ฟังอีกมุมจากปาก “เบสท์ ปณิชา” ลูกสาว “เอ๋ ไพโรจน์” กรณีมีผู้ร้องอ้างเป็นอดีตภรรยาเข้าบ้านไม่ได้
จากกรณีที่ อดีตเมีย"เอ๋ ไพโรจน์" ร้องขอความเป็นธรรม อ้างถูกลูกสาวขับไล่-สงสัยสาเหตุเสียชีวิตของสามี
อ่านข่าวต่อ: ครอบครัวและดารานำโดย “ดี้ ปัทมา” ร่วมพิธีลอยอังคาร “เอ๋ ไพโรจน์”
โดย ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก เก่ง สุชาติ ทีมงานชมรมสันติประชาธรรม ว่าวันพรุ่งนี้ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ สำนักงานอัยการสูงสุด ดร.แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม จะพาภรรยาคนปัจจุบันของอดีตนักแสดงอาวุโสและผู้กำกับชื่อดัง ไพโรจน์ สังวริบุตร หรือ เอ๋ ไพโรจน์ ที่เพิ่งเสียชีวิตไป ยื่นเรื่องร้องเรียนขอความคุ้มครองสิทธิและขอความเป็นธรรม
โดยผู้ร้องเรียนซึ่งอ้างว่าเป็นภรรยาที่อยู่กินกับคุณไพโรจน์มานานกว่า 20 ปี เปิดเผยว่า ถูกบุตรสาวจากภรรยาคนแรกของคุณไพโรจน์ขับไล่ออกจากบ้านพักที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ด้วยการเปลี่ยนลูกบิดและกุญแจบ้าน ทำให้ไม่สามารถกลับเข้าไปในบ้านได้ ทั้งที่ยังมีทรัพย์สินและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ของผู้ร้องเรียน
นอกจากนี้ ผู้ร้องเรียนยังระบุว่ามีความคลางแคลงใจในสาเหตุการเสียชีวิตของคุณเอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร เนื่องจากหลังพิธีฌาปนกิจศพ ได้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่ชวนสงสัย ทำให้เธอรู้สึกค้างคาใจและต้องการความกระจ่างในข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อหวังว่าอัยการจะให้ความเมตตาในการคุ้มครองสิทธิให้สามารถกลับเข้าบ้านและใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข พร้อมทั้งทวงคืนความยุติธรรมและปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง
ล่าสุด ดาราเดลี่ได้สอบถามไปทาง “เบสท์ ปณิชดา” ลูกสาว “เอ๋ ไพโรจน์”กรณีนี้ ประเด็นแรกเขาไม่ได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย สองเหตุเกิดหลังพ่อเสียไปแล้ว มีการนำรถไปซ่อน คือยืมไปใช้แล้วไม่คืน แล้วก็มีทรัพย์สินในบ้านหลายอย่างหายไปเช่น ไอแพด เหรียญพระที่สำคัญ
ตอนหลังยอมรับว่าเปลี่ยนลูกบิดใหม่เพื่อป้องกันของหาย เขาก็เอากุญแจมาล็อกซ้ำ ตอนนี้เบสท์กำลังรอคำสั่งศาลเพื่อให้เป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย จะมาทำแบบไม่ได้เพราะทรัพย์สินเราดูแลอยู แล้วทรัพย์สินของพ่อก็มีเพียง รถและ บ้านเท่านั้นเอง
“เบสท์ ปณิชา” เผยอีกว่าปัจจุบันเขาเข้าบ้านได้ เราไปล๊อคกุญแจ เขาสะเดาะกลอนเข้าไปอยู่ เขาก็เอากุญแจเขามาล็อคซ้ำ เรื่องเข้าบ้านไม่ได้ จึงไม่ใช่ประเด็น หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ไปล็อคแล้ว กุญแจหน้าบ้านเขาก็มีเขาก็เข้าได้ เสื้อผ้า ของใช้เค้าก็ยังอยู่ ไม่มีทรัพย์สินเพิ่มใดๆ หลังจากอยู่ด้วยกัน ที่จะมามีสิทธิ์แบ่งครึ่งแล้วพ่อเคยพูดออกสื่อแล้วด้วยว่าเลิกกันไปแล้ว