ที่ตอนนี้มาแรงทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ล่าสุดทราบมาว่าเธอควงคุณแม่ของฝ่ายชาย “น็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ไปดู “เดี่ยวไมโครโฟน 9” ทอล์คโชว์ของ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” แถมยังแว่วมาว่าคุณแม่ของฝ่ายชายเร่งเรื่องแต่งงานแล้ว ก็ต้องไปฟังสาวชมพู่เธอเล่าให้ฟังเองดีกว่า พร้อมกันนี้เธอก็ยินดีชี้แจงกรณีมีปากเสียงแย่งที่จอดรถกับเพื่อนร่วมคอนโดฯ ให้ฟังอีกด้วย...
มีคนเห็นควงครอบครัว “น็อต” ไปดูเดี่ยวฯ 9 ของ “โน้ส-อุดม”?
“พอดีเป็นวันแม่ คุณน็อตอยากพาครอบครัวไปดู ชมก็พาคุณแม่ชมไปดูด้วย ก็ตลกดีค่ะ”
ได้ยินคุณแม่ฝ่ายชายถามว่าเมื่อไหร่จะแต่ง อยากให้แต่งปลายปีนี้เลย “น็อต” พร้อมแล้ว?
“ยังไม่มีใครจี้นะ รอให้จี้มาก่อนเถอะ ถ้าสิ้นปีนี้เร็วไปนะ ตัดชุดไม่ทัน (หัวเราะ) เพราะชุดชมต้องยากมาก เมื่อถึงเวลาก็คงได้คุยกันค่ะ แต่ตอนนี้เรายังแฮปปี้กับตรงนี้อยู่ ก็ขอทำงานตรงนี้อีกนิดนึง ถามว่ามีคิดอะไรในใจไหม ก็มีเพ้อเจ้อไปตามประสาผู้หญิงตั้งแต่ยังไม่มีแฟน แต่เพ้ออะไรบ้างไม่ได้บอกเขา ไม่อยากออกตัวแรง” (หัวเราะ)
ขอถามกรณีทะเลาะกับเพื่อนร่วมคอนโดฯ เรื่องที่จอดรถ?
“เรื่องมันนิดเดียวมากๆ ชมว่าเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด พูดต่อๆ กันไปเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องของเรื่องคือปกติชมไม่ค่อยได้ใช้รถและไม่ค่อยได้มีการเคลื่อนย้ายอยู่ แล้ว พอดีวันนั้นไปข้างนอกกัน เอารถไปหลายคันแล้วชมก็ไม่ได้เอารถกลับบ้าน ชมก็เลยฝากคุณน็อตเอารถไปจอดที่บ้านให้หน่อย เขาไม่รู้ว่าปกติชมจอดตรงไหน เห็นมีที่จอดเยอะแยะก็เลยไปจอดในที่ของคู่กรณี ชมก็ไม่รู้ว่ารถตัวเองจอดอยู่ตรงไหน เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปถ่ายละครที่โคราช พอประมาณ 5 โมงเย็นทางนิติบุคคลก็แจ้งมาว่ารบกวนคุณชมพู่ช่วยย้ายรถหน่อยเพราะลูกบ้านบอกว่าจอดทับที่เขา ชมก็บอกว่าตอนนี้ชมอยู่ต่างจังหวัด กลับบ้านแล้วเดี๋ยวไปย้ายให้ พอกลับถึงบ้านแล้วก็อาบน้ำ ดึกๆ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็คิดว่าเขาคงโทรมาให้ไปเลื่อนรถ ชมก็ลงไปเลื่อน แค่นั้นก็จบ ซึ่งทางข้างล่างบอกให้ลงไปคุยกับลูกบ้านหน่อย ชมเลยโทรหาคุณน็อตว่าเอายังไงดีเพราะมันดึกแล้วและเราใส่ชุดนอน คุณน็อตก็เลยโทรไปขอโทษแทน แค่นั้น ไม่ได้มีปากเสียงอะไร ก็จบแล้วนะเพราะผู้ชายกับผู้ชายคุยกัน แต่ในข่าวบอกว่าชมทำอะไรกันอยู่บนบ้านไม่ยอมลงมา แต่จริงๆไม่ใช่ เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน”
ข่าวว่า “ชมพู่” ให้ “น็อต” ลงไปเคลียร์?
“ไม่ได้ลงไปเคลียร์ แต่โทรมาจากโรงงานที่อยุธยา เขาบอกไม่เป็นไรเป็นความผิดของเขาเอง เดี๋ยวเขาโทรไป”
กลัวไหม?
“ไม่หรอก ก็โตๆ กันแล้วคงไม่มีอะไร แต่พอเล่าต่อๆ กันก็เลยดูเป็นเรื่องใหญ่” ♦










