แม่ค้ากระเป๋าแบรนด์เนมปลอม รับของจากโรงเกลือ สารภาพผิด-กราบขอโทษบริษัทสถาบัน TCF ของ “ครูเจี๊ยบ สุนิสา”
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.68 กลายเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้โซเชียลมีเดีย หลัง “นางสาววรินทร์กุล” หรือ “อันดา” แม่ค้าขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองผ่านบัญชี Twitter ชื่อ @usedbyriri ยอมรับสารภาพว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นของปลอมทั้งหมด โดยรับมาจากตลาดนัดโรงเกลือ ในราคา 2,000 – 7,000 บาท พร้อมเข้ากราบขอโทษ บริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด และ ครูเจี๊ยบ เจ้าของ โรงเรียนเดอะแคทช์เฟคแบรนด์เนม หลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหมิ่นประมาทจากการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จบนโลกออนไลน์
อ่านข่าวต่อ: “ครูเจี๊ยบ สุนิสา” เชิญผู้สนใจเรียนสปาแบรนด์เนมฟรีที่งานแบรนด์เนมดาราเดลี่ #9 พาราไดซ์พาร์ค


เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกค้าที่ซื้อกระเป๋าจาก น.ส. วรินทร์กุล ได้นำกระเป๋า (รวมถึงยี่ห้อดังอย่าง Goyard) ไปตรวจสอบที่ บริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด และพบว่าเป็น ของปลอม เมื่อลูกค้าทราบจึงได้ขอเงินคืนจากแม่ค้า
ต่อมา “น.ส. วรินทร์กุล” ได้แสดงความไม่พอใจต่อผลการตรวจสอบของบริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด ซึ่งระบุว่ากระเป๋าของลูกค้าหลายใบเป็นของปลอม จึงได้โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จลงใน Twitter กล่าวหาว่าบริษัทฯ ตรวจกระเป๋าผิดพลาด สลับระหว่างของแท้เป็นของปลอม และของปลอมเป็นของแท้ พร้อมทั้งตัดต่อข้อความและรูปภาพ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของ บริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด อย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ ยังมีการพาดพิงถึง “โรงเรียนเดอะแคทช์เฟคแบรนด์เนม” ว่ามีการสอนที่ผิดพลาดและไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย


ด้วยเหตุนี้ บริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด จึงได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับ น.ส. วรินทร์กุล ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
ล่าสุด น.ส. วรินทร์กุล ได้เข้าให้การรับสารภาพต่อศาลว่า ตนรับกระเป๋ามาจากตลาดนัดโรงเกลือจริง และเป็นกระเป๋าปลอมทั้งหมด พร้อมทั้งเปิดเผยว่าตนเองป่วยเป็น โรคจิตเภทในลักษณะหลงตนเอง ซึ่งต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลหลายเดือน โดยเป็นโรคที่ทำให้เข้าใจผิดว่าตนเองมีความสามารถในการตรวจสอบกระเป๋า และขายกระเป๋าของแท้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วกระเป๋าที่ขายเป็นของปลอมทั้งหมด
เธอได้เข้าแสดงความสำนึกผิดด้วยการ กราบขอโทษ กรรมการของ บริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด และ ครูเจี๊ยบ เจ้าของโรงเรียนฯ พร้อมมอบพวงมาลัยและกระเช้าเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
มาตรการของบริษัทฯ และการดำเนินคดี


“ครูเจี๊ยบ สุนิสา” กรรมการผู้บริหาร บริษัท ทีซีเอฟ เวริฟาย จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ มีมาตรฐานในการตรวจสอบที่ถูกต้องและมีหลักสูตรการสอนที่ได้มาตรฐาน การฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่สร้างความเสียหายจึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาสิทธิ์และชื่อเสียงของบริษัทและโรงเรียนไว้
"เคสนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่ทางบริษัทและโรงเรียนได้ให้โอกาสผู้กระทำความผิดในการกล่าวขอโทษเป็นครั้งสุดท้าย หากมีกรณีเช่นนี้อีก ทางบริษัทจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" ครูเจี๊ยบกล่าว
ในส่วนของคดีความ เมื่อผู้กระทำความผิดได้กล่าวขอโทษผู้เสียหายแล้ว ทางบริษัทและโรงเรียนจะดำเนินการถอนคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ รวมถึงคำร้องขอเรียกค่าเสียหายตามมาตรา 44/1 และบัญชีระบุพยานออกจากสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความผิดตามกฎหมายจะให้เป็นเรื่องของการพิจารณาของศาลและพนักงานอัยการต่อไป
ด้าน“ทนายหวาย ช่วยด้วย” ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนทุกคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ให้ระมัดระวังในการกล่าวหาหรือหมิ่นประมาทผู้อื่น
"อยากฝากเตือนพี่น้องประชาชน ให้ตระหนักรู้ว่าผลของการกระทำ จะกระทบถึงผู้อื่น และเมื่อเกิดความผิดขึ้นมาแล้ว จะต้องเสียเวลาขึ้นศาล เสียเงินเสียทอง และอาจเสียอิสรภาพจากการโพสต์ข้อความเพียงเสี้ยววินาที... หากยังมีโทสะอยู่ อย่าลงมือกระทำสิ่งใด เพราะเราอาจจะไม่ได้เจอผู้เสียหายที่ใจดียอมให้เราเพียงแค่ขอโทษเฉยๆได้" ทนายความกล่าวทิ้งท้าย










