"จิ๊บ วสุ" เล่าโมเมนต์สวมแหวนเพชร 7 กะรัต  ขอ "จ๊ะจ๋า" แต่ง ยันยังไร้ฤกษ์

"จิ๊บ วสุ" เล่าโมเมนต์สวมแหวนเพชร 7 กะรัต  ขอ "จ๊ะจ๋า" แต่ง ยันยังไร้ฤกษ์

                  ได้คุกเข่าขอฝ่ายหญิงอย่าง "จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม" แต่งงานที่ทิเบตด้วยแหวนเพชรเม็ดโตที่มูลค่าถึง 7 กะรัต สำหรับ "จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว" ล่าสุดฝ่ายชายก็ได้ออกมาเล่าถึงโมเมนต์ดังกล่าวพร้อมบอกเรื่องที่ยังไม่ได้วันจัดพิธีให้ฟังด้วยว่า 

อ่านข่าวต่อ :

"จ๊ะจ๋า" เปิดใจ "จิ๊บ วสุ" คุกเข่าขอแต่งงานบนเขาทิเบต

                  ก็เตรียมการนาน ซึ่งสิ่งที่ลำบากที่สุดต้องเก็บความลับให้ได้ เพราะคนที่อยู่ข้างตนจะมีเซ้นส์จะถามเก่งต้องใช้ความนิ่งเป็นหลัก โดยที่ขอที่ทิเบตจริงๆ แพลนไว้ครึ่งปีล่วงหน้าก็มีเหตุผลหลายอย่าง ตอนที่คุยกับฝ่ายหญิงตอนแรกก็เริ่มคุยด้วยเพลงที่เขาชอบอย่างเพลง "Top of The World" ของ "The Carpenters" ตนก็เก็บข้อมูลนี้ไว้ในใจพอคุยกันที่คิดว่าถึงวันที่พิเศษเลยนึกถึงคำนี้ขึ้นมา ตอนแรกที่จะขอมีคิดหลายที่ทั้งยอดเขาเอเวอเรสต์หรือขั้วโลก

                  แต่ทิเบตส่วนตัวมีความประทับใจเป็นดินแดนที่อยากเดินทางไปตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเป็นดินแดนหลังคาโลกและเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาศักดิ์สิทธิ์สมัยก่อน ก็จะไปยากติดปัญหาหลายอย่างแต่ปัจจุบันสะดวกขึ้นแต่ก็ไม่ง่ายต้องมีความตั้งใจจริง คิดว่าน่าจะเหมาะสมที่จะขอแต่งงาน โดยที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปหลายทริปหลายที่ทั่วโลก และทางฝ่ายหญิงก็ไปได้ทุกที่ที่ลำบากตนก็ทดสอบมาหลายที่แล้วคิดว่าจุดนี้ก็น่าจะไปได้ ซึ่งจุดที่ขอตนได้ศึกษาไว้นานแต่ไม่ได้ไปเห็นล่วงหน้า และจริงๆ จุดที่ขอก็ไม่ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางไป เพราะสูงขึ้นมาอีก 3 เนินเขา จากที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงตนก็เดินนำไปก่อนและคนที่ทราบคนแรกคือหัวหน้าไกด์ บอกเขาให้เป็นสักขีพยานและฝากถ่ายภาพให้ด้วย ตอนที่เดินไปทางไกด์ท้องถิ่นบอกไม่ให้ขึ้นไป เพราะเป็นเขตทหารตนก็ทำหูทวนลมไม่สนใจเพราะมุ่งมั่นมาก พอขึ้นจนถึงเนินที่สามเป็นความบังเอิญและรู้สึกปลื้มใจมาก เพราะมีจุดที่เป็นธงสักการะฟ้า ซึ่งชาวทิเบตเป็นพุทธวิชรญาณนี่คือเหตุผลที่ไปด้วย ที่นั่นเป็นดินแดนพุทธและมีความเชื่อเชื่อมต่อฟ้ากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเห็นธงทิวหลากสีปักอยู่แต่จะอยู่ในจุดที่สูงเท่านั้น ก็คิดว่าตรงนี้ที่เหมาะสมที่จะขอแต่ง ทั้งนี้ตอนแรกฝ่ายหญิงไม่เดินมาตนก็วิ่งไปตาม ส่วนตัวก็รู้สึกตื่นเต้นก็คุยและคุกเข่าขอเลยฝ่ายหญิงก็ตกใจและมีน้ำตาไหล ไกด์ก็ร้องตามด้วย ขำๆ อากาศหนาวประมาณ 4 องศา ตนก็มีพูดผิดพูดถูกไปบ้าง 

                  ส่วนฤกษ์ดีจะจัดพิธีแต่งงานก็ขอไปตามสเต็ปก่อน ช่วงนี้งานยุ่งกันทั้งคู่แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็ต้องคิดล่วงหน้า มองว่าฤกษ์ที่ดีที่สุดก็คงเป็นฤกษ์สะดวกทั้งสองฝ่ายก่อนแล้วค่อยไปที่ครอบครัวแพลนต่างๆ ที่จะตามมา ซึ่งเรื่องนี้ตนได้มีการคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิงพักใหญ่แล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดแน่นอน ก็ทำทุกอย่างเป็นการให้ความเคารพและเรียนให้ทราบตามแนวทางที่จะเป็น พอขอแล้วจะให้ความเชื่อมั่นกับครอบครัวฝ่ายหญิงยังไงบ้าง ก็การกระทำสำคัญกว่าคำพูดและกับสื่อเองตนก็ถูกถามก็บอกตลอดถ้าถึงเวลาก็จะทราบกันเอง กับสิ่งที่ให้ไว้ก็ทำตามที่พูดขึ้นอยู่กับเวลาที่เหมาะสม ทั้งคู่ก็ผ่านอะไรมาเยอะตนมองแบบผู้ใหญ่

                  แล้วที่ผ่านมาก็สังเกตประเมินผลว่าผ่านเวลามาเท่านี้ถึงเวลาที่สมควร ก็แสดงความจริงใจให้เกียรติฝ่ายหญิงด้วย ก็ทำเต็มที่เท่าที่จะทำได้เป็นการทำแสดงออกให้เห็น บางทีไม่ต้องพูดอะไรมากอย่างที่บอก ณ วันนี้ยังไม่ได้กำหนดวันแต่งงานแต่มีอะไรจะแพลนล่วงหน้าอยู่แล้วสิ่งต่อไปจะเกิดขึ้นคงไปตามเวลา จะแต่งภายในปีนี้ไหม ก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน สำหรับแหวนเพชรที่สวมให้ฝายหญิงตอนแรกก็กลัวจะเอาออกนอกประเทศแล้วจะโดนรวบหรือเปล่า แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี แหวนวงนี้ก็ตั้งใจเลือกให้คนสนิทรู้จักที่เป็นเจ้าของเพชรพลอยช่วยดูให้ โดยมูลค่าก็อาจจะไม่ได้สำคัญที่ราคาก็ 7 กะรัต แต่ไม่สำคัญอะไรอยากให้รู้สึกเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น ซึ่งวันแต่งก็มีวงใหม่แต่ไม่รับปากว่าจะเท่านี้ไหม