“ปอ อรรณพ” เปิดร้านอาหารสู้หวั่นอดตาย หลังงานบันเทิงไม่มีทำรายได้ลด
หันมาเป็นพ่อค้ามือใหม่ นักร้อง นักแสดงหนุ่มเอวดี “ปอ อรรณพ” ที่เจ้าตัวหันมาทำธุรกิจอาหาร พร้อมเผยถึงงานในวงการบันเทิง...
อ่านข่าวต่อ : “ปอ อรรณพ” งงไม่มีใครเข้ามา หน้าตาก็พอได้ หุ่นก็แซ่บ ฟิตหุ่นโชว์ร่างทอง แฮปปี้ได้ทำร้านอาหาร
“เป็นพ่อค้ามือใหม่ครั้งแรกเลยมาเปิดร้านขาย ขนมจีนแกงใต้ เป็นสูตรของคุณพ่อ ซึ่งชื่อร้าน ลุงแดงแกงใต้ คือตอนนี้เรามีร้านอาหารใต้อยู่เปิดให้คุณพ่อทำแล้วอันนี้เป็นการออกบูธครั้งแรกของร้านเลยก็ชุลมุนอยู่บ้าง ไม่เคยทำบูธขายของมาก่อนเลย กลัวว่าจะขายไม่ได้ก็เลยไม่กล้าทำมาเยอะ ถ้าใครมาเจอเราก็ช่วยซื้อกันได้ ปกติเราทำที่ร้านอย่างเดียวไม่เคยเดลิเวอรี่ ไม่เคยไปออกบูธที่อื่น อันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ร้านอาหารได้มาตามบูธตามห้าง ธุรกิจที่ร้านดี ก็ทำมาประมาณ 4 เดือน ก็เต็ม 90 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าโอเค หลายๆ คนก็ติดตามคุณพ่อแข่งมาสเตอร์เชฟ ลุงแดงใครจำพ่อเราได้ ลุงแดงแข่งมาสเตอร์เชฟ ตอนนี้ลุงแดงมาทำอาหารที่ร้านเรา ร้าน อรรณพ bkk สามารถตามไปกินที่ร้านได้ด้วย ก็จองโต๊ะไปได้ เปิดมา 4 เดือน ยังคืนทุนไม่ได้ครึ่งนึงเลย เพราะว่าเรารีโนเวทร้านไปเยอะมาก คิดว่าทำระยะยาว 5 ปี 10 ปี ก็เลยอาจจะยังไม่ได้คืนทุนในปีแรก ก็คิดไว้สัก 2 ปีคืนทุนก็โอเคแล้ว ของพ่อหลายล้านอยู่ เป็นหลักล้านแต่ไม่ถึง 10 ล้าน นอกจากร้านข้างบนก็จะเป็น Rooftop bar เป็นบาร์ด้วยมันก็เลยอาจจะเยอะนิดนึง
ละครเราไม่มีแล้วนะตอนนี้ ไม่มีถ่ายละครเลย ละครเป็นศูนย์เลย ก็เพิ่งจบไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังไม่มีเรื่องอะไรมาต่อ แล้วก็ยังไม่มีวี่แววด้วย เดือนนี้มีรายได้ เรายังโชคดีที่เรามีรายการประจำ ยังมีอีเวนท์ร้องเพลงบ้าง แล้วยังมีออกรายการต่างๆ ต่อเนื่อง คือถามว่าเยอะเท่าเมื่อก่อนไหมก็ไม่ เราก็ไม่ได้ถึงขั้นแบบไม่มีงานเลย พีคสุดๆ เป็นล้านๆ ในช่วงที่แบบร้องเพลงเยอะๆ เศรษฐกิจดีๆ ลูกค้าจ้างไปงานบริษัท แต่ตอนนี้บางบริษัท อย่างเช่นงานเลี้ยงภายในเขาจะปีละ 2 ครั้ง เดี๋ยวนี้ก็ปีละครั้งหรือบางทีก็ไม่จัดเลย จากหลักล้านบางทีมันก็ลดลงไม่ถึงล้าน เดือนนี้ถึงแสน แต่งานบันเทิงถือว่าน้อยลง ต้องยอมรับว่ามันเป็นยุคที่ดาราก็ต้องไปหาทำอย่างอื่น ทำคอนเทนต์ออน ไลน์เพิ่มขึ้น ทำธุรกิจต่างๆ รู้สึกไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ ต้องประคับประ คองตัวเองหาอะไรทำอย่างอื่น ต้องสู้ถ้าไม่สู้ก็อดตาย
เราว่ายากนะแต่ว่ามันต้องไปให้ได้ รู้สึกว่าไม่เครียดแต่วาง แผนมากขึ้นในการใช้เงินในการจะซื้อนู่นนี่นั่น เหมือนเมื่อก่อนที่เราอยากได้อะไรก็ซื้อ เดี๋ยวนี้คิดมากขึ้นจำเป็นไหม ถ้าไม่จำเป็นก็พักก่อน หรือว่าลงทุนทำอะไรถ้ายังไม่ชัวร์กับมันก็อย่าเพิ่งลงทุน”