“ตู่ ปิยวดี” เล่าอาการป่วยกระดูกร้าว จนหมอสั่งห้ามวิ่งตลอดชีวิต

“ตู่ ปิยวดี” เล่าอาการป่วยกระดูกร้าว จนหมอสั่งห้ามวิ่งตลอดชีวิต

0

“ตู่ ปิยวดี” เล่าอาการป่วยกระดูกร้าว จนหมอสั่งห้ามวิ่งตลอดชีวิต

              หลังจากที่ได้ออกมาเล่าถึงปัญหาเรื่องของสุขภาพสำหรับผู้จัดละครสาวสวยอย่าง “ตู่ ปิยวดี” ที่มีอาการกระดูกร้าว จนต้องเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาล และได้ผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้มีโอกาสได้เจอตัว เจ้าตัวก็ได้อัปเดตถึงอาการหลังจากออกจากรพ. ว่า

อ่านข่าวต่อ : “ตู่ ปิยวดี” โพสต์แจ้งข่าวต่อไปอาจตอบคอมเมนต์แฟนๆ ไม่ได้แล้ว เพราะสาเหตุนี้

ตู่ ปิยวดี

ตู่ ปิยวดี

           เรื่องขาตอนนี้ก็ดีขึ้น แต่ต้องทำกายภาพ เพราะหลังจากผ่าตัดมันทำให้กล้ามเนื้อเรารีบลงไปครึ่งๆ เลย เหมือนมันเรียนรู้เองโดยธรรมชาติ ตอนนี้เลยต้องกายภาพแบบกระตุ้นไฟฟ้า เหมือนเครื่องที่เขาใช้ทำซิกแพค แต่มาทำที่ขาเราแทน เพื่อให้กล้ามเนื้อมันกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ขายังกลับมาไม่เท่ากัน คุณหมอบอกไม่ได้ว่านานไหม อยู่ที่ความขยันของเราด้วยว่าจะไปกายภาพได้บ่อยแค่ไหน อย่างน้อยคืออาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แต่คือเราไปได้แค่อาทิตย์ละครั้งเอง ถ้าเดินเยอะๆ ขาข้างที่มีปัญหามันจะเมื่อยกว่าอีกข้างหนึ่ง เพราะกล้ามเนื้อมันเล็กกว่า ใส่ส้นสูงก็มีปัญหาเหมือนกัน เมื่อก่อนใส่ได้ 6 นิ้วตอนนี้ก็ลดลงมา ทำกายภาพมาประมาณ 4 เดือนแล้ว คุณหมอบอกว่ามันเป็นมาตั้งแต่เกิด แต่มันมาเป็นปัญหาในตอนนี้ กระดูกเรามันใหญ่กว่าอีกชิ้นหนึ่งพอเราเดินมันเลยไปกระแทกให้อีกชิ้นหนึ่งแตก ตอนนั้นคือมันเดินไม่ได้เลย เลยต้องผ่าเลย หมอแนะนำไม่ให้วิ่งอีกแล้ว แต่เราอยากวิ่งมินิมาราธอนก็ดับฝันไป ตอนนี้อาการก็ถือว่าดีขึ้น 90% แล้ว ต้องไปหาคุณหมอทุกๆ 6 เดือน

ตู่ ปิยวดี

ตู่ ปิยวดี

             สำหรับเรื่องของตา คือตอนนั้นเราเป็นแบคทีเรียลงกระเพาะ แล้วคือคุณหมอก็มองหน้าเราแล้วถามว่าใช้มือถือเยอะรึเปล่า หมอก็บอกว่าเห็นเหมือนมีเยื่อขาวๆ อยู่ในตาเราข้างขวา มันเกิดจากที่เราใช้มือถือเยอะ ในช่วงที่แสงน้อยๆ แต่การเป็นต้อลมไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แค่พยายามใช้มือถือให้น้อยลง แต่ถามว่าจะหายไหมก็คือเป็นแล้วเป็นเลย เมื่อก่อนตู่จะเป็นคนที่ตอบคอมเมนต์โพสต์ทุกคนทุกรูป เราแค่คิดว่าการตอบของเรามันอาจจะเป็นกำลังใจให้เขาก็ได้ ตอนนี้ก็พยายามตอบน้อยลง

ตู่ ปิยวดี
 

            ตอนนี้เริ่มคิดเรื่องเจ้ากรรมนายเวรแล้ว เพราะว่าป่วยบ่อยมาก หมอบอกว่าเคสของเราพบได้น้อยมาก ตอนนี้เริ่มสวดมนต์ ขอขมา แผ่เมตตา ทำให้เรารู้สึกว่ามันดีกับตัวเรา มีสมาธิขึ้น นอนหลับง่ายขึ้น เราก็คิดว่าจะทำบุญให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ เราก็คิดว่าเป็นก็รักษาไป อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นขนาดที่เราใช้ชีวิตไม่ได้ สามีก็คอยมาเฝ้ามาให้กำลังใจตลอด

ตู่ ปิยวดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments