TPLAS ประกาศครึ่งปีแรกกำไรแตะ 15.57 ลบ.

TPLAS ประกาศครึ่งปีแรกกำไรแตะ 15.57 ลบ.

0

TPLAS ประกาศครึ่งปีแรกกำไรแตะ 15.57 ลบ.
        บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS ระบุผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 มีกำไรสุทธิ 15.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารที่ยังมีต่อเนื่อง ด้าน คุณธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังธุรกิจฟื้นหลังปลดล็อกดาวน์ และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมสั่งเครื่องจักรใหม่เพิ่มไลน์ผลิตสินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์กระดาษมั่นใจทั้งปีทำได้ตามเป้า

TPLAS กำไร

        คุณธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 225.42 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 15.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 15.22 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้จากช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีปริมาณยอดขายทำ New High ตั้งแต่เปิดบริษัทมา สูงถึง 830 ตัน

TPLAS กำไร

        ส่วนผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 115.10 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 9.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 4.64 ล้านบาท แม้ว่าการแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างสูงเมือเทียบกับปีก่อนส่งผลให้ราคาสินค้าเฉลี่ยปรับตัวลดลง

TPLAS กำไร

        โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมายังคงรักษาระดับการเติบโตไว้ได้อย่างน่าพอใจ หลังจากที่ภาครัฐได้ประกาศคลายล็อกดาวน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กลุ่มผู้บริโภคกลับมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น แต่หากพิจารณาด้านมาร์จิ้นของบริษัทฯ สามารถรักษาระดับ Gross Margin ได้ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

TPLAS กำไร

        กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) (TPLAS) กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2563 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมุ่งศึกษาด้านการผลิตในกลุ่มบรรจุภัณฑ์กระดาษ ซึ่งคาดว่าจะมีการเพิ่มไลน์การผลิตให้หลากหลายมากขึ้น แม้แต่กล่องบรรจุอาหารที่มีขนาดที่แตกต่างออกไปมากขึ้น

        อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารยังมีความต้องการใช้อยู่ โดยเฉพาะกลุ่มฐานลูกค้าเดิม เพราะเป็นกลุ่มที่มีฐานตลาดกว้างและกระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเพิ่มขึ้น จะส่งผลเชิงบวกต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคมากขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments