"ปอนด์” ยื่นฟ้อง “ต้อม” พร้อมตั้งชื่อหนังใหม่ ด้าน “พิง” ย้ำเสมออีกฝ่ายคือเพื่อน

"ปอนด์” ยื่นฟ้อง “ต้อม” พร้อมตั้งชื่อหนังใหม่ ด้าน “พิง” ย้ำเสมออีกฝ่ายคือเพื่อน

0

ปอนด์” ยื่นฟ้อง “ต้อม” พร้อมตั้งชื่อหนังใหม่ ด้าน “พิง” ย้ำเสมออีกฝ่ายคือเพื่อน

          จากกรณีกระแสดราม่าปมลิขสิทธิ์หนัง “บุปผาราตรี” ระหว่างผู้กำกับชื่อดัง “ต้อม ยุทธเลิศ” เตรียมฟ้องบริษัท Be On Cloud เรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ล่าสุดทั้ง “ปอนด์ กฤษดา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ ร่วมถึงผู้กำกับชื่อดัง “พิง ลำพระเพลิง” และทนายได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพูดถึงปมดราม่าลิขสิทธิ์หนัง

อ่านข่าวต่อ : “ปอนด์ Be On Cloud” เตรียมแถลง 26 ก.ย. นี้ รับเสียความรู้สึก “ต้อม” เอาซีรีส์เกย์มาเหยียด

          ปอนด์ : โปรเจ็คท์ชื่อบุปผาราตรีมาลีรัตติกาล เป็นของพี่พิง ลำพระเพลิงทำกับอีกบริษัทหนึ่ง แล้วก็เข้ามาคุยกับผมโดยในช่วงนั้นประมาณปีแล้วจุดประสงค์พี่พิงที่เข้ามาตอนนั้นคืออยากได้เจษฎ์พิพัฒไปร่วมงานด้วย ซึ่งตอนนั้น เจษฎ์พิพัฒ เป็นนักแสดงช่องวันและอยู่ในการดูแลของ บี ออน คลาวด์ ด้วยเช่นกัน ระหว่างนั้นผมมีความรู้สึกอยากมั่นใจว่านักแสดงจะอยู่ในพื้นที่ที่ทาง บี ออน คลาวด์ สบายใจ ก็เลยบอกพี่พิงว่าขอนัดคุยกับกลุ่มทุนของพี่พิงได้ไหมว่าเป็นไปได้ไหมว่าผมอาจจะขอร่วมลงด้วยคือตอนนั้นเป็นเรื่องราวที่พี่พิงเขียนขึ้นมา และเป็นบทร่างแรก และที่เห็นคือสัญญาตัวแรกของพี่พิงกับบริษัทเก่าและตัวของฝั่งบริษัทของพี่ต้อมที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บุปผาราตรี”...

            พิง: “ผมไปเดินที่ออสการ์อพาร์ตเมนต์ ผมรู้สึกว่าอยากเขียนบทหนังผี ถ่ายที่นี่ ผมก็นึกในใจว่าเพื่อนผมเคยทำหนังผี ผมโทร.หาเพื่อนแล้วบอกว่าอยากทำหนังผีที่ออสการ์พาร์ตเมนต์จะขอซื้อชื่อบุปผาราตรีก็คือขอลิขสิทธิ์ในการใช้ชื่อบุปผาราตรี เพื่อนผมก็บอกว่า เอาสิ ผมขออนุญาตไม่บอกนะครับว่าเพื่อนผมเปิดมากี่ล้าน ผมก็บอกว่าผมไม่มีตังค์เยอะขนาดนั้น สุดท้ายคุยกันไปคุยกันมาตกลงกันที่ 1.2 ล้านบาทกับระยะเวลาที่ผมมีสิทธิ์ใช้ชื่อ บุปผาราตรี 2 ปี อันนี้มียืนยันในเอกสารหลักฐานครบถ้วน เพราะฉะนั้นถ้าใครเข้าใจว่าผมขโมยชื่อของเพื่อนมาใช้ฟรีๆ ขออนุญาตชี้แจงตรงนี้ว่าผมติดต่อซื้อโดยถูกกฎหมาย และเพื่อนก็โอเค แต่ประเด็นคือพอทำไปทำมาเงินผมไม่พอ ผมเลยบอกเพื่อนว่าผมจะไปคุยกับบี ออน คลาวด์นะ อันนี้ผมมีหลักฐานในการคุยเมจเสจ ผมก็เลยไปบอกเพื่อนว่าจะชวนบี ออน คลาวด์นะ จะขอแก้สัญญาเพื่อนโอเคไหม ผมก็ส่งสัญญาเอกสารให้เพื่อนดู เพื่อนก็เซ็นกลับมาทุกหน้า เพื่อนถามผมบี ออน คลาวด์เขาเป็นใคร ผมก็บอกว่าเป็นบริษัททำ อีเวนต์ คือตอนนั้นผมเข้าใจว่าพี่ปอนด์ทำอีเวนต์จริงๆ ฃฃเขาบอกว่าเขาไม่รู้จัก ไม่เป็นไร ก็เลยได้สัญญาฉบับที่ 2 ซึ่งเซ็นรับทราบทุกหน้า ผมมีสิทธิ์ในการใช้ที่เพื่อนให้ใช้ในราคา 1.2 ล้านบาท 2 ปีกับชื่อบุปผาราตรี

            ปอนด์: ต้องยอมรับว่าชื่อ บุปผาราตรีมาลีรัตติกาล บทร่างแรกมีความเกี่ยวเนื่องกับบุปผาราตรีภาคแรก พอคุยกันแล้วที่หลายคนได้เห็นมีการแถลงข่าวในครั้งแรก และมีการพักกองไป เพราะผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าไม่อยากมีการใช้บทเกี่ยวเนื่องกับบุบผาราตรีภาคแรก คือตอนนั้นไม่ได้มีความกังวลใจเรื่องจะมีปัญหาหรือมีข้อพิพาทกับพี่ต้อมหรือใครเลย ผมมีแต่ความคิดที่บริสุทธิ์ใจของผมที่เชื่อว่าอะไรที่ดีอยู่แล้วรอไว้ตรงนั้นดีกว่า ภาพยนตร์บุปผาราตรีเป็นภาพยนตร์ที่ผมชื่นชอบมากและไม่อยากแตะต้อง อยากให้อยู่ตรงนั้นพี่พิงยังพูดเลยว่าพี่ปอนด์เปลี่ยนบทขนาดนี้เราไม่ต้องใช้ชื่อก็ได้ สิ่งที่ใช้ไปจะได้ไม่ต้องเสียตังค์เป็นล้าน ผมบอกพี่พิงว่าไม่เป็นไรอะไรที่เริ่มกันมาแล้วผมโอเค ผมรับได้ ผมขอเปลี่ยนบทใหม่ทั้งหมดนั่นคือเกิดเหตุการณ์ที่เราจะต้องเลื่อนเปิดกล้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากมาย หรือนักแสดงบางคนอาจแสดงไม่ได้ คือตอนนั้นเป็นเรื่องที่ผมมีความเชื่อว่าเราควรจะทำบทใหม่ของเรา เพื่อเป็นความสบายใจของเราในฐานะผู้ร่วมทุนแน่นอนตอนนั้นเราคุยกันเยอะเรื่องบทใหม่ ซึ่งมันเป็นอีกทางหนึ่งไม่ใช่ทางของพี่พิงเลย แต่พี่พิงอยู่ในทุกขั้นตอน มันมีหลักฐานหมดพี่พิพิงไม่เคยหายไปจากตรงนั้น

         พิง: พอเป็นบท ทำไปทำมางบมันเกินแต่ไกลมาก คือทุกอย่างที่ผมทำผมวางบิลตรงกับ บี ออน คลาวด์ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมงานเสื้อผ้าหน้าผม ซึ่งผมเป็นคนดูราคาอยู่ ผมจึงรู้ว่ามันเกินไปไกลมาก ไกลแบบที่เรียกว่ามากกว่า 70 ล้าน แต่ทั้งหมดทั้งมวลผมวางบิลตรงกับทางบี ออน คลาวด์ ผมได้เพียงแค่ค่าจ้าง เพราะฉะนั้นงบมันไปไกลขนาดนี้ ผมกลัวว่าหนังมันจะสะดุด หรือไปได้ไม่สุดทาง ซึ่งยิ่งถ่ายงบยิ่งบานด้วยคิวดาราที่เราได้ระดับตัวท็อปมา 4 คน ผมจึงต้องมาเคลียร์ตรงนี้ เมื่อผมเคลียร์จนผมดูแล้วว่ามันได้แล้วล่ะ แต่คำว่าได้แล้วล่ะคือมากกว่า 70 ล้าน

         ปอนด์: คือคำว่าได้ คือมันเป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจ เพราะมันมีทุนกลุ่มเดิมและกลุ่มทุนใหม่ของบี ออน คลาวด์ ซึ่งแน่นอนในทางธุรกิจนักลงทุนเขาอาจจะรู้สึกว่ามันอาจจะเสี่ยง มันเป็นช่วงที่บี ออน คลาวด์จะต้องตัดสินใจลงที่เหลือทั้งหมด ซึ่งเป็นภาวะที่พี่พิงเขาก็เครียด เพราะเขาเป็นคนเริ่มโปรเจกต์นี้มา เขาต้องกลับไปจัดการแต่จริงๆ ต้องบอกว่างบที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ความผิดพลาดของพี่พิง มันเป็นตัวโปรดักชั่น หรือสวัสดิภาพของกองที่เป็นมาตรฐานของ บี ออน คลาวด์ที่ทำให้รู้สึกว่ามันควรต้องเป็นอย่างนั้น เมื่อพูดถึงนักแสดง 5 ตัวหลักผมเป็นคนไปพูดคุยกับทุกคนด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นการที่ทุกคนทุ่ม เทแรงกายแรงใจแล้วมาร่วมมันเป็นเพราะความเชื่อมั่นของโปรดัก ชั่นเรา ไม่ได้เอาชื่อไปขาย หรือไม่เคยพูดว่านี่คือภาคต่อ เพราะฉะนั้นข้อพิพาทหรืออะไรก็ตามที่ออกข่าวไปมันไม่ตรงกับความตั้งใจของเรา แม้กระทั่งตั้งแต่เริ่มที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะเกิดเหตุเหล่านี้ หลังจากนั้นในช่วงที่พี่พิงไม่ได้มากอง มันเป็นช่วงที่นักแสดงบางท่านต้องมาถ่ายทำ ซึ่งก็จะอาจมีข้อมูลบางอย่างที่รู้สึกว่าพี่พิงไม่อยู่ แต่มันเป็นเรื่องภายในกอง มันไม่ใช่เรื่องเราจะต้องไปบอกใคร หน้าที่ของเราคือผลิตภาพยนตร์ให้ดีที่สุด แต่พอมันมีการพูดคุย สืบข้อมูลบางเรื่องโดยที่ไม่ได้มาถามต้นทางโดยตรง อาจจะมีการเข้าใจผิดบ้างในข้อมูลนั้น ทำให้มีข้อมูลบางอย่างออกไป ซึ่งนักแสดงทุกคนในเรื่องเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขและปิดกล้องอย่างมีความสุขโดยที่ทุกคนก็ยังงงอยู่ว่าสถานการณ์ทั้งหมดคืออะไร ตัวผมเองจะเป็นคนที่นิ่งกับเรื่องนี้ เพราะผมไม่อยากให้บรรยากาศในกองมันเสียหรือแม้กระทั่งคนที่รักภาพยนตร์ไทยหรือแฟนๆ นักแสดงทุกคนเขารู้สึกมันเป็นปัญหา ผมก็เลยนิ่งแต่ที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วผมต้องเอามาแถลง ผมรู้สึกว่าทุกครั้งที่ผมไปไหนแทนที่ผมได้รับคำถามว่าภาพยนตร์เป็นยังไงบ้าง ผมมีแต่ว่าเป็นกำลังใจให้นะ ความรู้สึกผมมันไม่ตรงกับสิ่งที่เรากระ โดดเข้ามาทำในวงการนี้แต่แรก แล้วสิ่งที่กระทบกระเทือนผมที่สุดเวลาที่ผมกลับบ้าน พ่อผม อาม่าผมในวัย 88 นั่งเครียดกัน เพราะมีข่าวว่าบี ออน คลาวด์จะโดนฟ้อง 100 ล้าน แล้วเขานอนไม่หลับ ข้อ ความแบบนี้มันส่งผลต่อคนรอบตัวหรือคนรอบข้างที่เขาติดตามอยู่วันนี้ เราเลยออกมาพูดว่ามันเริ่มเกินขอบเขตที่ผมจะปล่อยเฉยได้

          ทนาย: ในเรื่องสัญญาลิขสิทธิ์ยังคงเป็นของคุณต้อม สัญญาเป็นการอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ไม่ใช่การซื้อขาย ไม่มีลักษณะในการไปหลอกลวงขโมยมา การให้ใช้ลิขสิทธ์ตัวนี้แต่เดิมคุณต้อมได้ทำกับบริษัทมิริน บริษัทมิรินก็จ่ายค่าใช้ลิขสิทธิ์ให้คุณต้อมตามสัญญาตามที่คุณพิงพูดไป 1.2 ล้าน ต่อมาพอบี ออน คลาวด์ได้เข้ามาร่วมทุนกับบริษัทมิริน ก็มีการแก้ไขเป็นไปสัญญาแต่การเปลี่ยนแปลงสัญญาตรงนี้ก็เพิ่มบี ออน คลาวด์มาเป็นคู่สัญญาโดยกำหนดว่าพี่พิงและ พี่ปอนด์เป็นคนกำกับ เพิ่มจาก 1 คน เป็น 2 คน มันเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา โดยที่ทาง บี ออน คลาวด์ก็ได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ที่ทางมิรินได้ออกให้ก่อนให้กับมิรินเรียบร้อยแล้วด้วย พอมีการทำสัญญาขึ้นมา 2 ฉบับโดยมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา สัญญาฉบับใหม่ลงวันที่เดียวกันกับสัญญาฉบับเดิม สัญญาฉบับเดิมที่มีการเอามาโพสต์ก็มีคำว่า แคนเซิน (Cancel) ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นการยกเลิกสัญญา เพียงแต่ยกเลิกสัญญาที่มีมิรินและพี่พิงกำกับคนเดียว เป็นการบังคับให้ใช้ตามสัญญาที่มี บี ออน คลาวด์และมิรินเป็นคู่สัญญาอีกฝั่งหนึ่ง ประกอบกับมีพี่พิงและพี่ปอนด์เป็นคนกำกับ

          คือเป็นการบังคับใช้สัญญาตามฉบับหลังโดยไม่มีการยกเลิกสัญญาใช้ลิขสิทธิ์ นั่นหมายความว่ามีผลบังคับใช้อยู่และหลังจากการใช้สัญญาตัวนี้บี ออน คลาวด์ ก็มีการมาทำสัญญาตลอดมาตรงตามข้อสัญญาที่พี่พิงได้กำกับทุกขั้นตอนที่ชี้แจงไปแล้ว เส้นเรื่องที่มีการกำหนดว่าจะไม่เป็นภาคต่อก็มีการดำเนินการตามนั้น เพราะฉะนั้นในเมื่อบี ออน คลาวด์ไม่เคยปฏิบัติผิดสัญญาเลย สัญญาก็ยังอยู่ เมื่อเราไม่ผิดสัญญา พี่ต้อมไม่มีสิทธิ์มายกเลิกสัญญา หนังสือที่ทำออกมาโดยที่ไม่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาเลยก็ไม่สามารถบังคับใช้ได้ เท่ากับว่าสัญญาที่ไม่เคยถูกยกเลิก มันยังมีผลใช้อยู่เท่ากับว่าบี ออน คลาวด์ก็มีสิทธิ์ใช้ลิขสิทธิ์ตามข้อตกลงของสัญญา เพราะฉะนั้นเมื่อสัญญามีอยู่ ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ก็ไม่ได้มีกรณีใดที่จะถูกเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านตามที่มีข่าว”...

            ปอนด์: ที่เราใช้ชื่อบุปผา คำว่าบุปผามาจาก 1.เรามีสิทธิ์ตรงนี้ 2.ผมรู้สึกจับใจตัวเองว่าวันหนึ่งภาพยนตร์ตอนนี้ออกมาแล้วทุกคนจะไปดู คนจะได้นึกถึงว่าก่อนหน้านู้นหลาย10 ปีที่แล้วมีภาพยนตร์ที่ชื่อว่าบุปผาราตรี เป็นสิ่งที่น่าจดจำของทุกคน พอเปิดออกมาความตั้งใจตอนนั้นไม่มีอะไรเลยที่คิดว่ามันจะเกิดปัญหา พอปล่อยออกมาก็มีเหตุการณ์การโพสต์โซเชียลของทางพี่ต้อม ผมยอมรับว่าผมตกใจมากจริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เกิดเหตุนั้น พี่พิงก็ตกใจมาก ทุกคนทั้งกองก็ตกใจมาก ตัวผมเองก็มีการพูดคุยและมีการโทรไปหาทางพี่ต้อม แต่ในขณะนั้นทางบุคคลที่ 3 มาแจ้งว่าพี่เขาไม่สะดวก ถ้าสะดวกจะโทรกลับ แต่มาช่วงเย็นมีการโพสต์สัญญาฉบับที่ยกเลิก ในภาวะนั้นผมถือว่ากระทบกับภาพลักษณ์บี ออน คลาวด์ แล้ว หลังจากนั้นก็มีสัมภาษณ์สื่อโซเชียลมีเดียออกมาต่อเนื่อง ซึ่งตัวผมเองน่าจะเป็นคนที่สับสนที่สุด เพราะหลายอย่างผมอยู่ตรงนั้น ผมรู้ว่ามันไม่มีอะไร คราวนี้มันมีโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับพี่พิง ทำให้เกิดช่วงเดือดของพี่พิงขึ้นมาในวันนั้น

          ทนาย: อย่างที่เรียนไปบีออนคลาวด์ทำตามข้อสัญญาทุกข้อ เพราะฉะนั้นสัญญาอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ก็ยังคงอยู่ เมื่อเรามีสิทธิ์ใช้ลิขสิทธิ์ก็เท่ากับเราไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่มีการโพสต์ด่าๆ หลากหลายโพสต์หลายครั้งและใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ส่งผลเสียต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือบี ออน คลาวด์ จริยธรรมคุณธรรมต่างๆ ที่ทางบี ออน คลาวด์ถือว่ามีอยู่ตามการทำงาน มันกระทบต่อการผลิตหนังด้วย รวมถึงการตัดสินใจในการที่จะเข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเราจำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานสำหรับการฟ้องคดี ซึ่งเราฟ้องคดีไปแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนรายละเอียดก็ขอให้เป็นกระบวนการในศาล

           ปอนด์: จริงๆ จุดประสงค์ในการฟ้อง ผมไม่ได้ฟ้องเพื่อเอาเงินมาชดเชยค่าทำหนังของผม ผมไม่ได้เดือดร้อนตรงนั้น แต่การฟ้องเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง เราไม่ได้พูดกันเล่นๆ หรือหาเรื่องกัน มันไม่ใช่ แต่ผมฟ้องเพื่อปกป้องความจริงที่เกิดขึ้น แน่นอนในเรื่องของกฎหมายมันใช้เวลานาน แต่อย่างน้อยสังคมก็จะรู้ว่าความตั้งใจของเรามันจริง และในส่วนที่ลามไปถึงในส่วนที่ไม่น่ารักเท่าไหร่ เราพูดถึงในแอคเคาต์ X ของผู้กำกับเลว ได้ไปหยิบตัวซีรีส์เกย์ที่ผมผลิต หยิบเนื้อหาในส่วนที่้เราไม่อยากให้มาปล่อยในโซเชียล แฟนๆ ซีรีส์ทุกคนรู้ข้อนี้ดี เพื่อเป็นการให้เกียรตินักแสดง รวมทั้งให้เกียรติลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่แอคเคาต์ x นี้ได้ทำสิ่งเหล่านี้มาโพสต์ในโซเชียลมีเดีย แล้วก็มีข้อความที่ทำให้รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและน่าเกลียด อันนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติ ทุกคนมีงานศิลปะ ทุกคนมีทางของตัวเอง อันนี้มันใจร้ายนิดนึงและผมก็เริ่มรับไม่ได้ และมันเริ่มส่อเสี่ยงในการเหยียดเพศสภาพ ผมขอยืนยันว่าผมไม่เดือดร้อนว่าจะเรียกผมว่าอะไร ผมยินดีมากๆ แต่ไม่อยากให้เอาภาพนักแสดงที่เขาตั้งใจทำการแสดงอย่างดี สิ่งนี้ไม่ใช่ที่แรกในโลกที่มีสิ่งเหล่านี้ ภาพยนตร์ของพี่ก็มี เราไม่ควรออกมาแล้วมาว่าว่าสิ่งเหล่านี้มันผิด เพราะฉะนั้นอยากจะขอว่าเราใช้วิธีที่เหมาะสมดีกว่า เรื่องไหนที่ติดค้างใจกันมาคุยกันแค่เรื่องนั้นดีกว่า

           ทนาย: อย่างไรก็ตามแต่เรื่องนี้มันก็เป็นความเสียหายกับทาง บี ออน คลาวด์ ในเรื่องนี้ ก็อยู่ในการรวบรวมหลักฐานสำหรับการดำเนินการต่อไปด้วย

            พิง: ส่วนในเรื่องความสัมพันธ์กับต้อม ผมใช้คำว่าเพื่อนผมตลอด เพราะเมื่อ 2-3 วันก่อน ผมโพสต์รูปในเฟซบุ๊ก เพื่อนผมยังมาคอมเมนต์ ผมยังกดหัวใจให้เพื่อนผมอยู่เลย ส่วนที่เขาเคยบอกว่าผมเป็นศัตรู ผมขอเลือกเชื่อในสิ่งที่ผมเลือกเชื่อ เราเปลี่ยนแปลงความคิดใครไม่ได้จริงๆ แต่เราเลือกเชื่อในสิ่งที่เราเลือกเชื่อได้ ผมยังเชื่อว่าคือเพื่อนผม เพราะในวันที่จะมาแถลงข่าวเขายังแท็กไอจีผมเลยว่าอย่าพาดพิงใครนะเดี๋ยวเดือดร้อน ซึ่งผมมองว่าถ้าไม่ใช่เพื่อนกันเขาไม่เตือนกัน เขาไม่ใส่ใจกันขนาดนี้ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมคิดว่าเขาคือเพื่อนผมตลอดผมเชื่อว่าทุกอย่างมันเกิดจากความเข้าใจผิด ผมอยากให้เพื่อนผมคุยกับพี่ปอนด์มากๆ ถามว่ารู้สึกยังไงที่คนบอกว่าเป็นนกสองหัว หักหลังเพื่อน ผมเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ ผมเป็นคนกลางที่ผมไปเอาเงินจากนายทุนไปให้เพื่อนผม เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าผมจะต้องเข้าข้างใคร ผมยืนอยู่ข้างกฎหมาย ยืนอยู่ข้างสัญญา

           ปอนด์: ส่วนชื่ออยากให้ทุกคนช่วยตั้งชื่อ และมีชิงเงินรางวัลด้วยตอนนี้ยังใช้ชื่อว่า หนังที่ยังไม่ตั้งชื่อเรื่องนี้ได้ฉายอย่างแน่ นอนเดือนกุมภาพันธ์ แต่ชื่อเรื่องอะไรค่อยว่ากัน สัญญาที่คงไว้เพื่อปกป้องตัวเอง แต่ก็อยากให้พี่เขาเข้าใจ

           พิง : สุดท้ายอยากฝากอะไรถึง พี่ต้อม มึงกูรู้อยู่ว่ามึงดูอยู่ จะบอกว่าเขาตั้งใจจริงๆ นะเชื่อกูดิมันจะทำให้หนังมึงดีอยู่แล้วแต่ต่ออายุไปอีกในสมัยที่เศรษฐกิจแบบนี้ และเขาลงเงินเยอะขนาดนี้ เขาจริงจังขนาดไหน ต่อให้ได้ร้อยล้าน เขายังขาดทุนเลย เชื่อกูไปคุยกับเขา”...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ปอนด์” ยื่นฟ้อง “ต้อม” พร้อมตั้งชื่อหนังใหม่ ด้าน “พิง” ย้ำเสมออีกฝ่ายคือเพื่อน

“พิง ลำพระเพลิง” วันเกิดปีนี้เป็นปีที่สนุกมาก สุขภาพดีไม่ป่วย

“พิง ลำพระเพลิง” เปิดตัวทนาย ลั่น! มั่นใจในหลักฐาน

แถลงการณ์จาก “พิง ลำพระเพลิง” ปมดราม่าหนัง “บุปผา” ยันเป็นผู้กำกับจริง!!

“BeOnCloud” จับมือ “พิง ลำพระเพลิง” เตรียมปลุกตำนานหลอน ใน “บุปผาราตรี” เวอร์ชัน 2025

“พิง ลำพระเพลิง” เจอวิกฤติละคร พ้อ! ไม่มีงานเขียนบท รับขอเงินนายทุนสร้างหนัง

สุดยอดนักสู้ “พิง ลำพระเพลิง” กว่าจะขึ้นแท่นผู้กำกับคุณภาพ สู่ผลงานใหม่ “แสนสนั่น พันธุ์สั่นสู้”

Comments