“มะตูม” เครียดสุดในชีวิต เจอคนด่าเพราะเนื้องานไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
เกิดกระแสดราม่าอย่างหนักสำหรับ “ดีเจมะตูม เตชินท์” หลังโดนชาวเน็ตจวกใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับหญิงสาวที่มาร่วมในรายการ I CAN SEE YOUR VOICE จนเกิดเป็น #ตูมสนิท งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอตัวดีเจมะตูมเจ้าตัวก็เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
อ่านข่าวต่อ : #ตูมสนิท ทำโซเชียลเดือด ติง "ดีเจมะตูม" เหยียดผู้เข้าร่วมรายการ “เป็นได้แค่พริตตี้”
จริงๆ แล้วแฮชเท็กนี้มันมีมานานแล้ว เพราะด้วยคาแรคเตอร์ของเราที่เป็นเจ้าหญิงแห่งวงการตีสนิมกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งอันนั้นเราได้ยินมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พอปีนี้ที่มันขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่ง เพราะมาจากรายการหนึ่ง เรื่องของการบลูลี่ อย่างที่ตูมได้ชี้เเจงในไอจีเลย ว่าตูมเองก็รู้สึกผิดแล้วก็พลาดมาก ที่เราใช้คำพูดจากความคึกคะนองของเรา เราอาจจะไม่ได้คิดถึงคนฟังหรือคนที่อยู่หน้างานตอนนั้น จริงการถ่ายทำวันนั้นคือเทปหนึ่งใช้เวลา 5 ชั่วโมง มันยาวมาก เล่นกันสดไม่มีสคริป ทั้งนี้ตูนเองก็ไม่ได้โทษรายการว่าทำไมตัดออกมาตอนนั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเราจะไปโทษปีชง หรือโทษโน้น โทษนี้ เราต้องโทษตัวเองก่อน เพราะว่ามันหลุดออกมาจากปากของเรา เลยตามที่ชี้แจงในไอจีว่า อยากจะขอโทษ ไม่น่าใช้คำพูดนี้ออกมา จะระวังให้มาขึ้น
และคือถ้าใครที่ติดตามรายการจริงๆ จะทราบว่าตูมเป็นคนชอบแซวชอบกัดผู้หญิงที่สวยเพราะจะได้มาตลกกัดตัวเองตอนจบ อะไรประมาณนี้ อีกทั้งคอนเทนท์ของรายการเองก็เป็นอะไรที่ตามหานักร้องเสียงเพราะกับเสียงเพี้ยน แต่ก็มีการเเซวคนหล่อคนสวย คือทุกคนจะมีมุข มีทางของตัวเอง แต่มะตูมไม่ได้ระวังตรงนี้ ก็เลยตามนั้น
หลังจากมีดราม่าตูมเข้าไปอ่านในเฟซบุ๊กน้อง เพราะเราก็กังวลอยากจะคุยกับน้องเป็นการส่วนตัว เรามีความรู้สึกกับน้องวันนั้นแบบเดินเข้าไปชมน้องว่าสวยจังเลย ตอนที่กล้องไม่ได้จับ น้องก็ยังเม้นต์อยู่เลยว่าจริงๆน้องไม่ได้เป็นอะไรเลย แบบยังปกติกับพี่มะตูมทุกอย่าง แต่ตอนนั้นหนาวเพราะแอร์มันเย็น กับดีเจแมนเราก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เพราะตูมไม่ได้คุยกับพี่แมนเลย รายการเป็นรายการสด ทุกคนไม่มีสคริป เพราะรายการที่รู้แค่ว่าใครจะพูดตอนไหน แต่การคิดมุขก็พูดกันสดๆ ไใ่มีอะไรเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นตูนไม่โทษใครเลย เพราะเป็นความผิดของตูมคนเดียว ตูมน้อมรับผิดไว้คนเดียว แล้วจะพยายามไม่ให้เกิดอะไรแบบนี้บ่อยๆ
ซึ่งหลังจากนี้มันต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่ส่วนตัวแล้วถามว่าเปลี่ยนสไตล์ตัวเองเลยไหม คือตัวเราเองเข้าใจคำว่าบลูลี่ คำว่าบลูลี่คือการกดคนอื่นโดยที่เอาปมด้วยเขามา สำหรับตูมนั้น เวลาเล่นกัลเพื่อนสนิทก็จะด่าแบบดีออก หากคนหังข้างนอกไม่รู้ว่าเราสนิทกัน เขาก็จะมองว่านี้คือการบลูลี่เหมือนกัน มันก็เลยต้องดูว่าเวลาตรงนั้น กาลเทศะตรงนั้นเหมาะสมไหม ที่จะใช้คำพูดคำจาที่เป็นกันเองกับคนรู้จัก
ตูมคิดว่าให้มองเรื่องของเจตนา ไม่ได้อยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อขอโอกาส เพราะจริงๆ แล้วตูมมองว่าทุกคนมันมีพลาดกันได้ กับเรื่องของการใช้คำพูด ซึ่งเราเองก็ทำงานทุกวัน ดังนั้นเจตนาของตูมจริงๆ เลย คือเราเป็นคนตลกและสนุกจริงๆ นะ การที่เราพูดเล่นหรือพูดเเซว เราอยากให้คนที่อยู่รอบๆ ตัวเราหัวเราะ เท่านั้นเอง เพราะเราก็ยังด่าตัวเองเลย ตลก เราไม่ได้คิดว่าบลูลี่ตัวเองเลย คือเจตนาของเราคือเรารับเงินจากรายงานมาแล้ว แล้วเราจะมานั่งอยู่เฉยๆ เราอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดกับทุกๆ งาน แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะมองว่าสิ่งที่ตูมทำทุกอย่างคือการบลูลี่ เหมือนตอนนี้เดี๋ยวหาว่าตูมบลูลี่คนผมยาวเพราะไปโตผมมา อะไรยังงี้ เพราะคนมันมองไปได้อีกประเด็นหมดเลย ทั้งนี้ในอนาคตเราต้องวางตัว คำพูดให้มันเหมาะสม และระมัดระวังมากขึ้น
ยอมรับดราม่าครั้งนี้คือซีเรียสมากตั้งแต่มีข่าวในวงการมาเลยเพราะอันนี้มันเกิดขึ้นในส่วนของเนื้องานของตูม ไม่ได้เกิดขึ้นจากชีวิตส่วนตัว เครียดนะ ซึ่งทางเราเองก็ได้เข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่ว่าขอโทษที่ทำให้เกิดกระเเสลบแบบนี้ ทางผู้ใหญ่เองก็ให้ตูมตัดสินใจ ตูมก็เลยเลือกพักงาน จริงๆ ประมาน 2-3 เดือน เพราะรายการนี้เป็นอีกรายการที่ตูมรักมาก วันที่ตูมไปทำวันแรกตูมก็โดนอยู่แล้ว เพราะว่าตูมรับช่วงต่อจากพี่นุ้ย แล้วเราไปอยู่เป็นนักสืบประจำ ทำให้คนเปรียบเทียบตั้งแต่เเรกอยู่เเล้ว คือเราทำอะไรคนก็ด่าอยู่แล้ว