เปิดใจที่แรก! “อาสากู้ภัย” ปล่อยแมว “น้องเจ้าสัว” เครียดหนัก! โดนฟ้องร้องคดี

เปิดใจที่แรก! “อาสากู้ภัย” ปล่อยแมว “น้องเจ้าสัว” เครียดหนัก! โดนฟ้องร้องคดี

2.5

เปิดใจที่แรก! “อาสากู้ภัย” ปล่อยแมว “น้องเจ้าสัว” เครียดหนัก! โดนฟ้องร้องคดี

       จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Suphaksana Vavichanee ได้ประกาศตามหาแมว ชื่อ เจ้าสัว อายุ 2 ปี เพศผู้สายพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 พ.ย. หลังหลุดออกจากบ้านใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนมาทราบว่าเพื่อนบ้านได้แจ้งมูลนิธิแห่งหนึ่งให้ไปช่วยจับ เนื่องจากกลัวว่าแมวจะไปกัดลูกหลาน และบอกว่าให้นำไปปล่อย ทางเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิจึงจับแมวใส่กระสอบและนำไปปล่อยในป่า จนในเวลาต่อมาพบแมวเสียชีวิต จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตและเป็นคดีความ

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงการทาสแมวอย่างมากมาย แต่ที่ดูจะหนักหนาคือหลายคนก็ลากทั้งเพื่อนและครอบครัวของทางกู้ภัยมาวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก วันนี้เราต่อสายตรงถึง “กู้ภัย” เพื่อให้เจ้าตัวอธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       การทำงานที่กู้ภัยตอนนี้ก็ประมาณ 15 ปี เบื้องต้นเราได้รับแจ้งมาว่าจากทางศูนย์ว่ามีบ้านหลังหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับแมวตัวนี้แล้วก็ขอความช่วยเหลือ ทางเราก็เลยสอบถามว่าเป็นแมวใครซึ่งไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของก็เลย อีกอย่างทางผู้เสียหายก็ได้โพสต์ลงในกลุ่มหมู่บ้านแล้วว่าเป็นแมวใครให้มารับตัวหน่อยเนื่องจากออกจากบ้านไม่ได้ เพราะเปิดประตูก็ถูกขู่จะทำร้าย วันที่รับแจ้งแมวก็ไม่มีการใส่ปลอกคอที่ชัดเจนตอนที่เราไปเจอมีลักษณะมอมแมมเหมือนเป็นโรคที่เราไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เราก็เลยตีไปว่าเป็นแมวจรจัดไปก่อน

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       ส่วนตัวผมเองปกติไม่ค่อยได้จับสัตว์ที่ผลัดหลงแบบนี้ส่วนมากจะจับสัตว์ที่มีเจ้าของหรือเป็นสัตว์เลื้อยคลานมีพิษมากกว่า ส่วนแมวเจ้าสัวก็มีน้องเข้ามาช่วยเพราะไม่สามารถจับคนเดียวได้เนื่องจากแมวมีอาการดุร้าย ซึ่งจะไม่ปลอดภัยจากตัวเราเอง ก็เลยให้น้องช่วยหลังจากนั้นก็นำใส่ถุงและปรึกษากับเจ้าของบ้านว่าจะไปปล่อยที่ไหนดี ซึ่งได้คำตอบว่าปล่อยที่ไหนก็ได้ที่มันไม่อันตรายต่อทุกคนในละแวกแถวๆ นี้เพราะมีเด็กลูกหลานเยอะกลัวโดนกัด เราก็เลยตัดสินใจเอาไปปล่อยให้ห่างจากชุมชนเพื่อไม่ให้มากัดคนในชุมชน ซึ่งจุดประสงค์ของเรามีแค่นั้นเลย เอาไปปล่อยจุดๆ นั้นห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 70 เมตร ซึ่งไม่ได้เป็นป่าอย่างที่เป็นข่าว พื้นที่ข้างในมันโล่งเพียงแค่ทางเข้ามันรกนิดนึงแค่นั้นเอง

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       ผมได้รับแจ้งตอน 14.01 น. ไปปล่อยไม่เกินบ่ายสองครึ่งหลังจากที่ปล่อยไปทางเจ้าของแมวก็ติดต่อมาว่าเป็นเจ้าของแมวบอกว่าแมวหาย เรื่องราวเกิดขึ้นมาทราบว่าแมวเสียชีวิตจริงๆ ปล่อยแมวตั้งแต่วันที่ 8 ตอน 14.30 น. แล้วทางเจ้าของแมวไปเจอวันที่ 9 ช่วง 6 โมงเย็น ก็ขอแสดงความเสียใจกับเจ้าของแมวจริงๆ ผมไม่มีเจตนาที่จะทำให้แมวเสียชีวิต ทางเจ้าของแมวก็โทรมาหาตั้งแต่เริ่มต้นแต่ไม่ทราบว่าเจ้าของได้เบอร์โทรมาจากไหน แต่ก็ให้ความร่วมมือตั้งแต่ต้นจนจบ มาช่วยหา ผมก็บอกว่าปล่อยตรงนี้ๆ เช็คอินให้ดู

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       แต่ผมติดงานอยู่ไม่สามารถมาช่วยดูได้จนถึงเวลา 3 ทุ่มเลิกงานก็มาช่วยหาพาทีมมาช่วยหา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ วันที่เจอกับเจ้าของแมวเบื้องต้นวันที่ 8 ก็คุยกันว่าจะไปช่วยกันหากลางดึกของวันที่ 8 ประมาณตี 2 ก็มาเดินหากันต่อ วันที่ตกลงกันที่โรงพักก็ยังตกลงกันไม่ได้ เลยถูกแจ้งความเบื้องต้นไว้ก่อน ก็ยอมรับว่ากำลังถูกดำเนินคดีอยู่ตอนนี้

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       เรื่องราวของการถูกพักงานคือตอนนี้มันเป็นกฎของทางมูลนิธิอยู่แล้วว่าถ้าหากท่านใดท่านหนึ่งที่ต้องคดีอยู่ ก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ครับ ซึ่งตอนนี้ก็ถูกพักอยู่ ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าเข้าไปหาทางเจ้าของแมวเพราะเห็นว่ากำลังเสียใจอยู่ ก็รอทางเจ้าของคดีนัดคุยอยู่ค่อยคุยทีเดียว ส่วนการโพสต์ในเพจมูลนิธิเป็นแอดมินทางเพจโพสต์ซึ่งจุดประสงค์หลักคือตั้งใจจะอธิบายเกี่ยวกับเคสนี้ครับ แต่ก็กลายเป็นกระแสดราม่าขึ้นมากลับถูกโจมตีมาอีก ก็อยากจะชี้เแจ้งเรื่องการทำงานก็ขอยอมรับผิดในจุดนี้

อาสากู้ภัยปล่อยแมว น้องเจ้าสัว

       สำหรับเจ้าของแมวถ้าฟังอยู่ก็อยากจะขอโทษผ่านสื่อก่อนว่าไม่มีเจตนาที่จะอยากให้แมวเสียชีวิต ส่วนตัวก็ท้อมากๆ คิดมาก บางทีก็นอนไม่หลับคิดตลอดว่าเราจะทำยังไง จะโดนอะไรบ้าง มีความเครียด อีกอย่างก็ลุกลามไปถึงครอบครัวด้วย ซึ่งทางครอบครัวของผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร พอครอบครัวทราบข่าวก็เครียดมากๆ ตอนนี้ทางครอบครัวก็ได้แต่ให้สู้ๆ ยิ้มสู้เข้าไว้ ยังไงเราก็ทำดีมาตลอดทุกคนเห็น ก็ได้กำลังจากครอบครัวและเพื่อนๆ ตอนนี้ก็รู้สึกโอเคขึ้นเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็ขอฝากถึงคนที่รักสัตว์เลี้ยงถ้ารักจริงก็ต้องดูแลให้ดีกว่านี้และขอให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่าง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments