กับกรณีของพิธีกรและนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” หลังจากที่ถูกลอยแพ ถอดถอนชื่อออกจากหุ้นในบริษัท ไอดูไอซ์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทย งานนี้ทางหนุ่มจึงขอลุยยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อลุยฟ้องกรณีที่ไม่ได้รับความยุติธรรมดังกล่าว
พร้อมด้วย “แชสวิค รากาส” (Mr. Charswick Ragas) และหุ้นส่วนชื่อ “เจอราร์ด แทน” (Mr. Gerrard Tan) เจ้าของลิขสิทธิ์และกรรมการผู้จัดการบริษัทของไอซ์มอน สเตอร์ จำกัด ในฟิลิปปินส์ จึงขอแถลงข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องคู่กรณี “นายอธิป โชติญาณวงษ์” เจ้าของบริษัท ไอดูไอซ์ ในประเทศไทย และ “ชัญญา โชติญาณวงษ์” กรณีฉ้อโกงถอดถอนหุ้นของนายหนุ่ม แล้วเรื่องของสัญญาและเครื่องหมายการค้าไอซ์มอนสเตอร์กับทางบริษัทแม่ดังนี้
กรรชัย : “ที่ผมมาแถลงข่าววันนี้คือ มีคนมาถามเรื่องคดีความกับคู่กรณีมาก มีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาคือเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางศาลก็รับฟ้อง แล้วกรรมการของบริษัท ไอดูไอซ์ ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายไอซ์มอนสเตอร์ของประเทศไทย ก็ตกเป็นจำเลยเรียบร้อยนะครับตอนนี้ คือผมต้องการแจ้งให้กับลูกค้า และแฟรนไชส์ของทางไอซ์มอนสเตอร์ได้ทราบกันครับ ซึ่งผมจะขอพูดถึงคดีอาญาครับที่ทางผมได้ฟ้องไปนะครับ คือ เรื่องของการถอดถอนผู้ถือหุ้นตัวผม (หนุ่ม-กรรชัย) ออกโดยที่ผมนั้นไม่ได้ยินยอม โดยเอาเอกสารไปขึ้นแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานที่กระทรวงพาณิชย์ อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน ส่วนเรื่องที่สองคือจำเลยได้เอาเงินของบริษัทไปใช้จ่ายส่วนตัว ในมุมกลับกันผมไม่เคยได้รับเงินปันผลเลย ก็ถือเป็นเรื่องที่ผิดวิสัย ส่วนเรื่องที่ 3 คือสาขาของไอดูไอซ์นั้นจะมีหลายสาขา เมื่อมีเงินที่ทางสาขาต้องส่งกลับมา ปรากฏว่าเงินที่ขายได้บางสาขาแทนที่จะนำส่งมาที่บริษัท แต่กลับไปเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2 ”
เรื่องฟ้องร้องของคดีแพ่งทาง “หนุ่ม-กรรชัย” เรียกค่าเสียหายจำนวนเท่าไหร่?
กรรชัย : “ผมไม่ได้เรียกอะไรเลย เรียกแค่ส่วนของผมที่ควรจะต้องได้ เป็นเงินปันผลรายปี ค่าแบรนด์ตัวผมเองรวมถึงค่าลงทุนต่างๆ ก็เป็นเงินจำนวนประมาณหลัก 10 ล้านขึ้นครับ คือทางฝั่งจำเลยได้ออกมาแถลงข่าวครั้งนึงบอกว่ามีเงินที่กลับเข้า ในบริษัท 200 ล้านบาท ซึ่งผมได้ไปเช็กกับกรมสรรพากร ปรากฏว่ามันก็มีจริง คือทุกคน 7 คน ถือหุ้น 15 % คือมันก็ต้องได้รับ แต่ค่าความเสียหายที่ผมเรียกไปก็คงต้องคิดอีกทีนึงครับ”
“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเจ้าของลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้าไอซ์มอนสเตอร์ของฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ก็มีเรื่องราวที่ต้องมาชี้แจงให้กับแฟรนไชส์ และประชาชนชาวไทยได้รับทราบกันด้วย ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง คือ แชสวิค รากาส (Mr. Charswick Ragas) และหุ้นส่วนชื่อ เจอราร์ด แทน (Mr. Gerrard Tan)”
เจ้าของลิขสิทธิ์และกรรมการผู้จัดการบริษัทของไอซ์มอนสเตอร์ จำกัด ในฟิลิปปินส์ “แชสวิค รากาส” (Mr. Charswick Ragas) เผยถึงปัญหากับทางคู่กรณีว่า…
แชสวิค รากาส : “ ผมเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทของไอซ์มอนสเตอร์ จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้าไอซ์มอนสเตอร์ วันนี้ผมขอแจ้งให้สื่อมวลชนชาวไทยทราบว่า ในปี 2549 บริษัทของผมได้มอบสิทธิ์เครื่องหมายการค้าไอซ์มอนสเตอร์ให้กับ นายอธิป โชติญาณวงษ์ ต่อมาได้เปิดบริษัทชื่อ ไอดูไอซ์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจน้ำแข็งไสในประเทศไทย โดยสัญญาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าหลังจากเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน นายอธิปและบริษัท ไอดูไอซ์ ไม่มีสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทยอีกต่อไป”
“อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมทราบ นายอธิปและบริษัทดังกล่าวยังคงใช้เครื่องหมายไอซ์มอนสเตอร์เรื่อยมา โดยไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายการค้าของกฎหมายไทยและฟิลิปปินส์ และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 นายอธิปไม่ได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ในอัตรา 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากได้อธิบายว่ากิจการนั้นขาดทุน นายอธิปและ ไอดูไอซ์ ได้เก็บค่าลิขสิทธิ์จากแฟรนไชส์ทั่วประเทศ 7 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้ส่งเงินดังกล่าวให้กับต้นสังกัด”
“นายอธิปได้เปลี่ยนแปลงสินค้าทำให้เป็นการผิดสัญญาของบริษัท และได้รายงานว่าประเทศไทยเปิดร้านไอซ์มอนสเตอร์ 11 สาขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทได้เปิดมากว่า 40 สาขาทั่วประเทศ โดยที่ผมไม่ได้รับทราบ ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้ขาดทุนตามที่กล่าวมา ตรงกันข้ามกลับได้รับผลกำไรตอบแทนที่ดี ตามที่ได้กล่าวไปข้างตน ผมจึงอยากประกาศให้สื่อมวลชนไทยได้รับทราบว่าตอนนี้ผู้ใช้แฟรนไชส์และบริษัท ที่อยู่ในความดูแลที่ยังคงใช้เครื่องหมายการค้าของไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทย ต้องยุติและเลิกใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าว มิฉะนั้นผมต้องดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาหากมีผู้ฝ่าฝืน ผมจะปรึกษากับคณะของผมเพื่อดำเนินการฟ้องร้องนายอธิปและบริษัท ไอดูไอซ์ โดยเร็วที่สุด ถ้าผู้ใช้แฟรนไชส์ในประเทศไทยมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าของผม โปรดติดต่อผม หรือ คุณชัชวีร์ มัทวพันธ์ ได้ครับ”
ไอซ์มอนสเตอร์ในประเทศไทยหมดสัญญาแล้ว “หนุ่ม-กรรชัย” จะซื้อมาทำต่อ เองมั้ย ?
กรรชัย : “คงจะต้องรอดูต่อไป เพราะอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยกันว่าจะเอายังไง ผมยังรักไอซ์มอนสเตอร์ อยู่ ณ วันนี้มันเกิดเรื่องราวมากมาย ความน่าเชื่อถือของ แบรนด์ก็ค่อนข้างลดน้อยลง ก็ต้องขอปรึกษากับทางพี่น้องที่เหลืออยู่ว่าจะเอายังไงต่อไป”
ยังมีอะไรที่ส่งผลกระทบอีกมั้ย?
กรรชัย : “ณ วันนี้ก็ไม่มีนะครับ รอทางคู่กรณีอยู่ว่าจะติดต่อผมมายังไง ถ้ายังไม่ได้ติดต่อผมก็ต้องดำเนินคดีต่อไป ก็คงมีการฟ้องร้องกันขึ้นมาอีก 2-3 คดี เพราะมันมีเรื่องราวของเอกสารที่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ คงจะต้องไปพูดคุยกันในชั้นศาลอีกทีนึง”
หากคุยกันนอกรอบ ทางนั้นยอมจ่าย 10 ล้านกว่า เรื่องราวจะจบลงมั้ย?
กรรชัย : “อย่าใช้คำว่า 10 ล้านกว่าๆ เลย เอาเป็นในส่วนที่ผมควรจะได้รับผลตอบแทนที่ผมลงทุนไปดีกว่า เพราะฉะนั้นก็อยากได้ความชัดเจนเท่านั้นเอง”
ลงทุนไปกับไอซ์มอนสเตอร์เท่าไหร่?
กรรชัย : “จำนวนเงินสดประมาณนึง แต่มันจะมีเรื่องราวของการที่ผมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และได้เสียสิทธิ์กับสินค้าต่างๆ รวมถึงได้มีการไปถ่ายภาพกับทางแคนนอนประเทศไทย เพื่อที่จะนำเอากล้องวงจรปิด 20 กว่าตัว มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทมาติดตามไอซ์มอนสเตอร์ทุกสาขา แต่สิ่งที่ย้อนกลับมาก็คือทางนั้นบอกว่าผมเป็นแค่พรีเซนเตอร์ของไอซ์มอนสเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้สามารถเช็กได้ที่กระทรวงพาณิชย์ว่ามีชื่อของผมเป็นผู้ถือหุ้นอยู่หรือเปล่าและผมเองก็ได้ชำระเงินถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็ยังมีสัญญาของแคนนอนประเทศไทยที่ทำไว้กับผมว่าต้องนำกล้องวงจรปิดไปติดร้านไอซ์มอนสเตอร์ทั่วประเทศ ซึ่งผมมีหลักฐานทุกอย่าง”
อีก 2 คดีที่เตรียมฟ้องคือคดีอะไร?
กรรชัย : “เป็นเรื่องราวของเอกสารที่ยื่นมาแล้ว ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ อันนี้ต้องปรึกษาทางทนายอีกครั้งนึง ด้านคดีแพ่งต้องรอสิ้นปีครับ แต่ถ้าทางคดีอาญานั้น วันที่ 1 กันยายน ทางจำเลยทั้ง 2 คนจะต้องไปสืบพยานก่อนครับ แต่ผมมั่นใจว่าจะชนะคดี 100 % แน่นอนครับ”
อย่างนี้ร้านไอซ์มอนสเตอร์จะต้องโดนปิดเลยรึเปล่า?
แชสวิค รากาส : “จริงๆ ต้องปิดตั้งแต่เดือนมีนาคมเพราะมันหมดสัญญาแล้ว ทั่วทั้งประเทศคือสาขาที่เปิดมีปัญหายังไงก็สามารถติดต่อเข้ามาพูดคุยได้เลยครับ ก็จะมีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง”
“หนุ่ม-กรรชัย” เข็ดกับเหตุการณ์นี้มั้ย?
กรรชัย : “ก็ไม่ได้เข็ดนะ แต่เหมือนกับว่าพอผมได้ยินชื่อไอซ์มอนสเตอร์แล้วผมรู้สึกเฮิร์ทนะ พอได้ยินชื่อน้องผมทั้งชื่อไอซ์มอนสเตอร์ ที่ผมทุ่มเททุกอย่างแล้วได้รับผลแบบนี้มันเฮิร์ทครับ”
“เมย์ เฟื่องอารมย์” ถูกพาดพิงถึงคดีเรื่องนี้ด้วยเรื่องอะไรเอ่ย ?
กรรชัย : “คือคุณเมย์ ถูกพาดพิง เพราะจะเปิดสาขาที่เซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วไม่จ่ายค่าแฟรนไชส์ คือจริงๆ แล้วจ่ายเงินไปแล้ว แปดแสนบาท แล้วพอมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น คุณเมย์เลยจะไม่ทำแล้ว ทางแฟรนไชส์เลยจะขอเงิน เลยโดนพาดพิงในคดีไปครับ” ♦