เพราะเหตุนี้ “เขตต์” ตัดสินใจออกจากวิกหมอชิต ยันจากกันด้วยดี
ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการแผนกละครของ บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด แล้ว สำหรับคุณพ่อลูกหนึ่งอย่าง “เขตต์ ฐานทัพ” ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ล่าสุดมีโอกาสได้เจอเลยไม่พลาดที่จะเข้าไปอัพเดทกันสักหน่อย รวมถึงเข้าไปถามถึงพัฒนาการของ “น้องดีจ้า” ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เปิดใจ "เขตต์ ฐานทัพ" หลังนั่งแท่นผู้ดูแลการผลิตละคร 2 เรื่องรวด
ก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำจากตำแหน่งผู้จัดการแผนกละครของ บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด ด้วยเวลาการทำงานที่ไม่แมตช์ เวลาในครอบครัวมันก็หายไป ก็เลยอยากให้ตรงนี้ให้มันสบายขึ้นอีกนิดหนึ่ง ก็ต้องขอขอบคุณ บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด ที่เป็นเวทีให้ได้ทำงานในสิ่งที่ฝันในสิ่งที่ตั้งใจ เรื่องของปัญหาไม่มีเลย สบายมาก ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจของเรา เดินเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ ในอนาคตไม่แน่อาจจะมีโอกาสได้ทำงานละครให้กับทางช่อง 7 อีก แต่ ณ ตอนนี้เราไม่ได้เป็นพนักงานของทางบริษัทแล้ว จริงๆ สืบเนื่องจากที่เราหมดสัญญากับทางช่อง 7 ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระสามารถร่วมงานได้กับทุกค่าย แต่ด้วยความที่เราเป็นพนักงานของบริษัทเราก็ไม่สามารถรับงานที่อื่นได้เต็มที่ ด้วยความที่ยังมีความเกรงใจทางผู้ใหญ่ แต่พอเราปลดจากตรงนี้แล้วก็สามารถรับงานในฐานะนักแสดงอิสระได้เต็มที่
งานละครตอนนี้ก็มีติดต่อเข้ามาแต่กำลังตัดสินใจอยู่ จริงๆ คิดถึงงานละครมาก อยากเล่นละคร ก็เลยกำลังตัดสินใจอยู่ว่าละครเรื่องไหนที่มันเหมาะสม การทำงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังมันมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เบื้องหน้าก็แบบหนึ่ง เบื้องหลังก็ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด อย่างที่เรียนให้ทราบว่าละครหัวใจลูกผู้ชายผมมีความตั้งใจมากๆ อยากให้คนดูชอบผลงานที่จะออกมา ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้ได้ติดตามชมกันแน่นอน เพราะตอนนี้ใกล้จะปิดกล้องแล้ว
ส่วนพัฒนาการของ “น้องดีจ้า” ตอนนี้ก็กำลังซนมากจริงๆ 3 ขวบ 6 เดือนเข้าโรงเรียนแล้ว ดื้อแล้ว เถียงแล้วมาครบทุกอย่างให้เลือก บางทีเราเหนื่อยๆ จากงานหรือเครียดจากงานมีเวลาอยู่กับลูกคิดว่าเป็นอะไรที่ผ่อนคลายอีกแบบหนึ่ง ส่วนตัวจริงๆ แล้วเราก็เลี้ยงเขาตั้งแต่แบเบาะ 3 เดือนก็เริ่มเลี้ยงแล้ว 3 เดือนแรกจะอยู่กับเราตลอด เพราะแม่เขายังอุ้มไม่ถนัด พอโตมาหน่อยก็จะอยู่ประมาณหนึ่ง แต่พอมาทำงานประจำก็จะมีช่วงเวลาของครอบครัวหายไป ซึ่งเขาก็ถามแล้วไปบอกคุณครูว่า ป๊ะป๋าไม่กลับบ้านเลย คือ เราออกไปทำงานเขายังไม่ตื่น พอเรากลับจากทำงานเขาก็หลับแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่เจอหน้ากัน เขาก็เลยไปฟ้องคุณครู จะดันเข้าวงการไหม ก็วันก่อนมาขอไปกองถ่าย อยู่ดีๆ บอกว่าจะไปถ่ายละครกับป๊ะป๋า แต่ไปเขาก็ไปนั่งดูมอนิเตอร์นะ เขาเป็นเด็กที่เซนซิทีฟอยู่แล้ว ฟังเพลงหรือดูการ์ตูนที่มีฉากเศร้าๆ เขาก็ร้องไห้เลย ก็จะคล้ายๆ พ่อนิดหนึ่ง ตอนนี้ก็ต้องอธิบายเยอะ จะดุไม่ได้ เพราะเขาจะต่อต้าน ส่วนแพลนคนต่อไปก็กำลังคิดอยู่ว่าอยากจะมีอาจจะอีก 1-2 ปี ตอนนี้ก็สองจิตสองใจทั้งเราแล้วก็ภรรยา
