เขินหนัก! “พีพี ปุญญ์ปรีดี” ยิ้ม “เก้า นพเก้า” ยกเป็นคนพิเศษ ชมลุคคานส์ฝ่ายชายเท่มาก
มีคนเสียอาการขั้นสุดนักแสดงสาว “พีพี ปุญญ์ปรีดี” หลังพระ เอกหนุ่ม “เก้า นพเก้า” ยกให้เป็นคนพิเศษเพราะทั้งคู่ได้ไปเดินพรมที่เมืองคานส์ด้วยแถมยังซัพพอร์ตกันและกันอีกด้วย มีโอกาสเจอสาว “พีพี” เลยถามถึงโมเมนต์นั้นซะหน่อย
อ่านข่าวต่อ : “พีพี” หมดสัญญากับผู้จัดการ ยันจบด้วยดี ไม่มีปัญหากัน
“ไปเมืองคานส์ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้เจอวัฒนธรรมหรือไปเจอศิลปะการแต่งตัวที่ว้าว ส่วนการแต่งตัวของเราก็ออกแนวเซ็กซี่ ตัวพีก็เขินเหมือนกัน เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ท้าทายครั้งแรกของพวกเราทั้งสองคนคือเหมือนเราก็ให้กำลังใจกัน ว่าเราจะทำให้เต็มที่ที่สุด แล้วพี่เขาก็ทำออกมาได้ดีมากๆ คือเป็นการเดินออกมาได้เท่ สง่าและมีความเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย พีก็รู้สึกว่าเขามีเสน่ห์ในตัวเขามากๆ ถ้าคะแนนเต็มเท่าไหน ให้เกินคะแนนเลย คือลุคนี้พี่เก้าคือเท่ที่สุด ดูดีที่สุด มีออร่าที่สุดสำหรับตัวหนู คือเขาพรีเซนต์ตัวเขาออกมาได้ดีมากๆ ขนาดเป็นครั้งแรกของเขา เรารู้สึกว่านี่เขาเดินมากี่ครั้งแล้ว คือเขาทำออกมาได้ดีจริงๆ
หลายคนที่บอกว่าเดินคู่กันเหมาะสมกันมาก ก็กราบขอบพระ คุณมาก สำหรับคำชื่นชม เพราะเราเป็นคู่จิ้นกันแล้วได้ไปทำงานใหญ่ๆ คู่กัน ถามว่าประสบความสำเร็จมากแค่ไหน คือหนูต้องขอบคุณที่มอบโอกาสดีๆ ให้ทั้งตัวพี่เก้าและตัวพีได้เข้าไปร่วมงานคานส์ในครั้งนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่จะไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตมาก่อน จะจดจำและเรียนรู้เก็บไว้ในความทรงจำอย่างดีเลย และที่สำคัญก็รู้สึกว่าพีอยากจะขอบคุณแฟนๆ ทุกคนเลย ทั้งแฟนๆ คนไทยและอินเตอร์แฟน ที่เข้าร่วมส่งพลังความรักและกำลังใจทุกอย่างให้พี่เก้าแล้วก็ให้หนู รวมถึงทีมงานทุกๆ คนในการไปร่วมงานในครั้งนี้ก็อยากจะขอบคุณจริงๆ คือเราได้เห็นและเราได้รับพลังงานความรักจากตรงนั้นเต็มเปี่ยมมากๆ
ส่วนที่พี่เก้าบอกว่าเราเป็นคนพิเศษสำหรับเขา ก็รู้สึกดีใจ ที่เห็นหนูเป็นคนพิเศษสำหรับเขา ซึ่งคำว่าพิเศษสำหรับตัวพี พิเศษในที่นี้มันก็หลากหลายมุมมอง หลากหลายรูปแบบว่า จะพิเศษอะไรยังไง ก็อาจจะต้องไปลงรายละเอียดของพี่เขาอีกทีนึงว่า คำว่าพิเศษของพี่เขาหมายความว่าอะไร คือเราก็ได้ฟังคำสัมภาษณ์แล้วก็….ถามว่าพี่เขาเป็นคนยังไง ก็ในการทำงานพี่เขาก็เป็นคนที่พิเศษมากเหมือนกัน เพราะว่าพี่เขาเป็นคนที่พีร่วมงานบ่อยที่สุดและมากที่สุดแล้ว ส่วนในชีวิตก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต”