"พลอย เฌอมาลย์" แฮปปี้ มีแฟนเด็ก ตอบปมโพสต์ดราม่าแต่โดนด่า
คนกำลังอินเลิฟทำอะไรก็มีความสุขไปหมดอย่างสาวสุดแซ่บ "พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์" ที่ความรักกำลังจุกอกกับหนุ่มรุ่นน้อง "อเล็กซ์" พร้อมกันนี้กลับมารับละครสุดแซ่บอย่าง "เพลิงนาง" และก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้โพสต์เรื่องหนึ่งถึงขั้นดราม่าหนักเข้าไปอีก ไปฟังสาว "พลอย" ชี้แจงในทุกประเด็นเลย
อ่านข่าวต่อ: ว้าวมากแม่! ภาพโปสเตอร์ “เพลิงนาง" ละครไฟลุกท่วมจอของ “พลอย เฌอมาลย์”
ช่วงนี้ละครที่เราเล่นเป็นแนวดราม่า 2 เรื่องที่รับปีนี้ก็จะเป็นเรื่องที่แรงมากแรงจริงๆ เราก็ขอให้เป็นเรื่องท้ายๆ แล้ว จาก 2 เรื่องนี้แล้วเราก็คงอยากจะพักสักพัก ขอเป็นแนวคอมเมดี้บ้าง แต่ก่อนหน้านี้ก็มีติดต่อละครแนวนี้มาแต่จังหวะและโอกาสมันไม่ได้ เพราะเรายังถ่ายทำละครอีกเรื่องยังไม่เสร็จ แต่ว่าถ้ามีมาอีกเราก็อยากเล่นคอมิดี้มากเพราะส่วนมากจะเป็นดราม่าหนักๆ เราว่าสุดๆ แล้วแหละที่เราจะเล่นแรงได้ ที่เราตัดสินใจรับเรื่องหนัก 2 เรื่องนี้เราคิดว่ามันเป็นโอกาสและจังหวะที่เข้ามาแล้ว เราไม่อยากปล่อยให้มันข้ามไป อย่างเรื่องเพลิงนางเราก็ต้องขอบคุณพี่ฉอดที่เขาให้โอกาสเรา เขาให้บทดีๆ เรามาตลอดมันก็แน่นอนเราไม่ต้องคิดเยอะเราก็เลยเล่น อีกเรื่องมันเป็นเรื่องที่เราคุยกันมานานมากแล้วประมาณ 2 ปีที่แล้ว แต่เราก็ต้องถ่ายละครแบ่งคิวกันไป
ที่บอกว่าจะพักเราก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะพักเป็นปีไปเลย ถ้าก็คงจะเป็น 5-6 เดือน เราไม่ได้หยุดพักนานแล้วส่วนมากเวลาจะพักเราก็จะขโมยพัก คือการถ่ายละครเราว่ามันหนักจริงๆขอหยุดพักบ้าง แล้วค่อยมาเริ่มกันใหม่ว่ากันอีกที ถ้ากลับมาถ้าใครให้เราเล่นคอมิดี้เราก็พร้อมมากเราอยากเล่นมากอยากเล่นตลกเราเป็นคนตลก
เล่นละครดราม่าเราก็เครียดเรากลัวจะบทไม่ได้ แบบวันหนึ่งเราถ่าย 20-30 ซีนบทมันยาวเราก็มีความเครียดว่ากลัวจะทำไม่ได้กลัวจะทำให้คนอื่นเสียเวลา อ่านบทบางทีก็ถึงตี 4 ตี 5 มีบ้างที่นอนไม่หลับแต่เราก็กินได้เป็นปกติ แต่เราก็พยายามตั้งใจมากจนมันกดดันตัวเองผิดแค่คำเดียวก็ไม่ได้ เรื่องบทบาทจริงๆ แล้วเราแทบไม่ต้องดีไซน์อะไรเยอะเลย เพราะบท 2 เรื่องนี้มันมาแตกต่างกันมากอยู่แล้ว เรื่องเพลิงนางเราก็เล่นเป็นผู้หญิงที่จบจากนอก เขาก็จะมีวิธีการใช้ชีวิตแบบเด็กนอก แล้วก็มีความคิดที่ไม่ค่อยเป็นกุลสตรีสักเท่าไหร่ เขาเป็นผู้หญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ
4 ปีแล้วที่เราโสดตอนนี้ก็มีแล้วสักทีนึง ขอเล่าว่าตอนที่เราเป็นเด็กเรามีความรักเราตัดสินใจเร็วเกินไป แต่ถ้าเราไม่ต้องการมันก็กลายเป็นว่าทำให้เราไม่พร้อมเราก็ต้องจากกันไป เราเลยคิดว่าพอโตมาเราจะใช้วิธีที่ระมัดระวังตัวมากขึ้น เราไม่ได้ห่วงตัวแต่เราไม่อยากเสียใจ เราก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราชอบเขาจริงๆ ถูกใจเขาจริงๆ เราก็รอมานานจนถึง 4 ปีเลย ตั้งแต่เจอกันเราก็ศึกษากันมาแค่เดือนกว่าๆ เหมือนว่าเราเจอแล้วเราถูกใจ แต่ถ้าถามว่ามีความลังเลไหมเราก็ลังเลใจอยู่ว่าเขาจะดีจริงหรือเปล่าหรือเราจะดีพอสำหรับเขาไหม เราก็มีการลองเดทกันก่อนไปทำความรู้จักไปคุยกัน มาปรับทัศนคติกันว่ามันได้หรือไม่ได้ บังเอิญว่ามันได้ก็เลยได้มาเป็นแฟนกัน อย่างเรื่องของอายุบางคนก็บอกว่าเราค่อนข้างโตมากแต่เขาเป็นเด็กกว่าเราแล้วเขาจะโตตามเราไหม จริงๆแล้วอันนี้เราบอกแล้วว่าเราอยู่เฉยๆ เขาเข้ามาหาเราเอง แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าเราอายุเท่าไหร่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นนักแสดง เขาคงเห็นความตลกของเราเลยเข้ามาคุยด้วย เขาก็บอกว่าเขาไม่สนใจเรื่องอายุ
นอกจากความเด็กแล้วความหล่อคนก็พูดถึง คนถามกันเยอะมากว่าเราไปหามาจากแถวไหนก็บอกแล้วว่าน้องหาให้เป็นลิเดียกับดักกี้เราสนิทกันมานานตั้งแต่แสดงเรื่องระบำดวงดาว น้องเขาก็จะหวงเขาก็จะรู้ว่าชีวิตรักของเรามันขลุกขลิกแบบนี้มานาน เขาก็อยากให้เรามีความสุขเขาค่อนข้างจะคัดกรองคนที่เข้ามาหาเรา พอเจอคนนี้น้องเขาก็เชียร์เรา เหมือนตอนหลังๆเขาก็พยา ยามเข้ามาทำความรู้จักกับเรามากขึ้นเรื่อยๆ เรารู้สึกว่ามันน่าประทับใจเพราะว่าปกติผู้ชายเข้าหาเราจะมีแต่ว่าเข้ามาดูถูกเราก่อน ว่าเราดีเกินไปว่าเราเก่งเกินไป เราก็คิดว่าเราผิดหรอผิดที่เราหาเงินเก่งหรอ ทุกคนที่เข้ามาเขาก็จะเข้ามาตัดสินเราในขณะที่ยังไม่รู้จักเราดี แต่คนนี้เขาแบบว่าเข้ามาแบบสบายๆ เขาไม่เคยเจอเราและเขาไม่รู้จักเราว่าเราเป็นใคร เขาบอกว่าเขาเห็นเราเต้นเพลงผ้าเช็ดหน้ากับแก๊งแดนเซอร์แล้วเขารู้สึกว่ามันตลกดี เราก็มองเขาไว้ตั้งแต่แรกเพราะเห็นแล้วรู้สึกว่ามันแว๊บเข้ามาในตา แต่เราก็ยังไม่ได้โฟกัสเพราะว่าเราทำงานอยู่
คาดหวังกับความรักครั้งนี้แค่ไหน เราก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะสักที มันก็ตอบไม่ได้จริงๆเพราะว่าเราก็เพิ่งมีเพิ่งเริ่มต้นก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีแล้ว ส่วนอนาคตเราจะโชคดีวันนี้ไหมเราก็ค่อยไปไหว้พระขอพรสาธุ
เรื่องคอมเมนต์มันเป็นความผิดพลาดของเราเอง เพราะว่าเราเองได้รับรูปมาก็เป็นแคปชั่นของเรื่องไวรัส ตอนนั้นไวรัสกำลังระบาดใหม่ๆ เรารู้สึกว่าคนไทยเริ่มเครียดเหมือนเริ่มปฏิบัติการล่าแม่มดว่าใครถูกใครผิด เรารู้สึกว่ามันดูเครียดเกินไปแคปชั่นนั้นเราก็ได้รับการ Forward มาจากทางไลน์ แล้วก็คิดว่ามันก็จริงของเขามันทำให้คนเกลียดกันเอง เราก็เลยโพสต์แล้วเราก็ไม่ทราบว่าเขามีประเด็นเรื่องอื่นอยู่ด้วยเราก็เริ่มรู้สึกเสียใจ คำพูดมันรุนแรงมากใช้คำหยาบมากรู้สึกว่าทำไมจิตใจคนเรามันรุนแรงขนาดนี้แต่มันก็ผ่านมาแล้วก็ไม่เป็นไร คราวหลังเราจะเช็คให้ดีกว่านี้ ถามว่าเครียดไหมแล้วก็เครียดอยู่ประมาณ 3-4 วัน มันก็ค่อนข้างเรื่องใหญ่เราควรจะเข้าใจผิด เราพูดตรงๆ เลยว่าเราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับใคร