"หม่ำ จ๊กมก" แย้มของรับขวัญหลานคนที่ 2 รับเป็นห่วงลูกชาย "มิกซ์" เรื่องนี้
ลูกสาวคนโตอย่าง "เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา" ตั้งครรภ์จะมีหลานคนที่ 2 ให้กับ "หม่ำ จ๊กมก" หรือ "เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" แล้วเลยไม่รู้ได้มีการเตรียมของรับขวัญอะไรไว้ให้บ้างแล้วหรือเปล่า ล่าสุดเมื่อเจอ "หม่ำ จ๊กมก" เจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมบอกมีความเป็นห่วงลูกชายคนเล็ก "มิกซ์ เพทาย วงษ์คำเหลา" ให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ :
สิ้นลายตลก! “หม่ำ จ๊กมก” ยอมสยบมุกให้หลานสาว
ก็อยากได้ผู้ชายแต่พอไปอัลตราซาวนด์ได้ผู้หญิงอีกแล้วก็ไม่เป็นไรรักเหมือนเดิม ตอนนี้หลานคนโตอย่าง "น้องนาฬิกา" กำลังซน เรียก "ตาหม่ำๆ" ก็เห่อหมดคนที่ได้เป็นตาคนแล้วไม่ใช่แค่ตน อย่าง "คุณปัญญา นิรันดร์กุล" ก็เหมือนกันคนมีหลานรู้สึกเหมือนยิ่งกว่ามีลูก บางทีไปบ้านลูกเขยเขาก็ไม่ค่อยคุ้นต้องทำความคุ้นเคยก่อนถึงจะจำได้ ก็จะมองก่อนสักพักก่อนแล้วเดินหนีแต่สักพักก็จะให้อุ้มเหมือนเดิม และตอนกลางคืน "เอ็ม" จะถ่ายรูปตอนเขาหอมน้องที่ท้องมาให้ดู กับของรับขวัญหลานคนที่ 2 ก็ไม่รู้จะให้อะไรแล้ว เรื่องให้มาทุกวันนี้ให้ลูกหมดก็แบ่งครึ่งกันอยู่แล้ว ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมาให้พระหลวงปู่ทวดและทองก็เป็นของที่มีอยู่แล้ว เรื่องจะยกมรดกให้คิดว่าถ้าถึงวันหนึ่งก็ต้องให้ลูกหลานแบ่งกันไม่เอาเปรียบอยู่แล้วมีเผื่อไว้ให้ลูก "มิกซ์" ด้วยเผื่อเขาแต่งงาน
ทั้งนี้เป็นห่วงลูกชายเรื่องวิธีคิดของเขาด้วย วัยเขาที่อายุ 23-24 หรือไม่รู้ความเป็นพ่อที่คิดว่าเขาไม่โตสักทีหรือเปล่าก็ไม่รู้ บางทีเขายังคิดแบบเด็กอยู่ตนเป็นพ่อก็ห่วง ซึ่งทุกวันนี้เขาได้มาเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่ทำทุกเรื่องให้เขาได้มาเห็นมาเรียนรู้กองถ่าย เขาก็จบด้านภาพยนตร์ที่ ม.กรุงเทพอินเตอร์ อยู่แล้ว ก็น่าจะเข้าใจได้ง่าย ที่กำลังทำเขาก็มาดูหมดทั้งเรื่อง สี้น 3 ต่อน, ผาดำ คำไอ่ และ เดอะโปรเจคต์ บอดี้การ์ดหน้าหัก 2 เรื่องนี้กำลังถ่ายอยู่ก็ให้เห็นวิธีการทำงานของเขา บางครั้งเขาไม่เข้าใจเพราะเริ่มใหม่แต่ทางลูกสาวจะเข้าใจกว่า หรือเป็นเพราะอายุเขาที่ห่างกันก็ไม่รู้แต่ลูกชายจะชอบดูหนังฟังเพลงก็ได้วิธีคิดอีกแบบแต่มีแววอยู่แล้ว ส่วนเรื่องชีวิตเขายังมองว่าวัยรุ่นอยู่อาจจะมองไม่ขาด มีเป็นห่วงสุดคงเรื่องความเป็นอยู่การใช้ชีวิตวันข้างหน้าที่เขาอาจจะไม่ได้คิดเหมือนตนตอนอายุ 19 ปี ที่ได้มีการซื้ออาหารตุนไว้เพราะไม่รู้วันข้างหน้าจะมีเงินซื้อไหม แต่ด้วยความที่เกิดมาแล้วเป็นลูกตนก็เดินข้ามสะพานเลยไม่ต้องว่ายน้ำหรือพายเรือเลยมีเป็นห่วง โดยคิดว่าเขาเข้าใจเวลาพูดกับเขา สำหรับเรื่องแฟนของเขาก็เป็นวิสัยของผู้ชายทั่วไป อย่างตนมีเมียตอนอายุ 17 ปี เลยไม่ได้รู้สึกกับช่วงวัยรุ่นอะไรมากขนาดนี้ แต่เขายังคิดกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้แต่คิดว่าสักวันเขาน่าจะคิดได้เอง ตนมีบอกบ้างนิดหน่อยเขาก็โตพอที่จะไม่ต้องให้ตนพูดเยอะ ก็เข้าใจกับเรื่องแต่งงานของเขา ณ วันนี้มองว่ายังเด็กอยู่คงต้องให้มีอะไรเป็นหลักแหล่งถึงจะโอเค ก็บอกให้คิดให้ดีเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีบ้านมีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แต่ยังไม่ได้คุยจริงจังก็เป็นห่วง เพราะความเป็นพ่อคิดว่าลูกไม่เคยโตยังเป็นเด็กอยู่เสมอ