"โตโน่" รับเป็นเกียรติหลังรับตำแหน่ง ทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนเอเชียแปซิฟิก
ทำเอาปลื้มใจไม่น้อยกับการได้รับตำแหน่งทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนเอเชียแปซิฟิก หลังได้ผุดโครงการ เก็บรักษ์ รณรงค์เรื่องขยะเพื่อทำให้สิ่งแวดล้อมในประเทศไทยดีขึ้น สำหรับ "โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยให้ฟังว่า
.jpg "โตโน่ ทูตแห่งมหาสมุทร สิ่งแวดล้อม")
อ่านข่าวต่อ :
ตามติดชีวิต “โตโน่” ที่ญี่ปุ่น เรียนรู้วิชาช่วยโลกแบบจริงจัง
ตื่นเต้นและเป็นเกียรติมาก ดีใจที่ได้รับตำแหน่ง ไม่ได้คิดว่าทำแล้วจะได้อะไร ส่วนตัวแม้จะได้ตำแหน่งทูตมาแต่ถ้าเป้าหมายคือประเทศไทยไม่ดีขึ้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร ขอบคุณและดีใจที่เห็นในสิ่งที่เราทำ หวังว่าทางองค์กรใหญ่ๆ ที่มองเห็นสิ่งที่ทำจะช่วยเพื่อประเทศ เพราะทะเล สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ ของไทยเป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเที่ยวทะเล มาดูทรัพยากร นอกจากคนไทยจะช่วยกันรักษาแล้ว ทั่วโลกก็ต้องช่วยเหลือด้วย เวลามาเที่ยวต้องช่วยกันดูแลรักษา ทำให้คนรุ่นหลังได้เที่ยว ได้มีในสิ่งที่ควร
.jpg "โตโน่ ทูตแห่งมหาสมุทร สิ่งแวดล้อม")
ตำแหน่งทูตจะไม่มีประโยชน์อะไรถ้าไม่หลุดจากหนึ่งในสิบประเทศที่ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก ซึ่งพอได้ตำแหน่งมาก็ต้องทำให้จริง ต่อให้ได้รับหรือไม่ได้รับต้องรู้ว่าทำเพื่ออะไร เราทำไม่ได้หวังตำแหน่ง แต่ทำให้ประเทศสวยงาม ถ้ารักลูกรักหลาน รักแผ่นดิน ก็ต้องช่วยกัน ทำไมต้องยอมให้อยู่อันดับ 6 ทำไมไม่ให้เป็น 1 ใน 10 ที่สิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถจะให้คนรวยหรือจนเท่ากันได้ ก็เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมอากาศดีก็ใช้อากาศเดียวกัน เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก
.jpg "โตโน่ ทูตแห่งมหาสมุทร สิ่งแวดล้อม")
ทุกคนมีความฝันแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ทุกคนต้องมีคือ โลกใบนี้ที่หล่อเลี้ยงความฝันที่หลากหลาย จะทำยังไงให้น่าอยู่ ไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะช่วยกัน เราไม่ใช่เป็นนักอนุรักษ์ ที่ทำเพราะเป็นคนไทยคนหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกที่เห็นข่าว PM 2.5 เห็นอันดับมลพิษต่างๆ อย่างต่างประเทศไม่ลดเพดานภาษีเขาก็มองว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อโลก เพราะเวลามีขยะลงไปในทะเลที่ตอนนี้เป็นน่านน้ำสากลแล้วก็ลอยไปต่างประเทศ ดังนั้นเราในฐานะคนไทยไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และคนไทยใจเดียวกันก็อยากจะเปลี่ยนให้ดีให้ได้
.jpg "โตโน่ ทูตแห่งมหาสมุทร สิ่งแวดล้อม")
ที่ทำมาอย่างน้อยมีคนมาช่วยเยอะขึ้น ที่ลงไปทำก็มีกลุ่มใหญ่ขึ้นหลายกลุ่ม ขอบคุณพี่สื่อที่มาช่วยกระจายข่าว เพิ่งทำได้ 5 เดือน 5 ครั้งก็มีคนรู้จักมากขึ้น อยากให้ช่วยกัน และคิดว่าประชากรไทยมี 70 ล้านคน มี 2 มือ ถ้าทั้งหมดมีใจเดียวกัน ลองเก็บขยะที่ทิ้งดูจะเก็บได้วันละ 140 ล้านชิ้น ก็ให้รู้ไปจะไม่ติด 1 ใน 10 ที่อากาศดีที่สุดในโลก ประเทศที่ติดจะอยู่ในแถบอาเซียนทั้งนั้น แต่เขาก็เข้มงวดมากขึ้น เราเชื่อว่าอะไรที่คนไทยช่วยกันแล้วจะสำเร็จ ไม่มีอะไรที่ทำแล้วเสียหายเลย ถ้าทำบ้านเมืองจะสะอาด มีอากาศที่บริสุทธิ์ ต่อให้ไม่ได้มาช่วยเราเก็บก็อยากให้ช่วยในพื้นที่ของตัวเอง หรือเวลาจะหยิบใช้อะไรก็อยากจะให้คิดมากขึ้น อย่างหลอดใช้แค่ครั้งเดียว ดูดน้ำแค่แป๊บเดียว แต่ทิ้งแล้วจะอยู่กับโลกไปนี้ไปอีก 4-5 ร้อยปี
ทั้งนี้เผยว่า พลาสติกจะย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติก จะไม่มีวันย่อยสลายไปจากโลก แค่แตกตัวเป็นเม็ดเล็กๆ ที่มองไม่เห็น สุดท้ายกุ้ง หอย ปู ปลา กินเข้าไป คนก็มากินสัตว์พวกนี้เข้าไป สุดท้ายในกระเพาะอาหารของคนทุกคนมีไมโครพลาสติกอยู่คนละหมื่นชิ้น ทำให้เกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งลำไส้ และโรคต่างๆ มากมาย โดยเวลาเผาไปก็เป็น PM 2.5 กลายเป็นมะเร็งปอด ต้นเหตุทุกอย่างก่อนจะไปมีโรงงานกำจัด หรือโรงงานขยะ ที่มีอยู่ทุกเขต แต่ที่คนไทยต้องมีก่อนคือการช่วยกัน และต้องมีจิตสำนึก
ส่วนที่ไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นกลับมาก็ถามว่ามีมากี่ปีแล้วโรงงานที่กำจัดขยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงชาวบ้านด้วย และเศษของการเผาขยะสามารถเอาไปทำอิฐบล็อก เอาไปทำถนน ไปทำคอนกรีตได้ โดยเมื่อ 20 ปีที่แล้วเขาใช้ทุนประมาณ 9 พันกว่าล้านบาท และที่ญี่ปุ่น โตเกียว มีอยู่ 23 เขต โรงงานละเกือบ 1 หมื่นล้าน เมื่อ 20 ปีก่อนก็ไม่รู้ถ้ามาทำที่เมืองไทยจะต้องใช้งบเท่าไร ดั้งนั้นรู้สึกว่าไกลตัวและไม่รู้เมื่อไรจะสร้างเสร็จ จะมีโรงงานแบบนั้นได้ ถ้าจะต้องไปหาเงินขนาดนั้นก็ใช้แรงเก็บก่อนได้ อยากให้ลองลดการใช้คนละ 2 ชิ้น และเก็บเพิ่มคนละ 2 ชิ้นก็ได้ ทำให้ลดได้เยอะมาก โดยหากมีจิตสำนึกที่มากพอจะผลักดันให้เห็นว่าควรมีโรงงานขยะแบบไหน รับอยากไปดูงานเอง ได้ทำจดหมายและยื่นไปทางประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เขาส่งคนมาให้ความรู้ ขอขอบคุณทางประเทศญี่ปุ่นด้วยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเข้าไปดู ให้ความร่วมมือเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายอื่นๆ เราใช้เงินในการเล่นคอนเสิร์ต
สำหรับเรื่องที่ตอนนี้หันมาทำงานงานสังคมมากขึ้น งานคอนเสิร์ตก็แบ่งได้ไม่ยากหากกล้าตัดรายได้ของตัวเองลง แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายก็ต้องทำจริงจัง ละครต้องถ่าย คอนเสิร์ตก็ต้องเล่น อย่างวันที่ต้องไปรับงานเพิ่มก็เอามาทำตรงนี้มากขึ้น ยันไม่ได้เครียด มองเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำช่วยกัน อย่างที่บอกเปลี่ยนจากตัวเองก่อน ซึ่งที่ไปเก็บมาทั้งหมด 5 ครั้ง เก็บขยะได้แล้วเป็น 10 ตัน และมีแพลนจะไปเก็บที่ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ล่าสุดที่ไปคือที่ลพบุรี อย่างที่ขอนแก่นจะไปวันที่ 27-28 มิถุนายนนี้ และก่อนเก็บจะไปหาน้องที่โรงเรียน รวมทั้งมหาวิทยาลัยด้วย ให้ความรู้สานต่อกันไป และมีคนที่เก่งมากมายที่ให้ความรู้ โดยมีทางหน่วยงานติดต่อเข้ามา แต่เรายังไม่อยากจะรับเงินใคร อยากทำด้วยตัวเองให้เต็มที่ก่อน หากเจอเรื่องที่ใหญ่ขึ้นถ้าจะทำเป็นโรงงานขยะหรือเครื่องมือแพทย์ที่ไว้ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหรือเรือเก็บขยะอะไรที่เกินตัวก็ว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไหวอยู่
