เปิดภาพ “นิต้า มานิตา”นางสาวไทย2565ในมุมครูผู้ช่วยวัดบางไผ่นารถ  

เปิดภาพ “นิต้า มานิตา”นางสาวไทย2565ในมุมครูผู้ช่วยวัดบางไผ่นารถ  
       เรียกว่าเป็นปีแรกก็ว่าได้ที่สาวลูกครึ่งคว้าตำแหน่งนางสาวไทย 2565ไปครอง น่าจะการเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ของเวทีนางสาวไทยที่หลายคนต้องบันทึกเอาไว้ 

อ่านต่อ:จากครูบ้านไร่สู่ชีวิตในกรุง “นิต้า มานิตา” | daradaily

นางสาวไทยจากนี้ไปอาจะไม่เหมือนเดิม 
       สำหรับ “นิต้า มานิตา” “นางสาวไทย2565” เคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอเคยทำอาชีพหลายอย่างแต่ที่รักมากที่สุดคือการทำอาชีพครูผู้ช่วยวัดบางไผ่นารถ บางเลน นครปฐม 
       เธอเล่าว่าเคยช่วยงานสอนช่วยที่น้ำท่วมแถมเจอโควิด19 ด้วย จึงต้องจัดการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์  และเธอยังเคยทำงานอาสาในโรงเรียนหลายอย่างเป็นประสบการณ์ที่เธอจดจำมาก 
       สำหรับ “นิต้า มานิตา” ครูคนสวยจากโรงเรียนวัดบางไผ่นารถ นครปฐม “นางสาวไทย คนที่ 53” ประจำปี 2565 สวยสง่า ทรงพลัง และเฉลียวฉลาด (Sweet Strong Smart) เปิดตำนานหน้าใหม่ของเวทีประกวดฯ ตรงคอนเซปต์ “Revival of the Original” หรือ “กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน” ทุกองศา

       “มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์”  “นางสาวไทย คนที่ 53” ประจำปี 2565  ได้รับช่อดอกไม้ วชิรคฑา พร้อมสวมสายสะพาย และมงกุฎ “อิสตรีวิจิตรา (The Adamas) ที่สุดแห่งความเลอค่าที่ อีกทั้งรางวัลเงินสด 800,000 บาท และรางวัลอันทรงคุณค่าอื่น ๆ อีกมากมาย

        ขณะที่ อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร หมายเลข MT06 คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1  วนิดา ดอกกุหลาบ หมายเลข MT18 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 อธิชา เรนนี่ หมายเลข MT17 คว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 และ ศรณ์ศรฏฐ์ วิทยาเรืองสุข หมายเลข MT01 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 4 โดย “มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์” ได้นั่งเก้าอี้นางสาวไทย พร้อมกับรองทั้ง 4 ท่ามกลางการแสดงความยินดีจากบรรดาเพื่อนนางงามอย่างท้วมท้น
       หลังจากนี้ นางสาวไทย คนที่ 53 ประจำปี 2565 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณะกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริมและยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา และเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอีกด้วย