะเชื่อว่าลูกจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้าน จากนั้นไม่นาน  ชมนาดตั้งท้องอีกครั้ง คราวนี้ชมนาดได้ลูกชาย และให้ชื่อว่า เทพ(เจษฎ์พิพัฒน์  ติละพรพัฒน์) ชมนาดเลี้ยงดูลูกอย่างลำเอียง   ทำให้มีปากเสียงกับคุณหลวงบ่อยครั้ง   อีอี่นั้นเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูสุขด้วยความสงสาร   ฝั่งมะลิและไอ้มิ่งก็เลี้ยงดูเมืองและสายหยุดมาเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองเข้าใจว่ามะลิและไอ้มิ่งคือพ่อแม่ที่แท้จริงของตน   ทั้งที่ความจริงแล้วมะลิและไอ้มิ่งอยู่กันแบบพี่น้องเรื่อยมา

 


   18 ปีผ่านไป  รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว   คุณหลวงได้เลื่อนขั้นเป็นคุณพระธำรงค์นครา   สุขนั้นเติบใหญ่มาท่ามกลางความเกลียดชังของชมนาด   เพราะคุณพระรักและหลงในตัวสุขมาก   ยิ่งสุขเรียนเก่งและดีเท่าไร   ก็ยิ่งเป็นข้อเปรียบเทียบกับเทพลูกแท้ๆของชมนาด   เทพไม่สนใจการเรียน   เอาแต่หาเรื่องเที่ยวเตร่   สนุกสนานไปวันๆ ไม่ได้อย่างใจคุณหลวง   แม้สุขจะรู้สึกอยู่เสมอว่าแม่ไม่รักตน   ก็ยังเฝ้ากตัญญูพยายามทำให้แม่รักตน   และไม่เคยอิจฉาริษยาน้องเลย   คุณพระนั้นหวังให้เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเดือน(ภัณฑีลา วิน ปานสิริธนาโชติ)

 


    ลูกสาวของคุณหลวงไว(ศรุต วิจิตรานนท์)เพื่อนของตนเอง   ส่วนมะลิและไอ้มิ่งนั้นเลี้ยงเมืองและสายหยุดมาจนเติบโต   เมืองไปมีเรื่องกับนักเลงที่จะมาฉุดสายหยุด   จนพวกนักเลงตามไล่ฆ่า   ทำให้ทั้งครอบครัวนั้นหนีลงเรือ   จับผลัดจับผลูเข้ามาอยู่ที่พระนครอีกครั้งวันหนึ่ง เถ้าแก่ซ้งเกิดรู้ว่าที่แท้ชวนชมเป็นลูกสาวของชมนาดกับคุณพระ  ก็ตั้งใจจะไปบอกความจริง
กับคุณพระ   เอื้องคำเลยใช้แก่นรัญจวนแก่นไม้ที่เพิ่มกำหนัด 

    ซึ่งเอื้องคำเคยใช้ได้ผลมาหลายครั้งทั้งตอนที่ยั่วยวนคุณหลวงและเถ้าแก่ซ้งมาแล้ว   แต่คราวนี้ออกฤทธิ์หนักจนทำให้เถ้าแก่ซ้งตายคาอกเอื้องคำ  ทำให้เอื้องคำได้ขึ้นเป็นใหญ่ทันที  เอื้องคำเลี้ยงดูชวนชมอย่างดี  ชวนชมทำตามคำสั่งเอื้องคำทุกอย่าง  และเฝ้ารอเพียงวันที่เอื้องคำจะบอกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเป็นใคร  อีมุ่ยเพิ่งจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ทุกอย่างที่เอื้องคำทำมาทั้งหมด ก็เพียงเพื่อจะรอวันแก้แค้นชมนาด ให้ชมนาดเจ็บปวดอย่างสาสม!  โศกนาฏกรรมความเสน่หาอาฆาตบทนี้ จะลงเอยเช่นไร?  ติดตามได้ใน 

 

    “เรือนเสน่หา” ทุกวันจันทร์ - อังคาร  20.10น. ช่อง 5
เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 22 เมษายนนี้

รายชื่อนักแสดง  “เรือนเสน่หา”

    ศักดิ์สิทธิ์   แท่งทอง            รับบทเป็น        คุณหลวงธำรงค์นครา

    น้ำทิพย์  จงรัชตวิบูลย์        รับบทเป็น        ชมนาด

    พิมพ์มาดา  บริรักษ์ศุภกร        รับบทเป็น        เอื้องคำ

    โสภิตนภา  ชุ่มภาณี            รับบทเป็น        มะลิ

    บุษกร  ตันติภนา            รับบทเป็น        ชวนชม

    ชัยพล  จูเลี่ยน  พูพาร์ต        รับบทเป็น        เมือง

    เต็มฟ้า  กฤษณายุทธ            รับบทเป็น        สายหยุด

    นิธิดล  ป้อมสุวรรณ            รับบทเป็น        สุข

    เจษฎ์พิพัฒน์  ติละพรพัฒน์        รับบทเป็น        เทพ

    ภัณฑีลา  วิน  ปานสิริธนาโชติ        รับบทเป็น        เดือน

    อาณัตพล  ศิริชุมแสง            รับบทเป็น        ไอ้มิ่ง

    รัญญา  ศิยานนท์            รับบทเป็น        อีอี่

    ณหทัย  พิจิตรา            รับบทเป็น        อีมุ่ย

    ศรุต  วิจิตรานนท์            รับบทเป็น        คุณหลวงไว

    ประกาศิต  โบสุวรรณ        รับบทเป็น        เถ้าแก่ซ้ง

    อุทัยศรี  ศรีณรงค์            รับบทเป็น        สร้อย

    สรพงษ์  ชาตรี            รับบทเป็น        หลวงตาน้อย

    พิมพ์แข  กุญชร  ณ อยุธยา    รับบทเป็น        ยายพิศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments