10 เมษายน “แซน วิศาพัช” รายงานตัวครั้งแรก

10 เมษายน “แซน วิศาพัช” รายงานตัวครั้งแรก

        สืบเนื่องจาก 10 เมษายน 2565  เป็นวันครบกำหนดที่  “แซน วิศาพัช” จะเข้ารายงานตัวครั้งแรกหลังจากประกันตัวในคดี “แตงโม นิดา”  ดาราเดลี่ได้ขอให้ ทนาย “สาคร ศิริชัย”  ช่วยวิเคราะห์โทษกฎหมายอาญาในมาตรา 291  ดังนี้ 

อ่านต่อ:“พ่อกระติก” ติดโควิด19 หลังพาลูกสาวเข้ามอบตัว | daradaily

        “สาคร ศิริชัย”  ทนายความดังเผยว่า สรุปภาพรวมคดีการเสียชีวิต “แตงโม นิดา”  นั้น ซึ่งหนึ่งในผูต้องหาคดีแตงโม นอกจาก “ปอ โรเบิร์ต” ก็มี “แซน วิศาพัช” ร่วมด้วย ในท้ายที่สุดแล้วข้อหาหลัก ๆ ที่จะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ซึ่งบัญญัติว่าผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีและปรับไม่เกิน 200,000 บาทส่วนข้อหาอื่นๆนั้นเป็นข้อหาปลีกย่อยบางข้อหามีโทษน้อยบางข้อหาก็พยานหลักฐานอาจไม่ครบถ้วนสมบูรณ์แต่พนักงานสอบสวน ก็ตั้งข้อหาให้ครบถ้วนเพื่อลดกระแสสังคมซึ่งทำให้เห็นว่าตำรวจทำงานตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด      

        แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าการแจ้งข้อหาต่างๆโดยขาดข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานเช่นพยานบุคคลสนับสนุนอย่างแน่นหนาและปราศจากข้อสงสัยหากไม่รัดกุมแน่นหนาพออาจทำให้ผู้ต้องหาหลุดคดีในชั้นศาลได้เพราะในคดีอาญา มีหลักอยู่ว่าการที่ศาลจะลงโทษจำเลยนั้น พยานหลักฐานต้องปราศจากข้อสงสัยเมื่อมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย                                       
        ในส่วนของข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตที่เป็นข้อหาหลัก ซึ่งมีการแจ้งข้อหาคนที่อยู่บนเรือหลายคนนั้นในฐานะทนายความซึ่งทราบข้อเท็จจริงจากการติดตามข่าวไม่ทราบรายละเอียดสำนวนการสอบสวนเพราะเป็นความลับขอให้ความเห็นว่าในทางคดีอาญาไม่มีคำว่ากระทำประมาทร่วมกัน   มีแต่ต่างคนต่างประมาทหรือ คดีนี้อาจมีคนประมาทเพียงคนเดียวคือคนที่ขับหรือควบคุมเรือขณะที่น้องแตงโมตกเรือเสียชีวิตเท่านั้น  ส่วนคนที่ขับเรือก่อนหน้านั้นไม่ถือว่าบุคคลนั้นกระทำโดยประมาทเพราะยังไม่เกิดเหตุน้องแตงโมตกเรือเสียชีวิต    หากถูกฟ้องข้อหาเดียวกันมีสิทธิรอดคุกสูง                                             

        ในส่วนของคนที่เป็นคนขับหรือควบคุมเรือขณะที่แตงโมตกเรือเสียชีวิตซึ่งมีเพียงหนึ่งคนหากสำนึกผิดให้การรับสารภาพต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามฟ้องจริงและมีการเยียวยาเงินค่าสินไหมทดแทนความเสียหายแก่คุณแม่น้องแตงโมจนเป็นที่พอใจศาลอาจใช้ดุลพินิจลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษจำคุกแต่ใช้วิธีควบคุมความประพฤติแทน ก็อาจมีสิทธิ์รอดคุกซึ่งคดีดังกล่าวนี้ไม่แตกต่างจากคดีขับรถชนคนตายทั่วๆไปแต่คดีนี้ผู้เสียชีวิตเป็นดารา ผู้มีชื่อเสียง และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและจับตามองแต่   ทั้งนี้การจะลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่แล้วแต่ดุลยพินิจศาล