เชื่อเลยว่าดูจากชื่อเรื่องไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะเรื่องนี้นําเนื้อเรื่องทั้งหมดมาจากวรรณกรรมของวิลเลี่ยม เช็กสเปียร์ เรื่อง "Romeo and Juliet" มาดัดแปลงให้ดูสนุกขึ้น พร้อมกับใส่ลูกเล่นต่างๆ มากมาย
สิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้ผู้เขียนไปดูหนังเรื่องนี้ ก็คงจะเป็นเพราะชื่อของ "เอลตั้น จอห์น" เป็นคนที่ทําดนตรีให้กับแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ซึ่งนานๆ ทีเขาจะมาเป็นส่วนหนึ่ง ในภาพยนตร์สักเรื่อง และ ก็ไม่ทําให้ผิดหวัง
มาว่าถึงเนื้อเรื่องกันบ้าง เป็นเรื่องราวของตุ๊กตาเซรามิกที่มีชีวิตในเวลาที่เจ้าของไม่อยู่ ต่อมาเกิดความรักแต่เป็นความรักที่ต้องห้าม แถม ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายซึ่งทั้งคู่ต้องฝ่าไปให้ได้ เมื่อเจ้าของบ้านของทั้งสองที่เป็นเพื่อนบ้านกัน มิสซิสมองตากรูว์ และ มิสเตอร์คาปูเล็ต คือคนสูงวัยที่แม้บ้านจะอยู่ติดกันแต่ก็เป็นคู่อริกันมาตลอดนั่นเองแต่ด้วยการประลองแข่งรถตัดหญ้าครั้งสําคัญจะเป็นการตัดสินว่า ความรักของทั้งคู่จะสมหวังหรือไม่
ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเดิมๆ แต่ความสนุกอยู่ตรงมุกของตัวละครที่ใส่มาได้ถูกจังหวะ และเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางทีมงานนั้นเข้าใจเล่นกับตัวละคร โดยเริ่มจาก 2 บ้านที่ไม่ถูกกัน นั่นคือบ้านมองตากรูว์และบ้านคาปูเล็ต ซึ่งในต้นฉบับสองบ้านนี้รักกัน แต่ในแอนิเมชั่นเรื่องนี้กลับทําให้เกลียดกันซะงั้น มิหนําซ้ำยังให้ผู้อาศัยในบ้านเป็นชายแก่และหญิงแก่ที่จ้องจะทะเลาะกันตลอดเวลา
หนังได้โจทย์ที่เรียกได้ว่าไม่ลงรอยกันมาเล่น ทีมงานจึงใส่ไม่ยั้ง เอาให้มันไม่ถูกกันให้หมด เริ่มจากตัวบ้านคนละสี ทุกสิ่งอย่างในบ้าน ล้วนไม่ถูกกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ตุ๊กตาบอกทิศทางลมยังไม่ถูกกันเลย
การที่หนังเลือกตุ๊กตาเซรามิกเป็นตัวละครเด่น ถือว่าเป็นไอเดียที่เยี่ยมเพราะข้อจํากัดของตุ๊กตาเหล่านี้มีมาก จะฮาอย่างไรนั้นคงต้องไปดูกันเอาเอง
"Gnomeo and Juliet" จัดได้ว่าเป็นแอนิเมชั่นที่ถือว่าทําได้ดีถึงดีมากๆ ด้วยลูกเล่นต่างๆ บวกกับเพลงประกอบจาก "เอลตั้น จอห์น" ทําให้รู้สึกถึงความสุขที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ นั่งดูไปยิ้มไป ดูแล้วอิ่มใจ
ถ้ามีโอกาสได้ดูก็แนะนําเลย แต่ขอบอกว่าหนังเรื่องนี้ฉายใน รูปแบบ 3 มิติเท่านั้น ถ้าคิดว่าการที่เราเสียเงิน 200 กว่าบาทเข้าไปดู แอนิเมชั่นดีๆ เรื่องนี้ก็คุ้มแล้วล่ะ...ไม่เชื่อลองไปดู ♦
