“น้ำตาล ชลิตา” ย้อนเปิดปมในใจในรอบตอบคำถาม ไม่กล้าแม้แต่จะย้อนกลับไปดู
ช่วงนี้กระแสนางงามยังฟรีเวอร์อย่างต่อเนื่อง การประกวดจบ แต่อารมณ์ไม่จบถึงคิวนางงามรุ่นพี่อย่าง “น้ำตาล ชลิตา” แพ็คคู่มากับ “สไปรท์ บะบะบิ” เม้าท์มอยจักรวาลนางงาม แบบอินไซต์ แบบคนที่มูฟออนเป็นวงกลม เปล่งร้องพร้อมกันว่า แรงมากกก ในรายการเม้าท์อยู่กับปาก อยากอยู่กับคิ้ม Special เมื่อน้ำตาลเผยเหตุการณ์สุดพีคหลังเวทีประกวด รีแอคแบบสับ งานนี้ขอพูดหมด อีกทั้งเผยหนึ่งเรื่องที่ติดเป็นปมในใจจนถึงทุกวันนี้
อ่านข่าวต่อ:“น้ำตาล ชลิตา” ฝากไว้ให้คิดถึงคนที่วิจารณ์ “เชย์นิส ปาลาซิโอส” เจ้าของมงกุฎ Miss Universe 2023
กว่าจะได้มาเป็นน้ำตาลในทุกวันนี้ได้ยืนบนเวทีอันทรงเกียรตินี้ ไม่ง่ายเลยสำหรับสาวน้ำตาลกับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 และนับว่าเป็นที่แรกที่ออกมาเล่าประสบกาณ์ตรง ว่าครั้งหนึ่งเคยโดนเพื่อนนางงามปฎิเสธความช่วยเหลือ ครั้งที่ได้เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยเธอเล่าว่า
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : เวลาเดินทางไปประกวดต่างบ้านต่างเมืองกระเป๋าเอาไปทั้งหมดกี่ใบ
น้ำตาล : เอาไปทั้งหมด 17 ใบค่ะ
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : มีชุดอะไรบ้าง
น้ำตาล : วันนึงหนูเปลี่ยน4 รอบเลยต่อวัน คือเค้าจะมีตารางกิจกรรมมาให้เราดูว่าจะมีไปไหนบ้าง มีวันนึงที่ไม่มีไปทำกิจกรรมอะไรเลย แล้วเค้าก็แคนเซิลหนูตอนเเรกเค้าบอกมิสไทยแลนด์จะได้ไป แต่ก็ไม่ได้ไป ไม่เป็นไรเราก็มาแก้เกมตรงที่ว่าลงมากินข้าว1 ชุด ขึ้นไปเปลี่ยน กลับลงมาถ่ายรูปเล่น 1 ชุด ขึ้นไปเปลี่ยน แล้วลงมาถ่ายหน้ากระจกอีก1 ชุด ขึ้นไปเปลี่ยน และก็ดินเนอร์อีก 1 ชุด ขึ้นไปเปลี่ยน
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : แล้วเอาไปลงช่องทางไหน
น้ำตาล : อินสตาแกรม
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : นี่คือการแก้เกมส์ ที่ไม่ได้ส่งผลต่อคะแนน
น้ำตาล : ใช่ แต่มันสะใจ
.jpg "น้ำตาล ชลิตา")
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : เราเคยโดนแกล้งมั๊ย มีคนอิจฉากันมั๊ยเวลาที่ผู้หญิงอยู่รวมๆ กันเยอะๆ
น้ำตาล : เชิ่ด เพราะฟังไม่ออก แต่ว่ามันก็มีที่หนูต้องใช้ชุดซึ่งชุดเป็นแบบโครเซ็ท ก็เลยบอกให้ช่วยดึงโครเซ็ทหน่อยเค้าก็บอกเค้ายังแต่งตัวไม่เสร็จเลย เราก็โอเค ทดไว้หนึ่ง พอเค้าเข้ามาถึงเค้าก็เลือกเตียงก่อนเลย และจะเอาเครื่องสำอางไปไว้ในห้องน้ำก่อนเลย เราก็โอเคไม่เป็นไรเตรียมไฟมาเดี๋ยวไว้ตรงนี้ก็ได้ และมีอยู่วันนึงเค้าตื่นสาย แต่หนูตื่นตั้งแต่ตี 4 แต่งหน้า พร้อมออก 7 โมง เราก็มองและอ่ะยังไม่ตื่น เราก็ไม่ปลุกค่ะ และก็มีทีมงานมาเคาะประตูเรียกหนูก็พร้อมจะเดินออกไปแล้ว และหนูก็หยิบแว่นมาอีก 1 อัน
และหนูก็บอกว่าเร็วๆ สิ รีบสิๆ เธอไม่ต้องอาบน้ำอะไรเลย เธอไม่ต้องแต่งหน้า เธอใส่แว่นฉันนะและก็ทาปากแดง และเธอก็ออกไปเลย ส่วนเรื่องที่กลายเป็นปมในใจของหนูถึงทุกวันนี้ คือเรื่องรอบตอบคำถาม และไม่ชอบที่จะกลับไปดูตัวเองเลย เพราะหนูรู้สึกว่าอันนี้คือปมที่สุดในชีวิตหนู หนูบอกกับทุกๆ ที่ว่า มันคือสิ่งหนึ่งที่หนูรู้สึกว่า มันคือการผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
หนูไม่เคยคาดหวังอะไรในชีวิตที่มันรุนแรงขนาดนี้ แล้วหนูไปนู้นไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกรอบ มันคาดหวังสูงมาก มันก็เลยไม่ได้รองรับอารมณ์ตัวเองตอนนั้น พอตกรอบทุกวันนี้มันก็เลยกลายเป็นปมของหนู ที่พอเดินประกวดดูได้ เดินมันส์มากแต่พอถึงรอบตอบคำถามหนูไม่ดู หรือทุกวันนี้มีพี่กระเทยมาด่าหนูว่าแบบ เนี่ยเค้าโยนมงให้แล้ว ตอบคำถามแบบเขวี้ยงมงเอง คือหนูก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้นหรอก แต่ว่าหนูก็ทำเต็มที่สุดแล้ว
