“กรีน” ตั้งเป้าเล่นละครจนถึงวัย 50 รอเล่นบทคนใบ้ พยุงอาชีพภาษามือ
ดราม่าวงการละครตอนนี้อยู่ในช่วงพายุเข้า ผู้จัดหยุดผลิตงานละคร ทำเอาพระเอกนางเอกหลายคนตกงานช่วงขาลงละครไทย อีกหนึ่งนางเอกฝีมือคุณภาพ “กรีน อัษฎาพร” ขอปรับตัวก่อนใคร เดินสายออนไลน์บุกโลกโซเชียล เปิดแผงไลฟ์สดโกยเงินจากชาวเน็ตไปได้สวยเลยทีเดียว งานนี้เผยกลยุทธ์เด็ดเปิดใจผ่าน รายการ “โต๊ะหนูแหม่ม”
อ่านข่าวต่อ: ชื่นใจ “กรีน อัษฎาพร” ชวนครอบครัว คนสนิท แฟนคลับ ร่วมบุญวันเกิด
ตั้งแต่หลังโควิด งานอีเว้นท์งานน้อยลงทุกอย่างโยกมาอยู่ออนไลน์หมดเลย การไลฟ์มันก็เหมือนงานๆนึง แต่พอมันโยกมาอยู่ออนไลน์มันเหมือนกับเป็นการพูดคุย อย่างที่หนูทำก็ไม่ได้พูดคุยอย่างเดียว ก็จะมีเซคชั่นที่เป็นร้องเพลง มีเซคชั่นที่เป็นการทาบำรุงในส่วนของครีม แต่ว่าตามใจหนูนะ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นข้อจำกัด อะไรที่เป็นตัวเรานึกอยากทำอะไรทำ
กลับมาบ้านก็รู้สึกอยากรีบไปอาบน้ำเพราะว่าจะมาไลฟ์ อยากไลฟ์อยากเจอแฟนคลับ มันเป็นเหมือนพื้นที่ใหม่ได้เจอคนใหม่ๆ ทำแล้วทำให้เราได้เจอกับคนที่เราไม่เคยได้เจอมานาน อย่างเพื่อนๆที่ประกวดเอเอฟที่ไม่เจอกัน ก็มาเจอกันที่ไลฟ์ ส่วนเรื่องรายได้ กรีนคิดว่ามันเป็นเรื่องของผลพลอยได้มากกว่า ถึงแม้ในใจลึกๆเราจะอยากได้ตังค์ก็ตาม เป็นค่ากะปิน้ำปลาไป
ถามว่าจากสถานการณ์วิกฤตละครส่งผลกระทบเรายังไงบ้าง คือก็มีไม่กี่เรื่อง ที่น้อยลงเพราะว่าหนูรู้สึกอยากโฟกัส ก็เลยเหลือปีละ2เรื่อง 2ควบ3อะไรแบบนี้ ก็มีกระทบบ้าง เราอาจจะน้อยกว่าคนอื่น อย่างเราก็ทำงานในวงการมาระยะหนึ่ง คาแรคเตอร์กรีนแบบนี้น่าจะไปใส่กับในหลายๆเรื่องได้ เราไม่ได้เก่งนะ แต่เราได้เลือกง่ายกว่าคนอื่นๆ เรายังมีช้อยท์ที่ได้ไปลงในเรื่องต่างๆ
ถามว่าทำไมยังคงเลือกอาชีพนักแสดง เพราะเป็นงานที่เราเลือก ถึงแม้คนจะคิดว่าอยากให้เราจะล้มเลิกความคิดนี้ไป รู้สึกว่ามันไม่เห็นอนาคต แต่สำหรับหนู หนูมองว่ามันเริ่มมาจากความรัก รักที่จะแสดงรักที่จะหาตัวละครใหม่ๆ หนูอยากจะพัฒนาตัวเองอยากจะรู้ว่าการที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์คนนึงที่ทำอาชีพนี้ อาชีพที่คนบอกว่าเป็นอาชีพที่เต้นกินรำกิน อาชีพที่มีกำแพงหรือมีเพดานของมัน
หนูอยากรู้ว่าความสามารถหนูและร่างกายของหนูที่มี หนูสามารถไปถึงตรงไหน อยากเดินไปเรื่อยๆ ณ วันนี้ที่รักษาตรงนี้ได้ ก็รักษาตำแหน่งนี้ได้ก็จะดี แต่ถ้าวันนึงมันมีรุ่นใหม่เข้ามา หนูเข้าใจและปรับตัวได้ หนูโอเคกับนะจุดนี้ แต่ ณ วันนี้ถ้ายังรักษาบทนำ บทที่เป็นลีด หนูก็อยากรับ ไม่มีใครไม่อยากรับหรอกอันนี้ก็พูดตรงๆ แต่ถ้าวันนึงถ้าหนูอายุ 50 ร่างกายเราไม่ไหวจริงๆคาแรคเตอร์เรามันไม่ได้ อันนี้เราเข้าใจก็ต้องปรับตัวเองไปรับบทอื่น สำหรับตัวหนูนะคะ ไม่ใช่ว่าความมั่นใจนะคะ แต่หนูว่าหนูสามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้อีกนาน ก็มีบทใบ้ที่หนูเห็นตามซีรีส์ที่ยังไม่ได้ทำ เล่นเป็นใบ้ทั้งเรื่องแต่สามารถสื่อสารได้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง ถ้าเราเป็นนักแสดงแล้วได้บทที่มีผลต่อสังคม หนูอยากทำ ถ้ามันได้เผยแพร่อาชีพบางอย่าง ที่เราในฐานะแสดงที่ทำได้ก็อยากทำ อยากบทภาษาใบ้ ภาษามือ หรือออทิสติกมันเป็นอะไรที่เราไม่เคยได้ลองเล่น ถ้าเล่นมันจะเป็นยังไงอยากรู้เหมือนกัน