"แตงโม-อั้ม"บนความต่างของคําว่า"ดารา-นักข่าว"

"แตงโม-อั้ม"บนความต่างของคําว่า"ดารา-นักข่าว"

1

       เหมือนข่าวการเมือง เศรษฐกิจ แต่วงการบันเทิงคือวงการที่คนให้ความสนใจมากกว่าวงการอื่น เพราะมีแต่สิ่งสวยงาม มีอะไรให้น่าติดตามแยะ

แต่บันเทิงก็มีสังคม มีการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น "ดารา" ที่ตกเป็นข่าว และ "ผู้สื่อข่าว" ผู้ที่เหมือนบุรุษไปรษณีย์ ที่นําข่าวสารนั้นๆ สู่ผู้บริโภคข่าว

ข่าวดี-ไม่ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องธรรมดา ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นวงการไหนๆ ไม่ต่างจากเหรียญย่อมมี 2 ด้าน หัว-ก้อย

ทุกคนเกิดมาไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ที่สําคัญ ธรรมชาติของมนุษย์คือสัตว์สังคม ไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ โดยไม่ "ยึดโยง"กับคนอื่น สังคมอื่น

"ข่าวไม่ดี" หรือคําถามที่แทงใจดํา มักจะสร้างความไม่สบายใจให้กับคนตกเป็นข่าวเสมอ ผมเคยเป็นนักข่าวสายการเมืองมาก่อน วิ่งรอกระหว่างทําเนียบรัฐบาล และรัฐสภา เวลานักการเมืองมีข่าวที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์ด้านภาพลักษณ์ ก็จะออกมาด่าประจานกันหน้าดําหน้าแดง คนที่ถูกโทษก็คือ "สื่อ" นั่นเอง

นักข่าวการเมือง จึงมักจะถูกนักการเมืองต่อว่าตลอด แต่เป็นการ "ต่อว่า" บนพื้นฐานของคนที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน เพราะยังไงก็ไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้

ไม่ต่างจาก "นักข่าวบันเทิง" ก็มักถูก "ดารา" ตําหนิบ่อยๆ ในเรื่องข่าวสัมภาษณ์อีกอย่างเอาไปลง  อีกอย่าง หรือพยายามโยงคําถามเข้าไปหาเรื่องที่ตัวเองจะเขียน ทําให้ประเด็นเขวไปอีกทาง



"คนเขียนข่าว" กับ "คนตกเป็นข่าว" ยังไงๆ ก็ต้อง มีข้อพิพาทแน่ๆ ยังไงก็ต้องมีประเด็นที่ไม่ลงรอยกันแน่ๆ

ทั้งนักข่าวการเมือง หรือนักข่าวบันเทิง คนตกเป็นข่าวทุกคนอยากมีข่าวในทาง "บวก" ของตัวเองตลอดเวลา ในขณะที่ "มุมลบ" ของตัวเอง ที่ทําแล้วแต่ไม่อยากให้ประชาชนรู้ ก็ต้องหันมาโทษ "สื่อ"

หลายครั้งที่นักการเมืองทุจริต คอรัปชั่น นักข่าวจับประเด็นได้ นําเรื่องมานําเสนอ ก็หาว่านักข่าวป้ายสี มีอคติ เพราะยังไม่จนด้วยหลักฐาน พอหลักฐานกระจ่างก็หน้าจ๋อย

อย่างล่าสุดกรณีของนางเอกสาว "แตงโม-ภัทรธิดา" ที่เคยต่อว่า "นักข่าวบันเทิง" หน้าไม่อาย ที่ถามคําถามแทงใจดําเธอ ไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เขียนข้อความลงในเฟซบุ๊คของ "พลอย-เฌอมาลย์"

เพื่อความต่อเนื่อง ผมขอยกข้อความที่ "พลอย-เฌอมาลย์" ในฐานะเจ้าของเฟซบุ๊ค จั่วหัวเอาไว้ด้านบนดังนี้...

"ทําไมนักแสดงอย่างเราจะมีความรู้สึกบ้างไม่ได้ เมื่อเราถูกกลั่นแกล้ง?? บ้างก๊อหาว่าเลวเหมือนในละครที่เล่น ขี้วีน ขาเหวี่ยง ถ้าเราเป็นอย่างที่เค้าว่าจิงจิง เราจะอยู่ในวงการมาได้ 16 ปีเหรอค๊ะ?? เราเองก็ไม่ได้เป็นคนดี 100 หรอก แต่พอมีสํานึกพอที่จะไม่ทําให้ใครเดือดร้อน"

ถัดมาด้านล่าง จะเป็นข้อความของ "แตงโม-ภัทรธิดา" ซึ่งเธอบอกว่า..

"ยิ่งตอกย้ำให้ได้รู้ว่า "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า" เป็นแค่คําทวง บุญคุณของพี่ๆ บางท่านเท่านั้น  ในเมื่อไม่เคารพกติกา ไม่ให้เกียรตินักแสดง ได้ผลประโยชน์จากเราแบบไร้มนุษยธรรม เพียง 40% เท่านั้นที่ "ข่าว" สร้างชื่อเสียงให้นักแสดง อีก 60% มาจากความสามารถและความเป็นตัวเราล้วนๆ แต่ในทางกลับกัน เกือบ 100% ของเงินเดือนที่หลายๆ ท่านมาจากเราทั้งหมด สิ่งสําคัญที่สุดคือ เราสร้างงานให้คุณเสมอ แต่คุณสร้าง "ความเดือดร้อน" ให้เราเป็นประจํา นี่คือเหตุผลของ "ปาก" กับ "ปากกา" มันเสียเปรียบอย่างไม่มี ใครเข้าใจเสมอ โดยเฉพาะประชาชนคนอ่าน ถ้าทบทวนดูดีๆ แล้ว ถึงความได้เปรียบ เสียเปรียบ ใครกันแน่ที่ต้องเอ่ยคําว่า ขอโทษและขอบคุณ"

ไม่ใช่เรื่องผิดที่ "แตงโม-ภัทรธิดา" จะระบายอารมณ์ไม่พอใจนักข่าวบันเทิง เหมือนที่ผมเขียนเอาไว้ในตอนต้น นักข่าวบันเทิง-ดารา ยังไงเสียก็ต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง

แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ "ดารา" ออกมาทวงบุญคุณ ที่มีอยู่ มีกิน 100% ของเงินเดือนนักข่าวบันเทิงมาจาก "ดารา" ทั้งสิ้น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับนักข่าวสายอื่น



ผมเป็นนักข่าวการเมือง และนักข่าวเศรษฐกิจมาก่อน จะพอใจ-ไม่พอใจ ก็แค่ออกมาตําหนิพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ไม่เคยมีผู้ตกเป็นข่าวคนไหนจะออกมาลําเลิกบุญคุณขนาดนี้

"ดารา" ที่ตกอยู่ในกระแสข่าวมากที่สุด ต้องยกให้ "อั้ม-พัชราภา" ไม่ว่าจะมองซ้ายมองขวา ตกเป็นข่าวทั้งสิ้น ซึ่งมีทั้งดี-เลว แต่ "อั้ม-พัชราภา" มองนักข่าวบันเทิง-ดารา คือคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน

เจอหน้านักข่าวยิ้มเข้าหา อะไรที่พอพูดได้ก็ให้สัมภาษณ์ไป อะไรที่พูดไม่ได้ก็บอกปัด ไม่เคยวีน ไม่เคยใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล นี่คือต้นแบบของดาราที่ "วางตัวเป็น"

ผมเชื่อว่า นักข่าวทุกคน โดยเฉพาะนักข่าวสายบันเทิงที่เข้ามาสู่เส้นทางนี้ ไม่ต้องการคําสรรเสริญเยินยอจาก "ผู้ตกเป็นข่าว" หรือ ผู้บริโภคข่าว

เพียงแค่ได้ความเข้าใจ และแยกแยะออกว่า "หน้าที่" คือสิ่งที่บุคคลใดๆ ก็ตามต้องให้เกียรติ!!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments