“กชเบล” เปิดหน้าใหม่หลังบินศัลยกรรมเกาหลี คนทักคล้าย “อิงฟ้า-อาม” แต่ยื่นเรฟนางงามคนนี้ไป

“กชเบล” เปิดหน้าใหม่หลังบินศัลยกรรมเกาหลี คนทักคล้าย “อิงฟ้า-อาม” แต่ยื่นเรฟนางงามคนนี้ไป

0

“กชเบล” เปิดหน้าใหม่หลังบินศัลยกรรมเกาหลี คนทักคล้าย “อิงฟ้า-อาม” แต่ยื่นเรฟนางงามคนนี้ไป

           หลังจากประกวดเสร็จก็ตัดสินใจบินลัดฟ้าไปทำหน้าใหม่ถึงประเทศเกาหลี สำหรับ “กชเบล ศรัณย์รัชต์” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ล่าสุดมีโอกาสได้เจอกันในงาน “ข้างบ้าน” ทำบุญเปิดกล้อง ส่งต่อบุญ ภาพยนตร์เรื่องแรกจากโปรเจ็กต์ “Ghost Light” ที่เจ้าตัวได้มารับงานแสดงครั้งแรก หลังจากประกวดเสร็จ โดยเผยว่า 

กชเบล ศรัณย์รัชต์

กชเบล ศรัณย์รัชต์

           จริงๆ หลังทำมารู้สึกว่าปังนะ หน้าเก่าก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี เราก็รักทุกพาร์ตของตัวเองที่พาเรามาจนถึงจุดนี้ แต่เราก็อยากที่จะไปต่อ เลยทำการบ้านกับหน้าตัวเองว่าหน้ากล้องมันจะมีร่องแก้ม มีความพุ่งมากไปหน่อยของจมูก เลยอยากให้มันดูกลมกล่อม ยิ่งพอมาเล่นภาพยนตร์ก็อยากได้ในเรื่องของความเป็นธรรมชาติที่สุด คือตอนแรกแพลนว่าจะไปทำจมูกอย่างเดียว พอไปถึงที่เกาหลีคุณหมอวาดเต็มหน้าไปหมดเลย คุณหมอบอกว่าถ้าอยากให้ละมุนขึ้นอาจจะต้องเติมไขมันที่หน้านิดหนึ่ง ทีแรกแอบกลัวว่ามันจะดูโอเวอร์ไปหรือเปล่า เลยบรี๊ฟคุณหมอไปว่าขอนิดเดียวจริงๆ แบบพักฟื้น 10 วันแล้วออกงานได้เลย สรุปก็คือแก้จมูก เติมไขมันที่หน้าอย่างละนิดละหน่อย แล้วก็ลดชั้นตาให้เล็กลง

กชเบล ศรัณย์รัชต์

กชเบล ศรัณย์รัชต์

           คือเราแซวเอฟซีเล่นๆ ว่ายื่นเรฟฯ อาม ชุติมา ไป เพราะว่า อามยื่นเรฟฯ พี่ฟ้า แต่ก็ดีใจที่มีคนทักเราว่าหน้าคล้ายน้องอามด้วย แล้วก็หน้าคล้ายพี่ฟ้าด้วย แต่ถ้าจะให้หนูสวยเหมือนพี่ฟ้าอาจจะต้องหมดเงินอีกเยอะ ตอนทำตั้งใจจะเปิดเรฟฯ จมูกของพี่เฌอเอมกับน้องเกรซ สรุปพอไปถึงหน้างานที่เกาหลีไปเปิดเรฟฯ พี่สาวจีนซะอย่างอย่างนั้น คุณหมอก็เนรมิตให้เลย ประเมินราคาหน้านี้ก็อยู่ที่หลักล้านค่ะ แต่ถือว่าคุ้ม ตอบโจทย์มากเพราะว่าจมูกได้ความธรรมชาติมากขึ้น ไม่ได้ฟีบเหมือนตอนแรก ส่วนชั้นตาอันเดิมจะมีความกลมโตหนา อันนี้เราก็ลดให้มันเล็กลง ส่วนตัวพอใจกับหน้านี้มาก จริงๆ เราก็ไม่ได้อยากที่จะเปลี่ยนไปกลายเป็นอีกคนนึงเลย สุดท้ายเราก็ยังเป็นเราอยู่ แค่ว่าอยากให้ตัวเองดูเด็กลงนิดนึง

กชเบล ศรัณย์รัชต์

           ส่วนเรื่องงานอย่างที่บอกไปว่าเราแพลนในเรื่องของการไปแก้จมูกและรูปหน้า ตอนนี้จบแล้วเราก็มาโฟกัสในเรื่องของการเตรียมตัวในการประกวด เริ่มมีทักทายเพื่อนๆ แล้ว เรียนภาษาและเรียนตอบคำถามกับพี่เฌอเอม แล้วเดี๋ยวจะมีการวางตารางให้ไม่ชนกับการถ่ายหนัง ส่วนประเด็นเรื่องภาษาอังกฤษที่หลายคนเป็นห่วง บอกตรงนี้เลยว่าเราจะตั้งใจอย่างเต็มที่ จะไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร แต่วัดจากตัวเราดีกว่าว่ามีการพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน วันนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าที่จะพูดในสำเนียงแบบที่เราเป็นนี่แหละ ภาษาอังกฤษเราอาจจะไม่ได้เนทีฟ 100% แต่วันนี้เราเก่งมากกว่าเมื่อวานแล้ว แค่นี้ก็แฮปปี้และภูมิใจตัวเองแล้วค่ะ

กชเบล ศรัณย์รัชต์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments