“หน่อย บุษกร” ยุติบทบาทผู้จัด ปิดบริษัท คัมแบ็คเล่นละครในรอบ 3 ปี
ทำเอาแฟนละครตกใจเมื่อผู้จัด “หน่อย บุษกร” เลิกเป็นผู้จัดขอกลับไปเล่นละครแทน หลังจากห่างหายไปนานถึง 3 ปี มีโอกาสเจอเจ้าตัวเลยถามถึงเรื่องนี้
อ่านข่าวต่อ : “หน่อย บุษกร” หมดไฟการเป็นผู้จัด คัมแบ็คกลับมาเล่นละครแล้ว ลูกชายชอบงานวงการบันเทิง
“ประกาศเลิกเป็นผู้จัดละครเหมือนเราหมดไฟ ต้องยอมรับว่าเราอยากไปทำอะไรที่เราอยากทำ ก็คิดถึงการเล่นละคร ช่วงที่เจอวิกฤตละครด้วย เราก็เลยได้มาคุยกับตัวเองว่าสิ่งที่เราอยากจะทำมันก็คงไม่ได้ ไม่ตรงความต้องการของตลาด ทั้งหมดนี้คือฟางหมดเลย ตอนนี้บริษัทก็ไม่มีแล้ว คืนทุกอย่างไปหมดแล้ว มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เราแค่ทำใจยอมรับ เสียดายไหมมันก็เสียดายเป็นธรรมดา เพียงแต่เราไม่ยึดติดว่าต้องสู้ ต้องทำ ก็ยอมรับว่าปิดก็ต้องปิด ก็คุยกับเคนเราก็เห็นตรงกัน เขาเห็นด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่เครียดนะ มันไม่เหมือนกับเราเล่นละคร เราก็ทำบทของเรา รับผิดชอบเล่นตามบทของเราแล้วก็กลับบ้านไปโล่งๆ สบายใจกว่า เป็นผู้จัดมันก็ตั้ง แต่เลือกเรื่อง ขายงาน หาทีมงาน เป็นรายละเอียดเยอะ
ตอนนั้นเราทำเพราะเราอยากทำ มันมีความสุข ตอนนี้โลกมันก็เปลี่ยนไป เราเองยังอยากไปดูอะไรที่มันสั้นๆ เลย ก็เลยต้องยอมรับ ตอนนี้ก็กลับมารับละคร รับไว้แล้ว 3 เรื่อง มีหนังด้วยอีก 1 เรื่องก็เล่นทีละเรื่องไล่ๆ ไป มีผู้จัดหลายคนที่เขาก็นึกถึงเรา ก็ห่างละครมา 3 ปี ถามว่าเลือกเยอะไหม ก็อ่านแล้วชอบ มีเรื่องหนึ่งพลิกบทบาทเล่นเป็นคนดีนะ จากที่ร้ายมาตลอดตัวเคนเขามีหนัง น่าจะใกล้ๆ แล้วมั้ง ไม่เคยหมดไฟกับการเป็นนักแสดงเหมือนเราเคยขี่จักรยานได้ พอเรามาจับจักรยานอีกครั้งมันก็ไปได้ ปั่น ถีบ สนุกเลย ตอนที่เล่นมันกลับมามีความสุข เหมือนเป็นความสุขของเราอีกแบบหนึ่ง
ลูกๆ ก็เริ่มเข้าวงการเป็นนายแบบคนโตจะชอบงานเบื้องหลัง ก็มีพี่ป้าน้าอาติดต่อให้ไปทำงาน ถ้าจ๊อบสั้นๆ ไม่ต้องใช้เวลาเยอะ เขาโอเค ได้เงินเขาไป เขาก็ทำหนังเอง ส่งเข้าประกวดด้วย ก็รอผลอยู่ ก็ดีใจกับเขาเหมือนเป็นประสบการณ์ของเขา เด็กสมัยนี้เขาเก่งในการค้นหาอะไรต่างๆ ถ้าเป็นสมัยเราคงไม่หาทางส่งงานตัวเองเข้าประกวด มันเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องยาก อันนี้เขาก็แค่เหมือนส่งเรื่องของเขาไปตามอีเมลต่างๆ แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่ายูได้รางวัลอันนั้นอันนี้ คือดูหนังเขาแล้วก็อาร์ตตัวลูกเหมือนกันนะ ไม่แพ้พ่อ เขาจะทำเองทุกอย่าง จัดไฟ ถ่ายเอง เขียนบทเอง กำกับเอง มีจับแม่เล่นแล้วด้วย แม่ก็แบบโอเคลูก ได้อยู่ในหนังเรื่องแรกของลูก ก็ดีใจแทบจะเอาเงินให้ลูกเลย ตัวเล็กเกิดจากว่าเขาติดต่อตัวพี่ให้ไปแคส แม่ก็ให้ไปแคส เราคนทำงานเราจะรู้ว่าบางทีต้องเรียกมาดูตัว พูดคุยกันก่อน มันเป็นเรื่องของเสน่ห์ การพูดการจา ก็ให้น้องคุณไปแคสแล้วเอาจุนไปเป็นเพื่อน ปรากฎว่าจุนได้ พอได้ลองจุนกลายเป็นชอบ พอได้ไปอ่านบท ต่อบทแล้วเขาสนุก ตัวพี่ชอบเบื้องหลัง ตัวน้องชอบเบื้องหน้า บางทีพี่จะเป็นคนถ่ายให้น้องเป็นนักแสดงให้พี่ อุตสาหกรรมครอบครัวแต่เป็นครอบ ครัวที่ติสต์มาก แม่รู้สึกว่าบางทีอะไรง่ายๆ มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ แต่เขาเป็นเด็ก 15-16 ปีที่คิดไปในอีกแบบหนึ่ง มีความสุขอีกแบบเขา”