"เบิร์ด-ธงไชย"แบบอย่างดาราคิดเป็น-ทําเป็น

"เบิร์ด-ธงไชย"แบบอย่างดาราคิดเป็น-ทําเป็น

1

       แต่ตลอดเวลาที่เขายืนอยู่ตรงจุดนี้ สามารถรักษาเนื้อ รักษาตัว จนเป็นแบบอย่างที่ "ดารา" ทุกคนควรยึดเป็นวิถีปฏิบัติ

คนอายุขนาดนี้และอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยสิ่งสวยงาม สิ่ง ล่อใจ แต่ "เบิร์ด-ธงไชย" ก็ไม่เขว เป้าหมายคือทําหน้าที่ "ศิลปิน" เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับประชาชนเต็มที่ ทุกวันนี้ชื่อเสียงของ "เบิร์ด-ธงไชย" ยังแข็งแกร่งเหมือนเดิม แม้ว่าอายุจะมากก็ตาม

"เบิร์ด-ธงไชย" ไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเนรมิตอะไรได้ดั่งใจหวัง แต่ทําไม? เขาถึงฝ่าด่านมะขามเตี้ย รอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาได้ นั่นก็เพราะเขา "คิดเป็น" และ "ทําเป็น" ประชาชนจึงโอบอุ้มเขา ไม่ให้ร่วงหล่นจมปฐพี

สังคมบันเทิง เป็นสังคมอาถรรพ์ สามารถสร้างความ "ดัง" ให้กับคนได้ชั่วข้ามคืน ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างความ "ดับ" ให้ชั่วพริบตาได้เหมือนกัน

"เบิร์ด-ธงไชย" แนวคิดวิถีปฏิบัติ ซึ่งเปรียบเหมือนยาวิเศษที่ทําให้เขาเป็น "ซูเปอร์สตาร์" มาถึงวันนี้ว่า "สิ่งที่พี่เบิร์ดทําคือพี่จะคิดทุกอย่างก่อนทํา คิดก่อนพูด พี่เบิร์ดจะมีการเตรียมทุกอย่างไม่ว่าจะทําอะไรก็ตาม อย่างออกจากบ้านพี่ก็เตรียมที่จะพบทุกคน ถ้าเรามีใจเตรียมที่จะพบเจอจะพูดจะทํา พี่ว่าสิ่งที่พลาดมันก็จะน้อยลง"

ผมคัดเอาเฉพาะประโยคที่เป็นหัวใจสําคัญ เพื่อนํามาบอกเล่าสู่กันฟัง อย่างน้อยๆ ก็พอจะเป็นสติเตือนใจ โดยเฉพาะ "สติ" ไม่ว่าพูด-ทํา ถ้าหาก "ขาดสติ" ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ดาราวัยรุ่นหรือไม่วัยรุ่นก็ตามเถอะ ต้องบอกเลยว่า น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะกรอบของคําว่า "ดารา" มันทําให้ชีวิตไม่เหมือนคนธรรมดา เป็นบุคคลสาธารณะที่เดินในที่สาธารณะลําบาก

เมื่อมีความสวย-ความหล่อกว่าคนธรรมดาทั่วๆ ไป ข้อจํากัดส่วนตัวก็มีมากเป็นเงาตามตัว การมีแฟนสักคนก็เป็นเรื่องจําเป็นที่ต้องมีเมื่อวัยเหมาะสม การเลือกคนมาเป็นแฟนก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก

สังคมบันเทิงคือ "สังคมมายา" ถ้าหากคิดไม่เป็น วางตัวไม่เป็น คิดเพียงว่าร่างกายฉัน จะทําอะไรเป็นสิทธิ์ของฉัน เป็นยังไงล่ะ ตายทั้งเป็น ซึ่งมีบทเรียนให้เห็นมาตลอด แต่ไม่เคยจํา

วัยรุ่นเป็นวัยที่ใครห้ามไม่เชื่อ ถ้าลองว่ารักคนนี้ ใครจะบอกว่าผู้ชายเลวแค่ไหนก็ไม่เชื่อ ถ้าจะคบก็ต้องคบ เป็นวัยที่อยากเอาชนะ เป็นวัยที่ไม่เคยหวงพรหมจรรย์ตัวเอง ถ้าโอเคก็พร้อมพลีกายให้ ไม่หวังและไม่คิดด้วยว่าจะอยู่กันยืดหรือเปล่า

ดารา (บางคน) มีความสวยระดับนางเอก อยากสบายเลือกคบคนรวย คิดว่าเขารักจริง สุดท้ายเป็นได้แค่ "นางกลางห้อง" คือวันๆ อยู่แค่ในห้องสี่เหลี่ยม กิจวัตรมีแค่ขึ้นเตียง ลุกจากเตียง

ดาราจึงถือเป็นคนอาภัพ เป็นคนที่ยืนอยู่บนรอยต่อแห่งความสงสัยของผู้คน คําถามในใจของผู้ชายนอกวงการที่มีแฟนเป็นดาราคือ "ผ่านมากี่คนแล้ว" ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกคน หลายคนก็ยอมแต่งกับดารา แต่ไม่นานก็เลิกกัน หอบลูกติดกลับมาวงการอีกก็มี

"วางตัวเป็น" ไม่ใช่เป็นคนหยิ่งทะนง ใช่ว่าวัยรุ่นแล้วคิดไม่เป็น วัยรุ่นที่คิดเป็น วางตัวดี มีมากมาย ทุ่มเททํางาน เคารพอาชีพตัวเอง อย่าเพิ่งคิดเรื่องความรัก ใครจะวี้ดว้าย ควงคนนั้น จู๋จี๋คนนี้ ก็ปล่อยเขาไปเถอะ เพราะผู้หญิงแต่ละคน ตีความหมายของ "พรหมจรรย์" ต่างกัน เพียงแต่ใครจะให้ความสําคัญมากน้อยแค่ไหน อย่างไร เท่านั้นเอง

เพราะเห็น และห่วงใย จึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดมาเล่า ไม่ใช่การห้าม แต่เป็นการบอกกเล่าให้ได้คิด อยากให้มองถึงอนาคตข้างหน้า มากกว่าจะไปหลงระเริงกับความรักจอมปลอม และละเมอไปเองว่านั่นคือ "รักแท้" อย่างแบบนี้จะไปชี้หน้าโทษฝ่ายชายว่า มึงผิด กูถูก คงไม่ได้ แต่ต้องโทษตัวเองด้วยที่ "ใจง่าย" จนมองไม่เห็นค่าของ"พรหมจรรย์"

คนเราถ้าทําตัวอย่างมี "คุณค่า" คนก็ย่อม "เห็นค่า" อะไรก็ตามถ้าได้มาง่ายๆ คุณค่าก็ลดน้อยถอยลง อะไรที่ได้มายากเย็น สิ่งนั้นก็จะมีค่ามาก

"คุณค่าของผู้หญิง" ไม่มีใครไปกําหนดได้ ว่าต้องเป็นยังงั้น เป็นยังงี้ ต้องตัวเธอเป็นคนกําหนด และทําให้เป็น ไม่ใช่พลาดไปแล้วออกมาฟูมฟาย เรียกหา "ความรับผิดชอบ" ซึ่งไม่รู้จริง-เท็จเป็นอย่างไร?

ที่สําคัญเท่ากับทําลายศักดิ์ศรีของดารา เพราะสังคมภาย นอกมองว่า "ดารามั่ว" ทั้งๆ ที่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป และไม่เกิดกับดาราส่วนใหญ่ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น "เป็น"

ตอนต้นเรื่องผมเขียนถึง "เบิร์ด-ธงไชย" ไล่เรียงมาถึงกระแสที่กําลังฮอตฮิต อย่าหาว่าพาผู้อ่านเข้ารกเข้าพงเลย เป็นเจตนาที่ต้องการเปรียบเทียบให้เห็น แนวคิด 2 ขั้ว นั่นคือ "ดี" และ "เลว"

ซึ่งแล้วแต่ว่า ใครจะเลือกลงนรก หรือขึ้นสวรรค์!!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments