“ปราง” เขินคนแซว “โต้ง” บอกรักออกสื่อ เผยคงได้เห็นลงรูปคู่ถี่ขึ้น

“ปราง” เขินคนแซว “โต้ง” บอกรักออกสื่อ เผยคงได้เห็นลงรูปคู่ถี่ขึ้น

               ถึงจะมีคนแซวลงรูปคู่หวานกันแค่ไหนแต่นางเอกสาว “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” แฟนสาวของหนุ่ม “โต้ง Twopee” หรือ “พิทวัส พฤกษกิจ” ก็ยังเขินไม่หยุด เพราะก่อนหน้านั้นได้บินลัดฟ้าไปเที่ยวกันถึงต่างประเทศ และหลังกลับมายังลงรูปคู่แบบสุดโรแมนติกให้ได้ชมกันอีก งานนี้มีโอกาสได้เจอกับสาว “ปราง” เลยขอคว้าตัวมาสัมภาษณ์กันสักหน่อย โดยเจ้าตัวเผยว่า

อ่านข่าวต่อ

เปิดคำอวยพรจาก “โต้ง ทูพี” ถึง “ปราง”

               สำหรับเรื่องลงรูปคู่ จริงๆ แล้วไม่ใช่รูปคู่นะ มีตุ๊กตาตั้งเยอะ ก็ไม่รู้สิ มันน่ารักดีค่ะ เห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักดีก็เลยลง คือจริงๆ เหมือนพอถูกจับตามองปรางก็แบบยังไงดี เมื่อไรจะลง แต่อันนี้ก็แบบไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ แค่รู้สึกว่ารูปมันน่ารักดี แล้วมันก็แบบเป็นบรรยากาศที่ดี แล้วเราก็ตัดสินใจเองค่ะ เขาเป็นคนถ่ายรูปนี้ค่ะ แล้วเราก็มองว่าน่ารักดี ก็เลยบอกว่ารูปนี้น่ารักไหม ก็ให้เขาดูก่อน ว่าหน้าเขาผ่านไหม โมเมนต์วันนั้นไปคีบตุ๊กตากันค่ะ แล้วมันก็เป็นโมเมนต์ที่ดี สนุกมาก หนีบแล้วมันได้เยอะมาก เราก็แฮปปี้มาก ก็รู้สึกว่าอยากเก็บโมเมนต์นี้ไว้

               เขาดีใจไหมเราลงรูปคู่ จริงๆ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านี่เป็นรูปคู่รูปแรกที่ปรางลงในอินสตาแกรม คือเขาก็ไม่ได้คิดมากไงคะ ปรางก็ลงๆ หน่อย เขาเขินไหมตอนที่เห็นรูป เขาก็ถามย้ำประมาณ 3-4 รอบ ว่าจริงไหมเนี่ย ไม่เคยลงรูปเราเลยเหรอ เป็นไปได้ไง ตอนแรกเราก็แบบเดี๋ยวจะน้อยใจเปล่า ก็เลยบอกว่าไม่เคยลง เคยลงแต่รูปเขาเดี่ยวๆ เขาบอกว่าเขาแฮปปี้มาก เขาก็ดีใจที่เราลงรูปเขาสักที ไม่คาดคิดมาก่อน ก็พอเขารู้ว่าเป็นรูปคู่รูปแรก เขาก็ดีใจแหละ แต่คนนี้เขาดีใจ เขาจะไม่แสดงออกอะไรมากอยู่แล้ว ต่อจากนี้จะให้เขาลงเยอะๆ อยู่คนเดียวพอแล้ว 

               คิดว่าพอลงแล้วรู้สึกเหมือนปลดล็อก เราก็แบบลุ้น อ่านคอมเมนต์ก็น่ารักดี คือแฟนคลับก็มาแบบ รูปคู่รูปแรกอะไรแบบนี้ค่ะ จริงๆ ก็สบายใจขึ้นค่ะ คนก็จะได้ไม่ต้องรอรูปคู่รูปแรก ก่อนหน้านี้ที่เราเลือกที่จะไม่ลงรูป ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลยค่ะ ปรางแค่อยากให้มันเป็นธรรมชาติมากกว่า ปรางไม่ได้อยากที่จะลงรูปแบบว่า ยืนสวีทกันกลางสวนหรืออะไรขนาดนั้น เพราะมันจะทำให้ปรางรู้สึกเขินด้วย แต่สำหรับรูปที่ปรางมาลงมันก็มีบรรยากาศมีฟีลลิ่งดี 

               หลังจากนี้เราสองคนก็สามารถหวานออกสื่อได้เต็มที่ ก็ดีค่ะ ยังไงก็ได้ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เราไม่เคยบังคับกันอยู่แล้ว แถมตัวเขาเองก็ยังชอบมาคอมเมนต์เซอร์ไพรส์ปรางตลอดด้วย พูดถึงคอมเมนต์ของเขาที่ค่อนข้างชัดเจนกับความรู้สึกมาก ตัวเราเองตกใจ ตอนตื่นมาเห็นข้อความก็แบบ คุณส่งมาเป็นข้อความแชทปกติก็ได้มั้ง สาวๆ หลายคนอิจฉาที่โต้งเป็นคนเปิดเผยเรื่องความรัก เขาเป็นคนโรแมนติกอยู่แล้วค่ะ เขาบอกว่า I love you ทุกวัน แต่จริงๆ ทุกคู่ก็บอกกันเป็นปกติอยู่แล้วไหมคะ พอเขาบอกมาแบบนั้น เราตอบกลับไปว่าก็นั่นแหละ คือเขาบอกว่า I love you ใช่ไหม เราก็แค่ตอบเขากลับว่า Love you too 

               ส่วนเรื่องเพจที่เขาลงข่าวแร็ปเปอร์ แล้วถูกชาวเน็ตโยงว่าเป็นโต้ง อันนี้สักพักหนึ่งแล้วใช่ไหมคะ จริงๆ มีเพื่อนส่งมาให้ดู คือเรื่องนี้ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ เราจะไปซีเรียสกับมันก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้รู้ความจริง ความสัมพันธ์ของคนสองคนมันน่าจะเชื่อในสิ่งที่เรารู้ เชื่อในสิ่งที่เราเห็นมันก็จะทำให้ความสัมพันธ์ยืดยาว ถูกไหมคะ มันมีเรื่องอะไรแบบนี้เข้ามาแน่นอนมันต้องสะกิดใจ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับทำลายความสัมพันธ์หรืออะไรเลยค่ะ ปรางว่าเขาซีเรียสในส่วนที่คนตีความว่าเป็นเขา แน่นอนเขาอ่านคอมเมนต์อยู่แล้ว เขาก็เห็นก่อนปรางด้วยซ้ำ ก็มานั่งคุยกัน ก็เลยพยายามมองว่าช่างมันเถอะ เหมือนเขาก็ไม่ได้เขียนตรงๆ ว่าเป็นโต้งถูกไหมคะ เพียงแต่คนก็เดาว่าเป็นเราบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ผิดที่คนจะเดาว่าเป็นเขา ปรางก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่ามันไม่ผิดหรอกที่คนจะมอง มันก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ ทุกคนสามารถแสดงออกทางความคิดเห็นได้ แต่ถ้าถามว่ามันมากระทบความสัมพันธ์ไหม ไม่ค่ะ

               ในส่วนของปรางพอเห็นข่าวก็รู้สึกแน่นอน พอมีคนคิดว่าเป็นเราก็รู้สึกนิดหน่อยแหละค่ะ แต่พอถึงเวลาแล้วพอมองในมุมกว้างๆ อย่างที่ปรางบอกว่าไม่สามารถให้เรื่องอะไรแบบนี้มารบกวนเราได้อยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่เรารู้จริง และมันไม่มีหลักฐานอะไรเลยค่ะเราเชื่อใจโต้งไหม  คือการคบกันมันต้องเชื่อใจกันอยู่แล้ว แน่นอนมีข่าวแบบนี้คนต้องมาถามอยู่แล้วว่ารู้สึกยังไง เราจะไปตอบ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าไม่ใช่แน่นอน ฉันมั่นใจมากในแฟนตัวเอง ปรางก็ไม่อยากมั่นหน้าขนาดนั้นหรอก เป็นคำถามที่ตอบลำบากใจมาก แต่อย่างหนึ่งที่ปรางพูดได้ ปรางก็พยายามเชื่อในสิ่งที่ปรางรู้สึกได้ เชื่อในสิ่งที่รู้จักกันมา เชื่อในสิ่งที่เราเห็นอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ แล้วถ้าวันหนึ่งมันเกิดมีเรื่องไม่ดีขึ้นมา เราก็ต้องยอมรับในเรื่องที่ไม่ดีนั้น แต่วันนี้เราก็ต้องเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เรารู้ เชื่อตัวเองก่อนค่ะ มันไม่ได้บั่นทอน เขาก็ยืนยันว่าไม่มีแน่นอนค่ะ