เจาะใจ 3 ศิลปินวง Cinematic “คริน-ไปป์-ท็อป” กับงานเพลงชิ้นใหม่

เจาะใจ 3 ศิลปินวง Cinematic “คริน-ไปป์-ท็อป” กับงานเพลงชิ้นใหม่

0

เจาะใจ 3 ศิลปินวง Cinematic “คริน-ไปป์-ท็อป” กับงานเพลงชิ้นใหม่

       เป็นอีกหนึ่งวงที่ตอนนี้เพิ่งปล่อยผลงานเพลงชิ้นใหม่อย่าง “โลกซึมเศร้า” สำหรับวง Cinematic ที่รวม 3 ศิลปินอย่าง “คริน สาครินทร์ สุธรรมสมัย” ร้องนำ, “ท็อป พณพงศ์ เพิ่มพูล” กีตาร์, “ไปป์ สหัสชา ต. แสงจันทร์” เบส ซึ่งวันนี้ทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสพูดคุยกับพวกเขาทั้ง 3 คน ก็ไม่พลาดถามถึงจุดเริ่มต้นของงานเพลง “โลกซึมเศร้า” โดยพวกเขาเผยให้ฟังว่า

Cinematic นักร้อง วงเพลง

อยากให้เล่าจุดเริ่มต้นของวง
ประมาณ 3 ปีก่อน “ท็อป พณพงศ์ เพิ่มพูล-ไปป์ สหัสชา ต. แสงจันทร์” อยู่วงเดียวกัน และได้แยกย้าย และ “คริน สาครินทร์ สุธรรมสมัย” ได้มาเจอก็คุยกันถูกคอ คิดอะไรที่คล้ายกัน ก็เริ่มทำเดโม 3 ปีก่อน หาคอนเซ็ปต์ หาชื่อวง ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับการทำเพลง

Cinematic นักร้อง วงเพลง

อยากทราบว่าทั้ง 3 คนจบอะไรมาบ้าง?
สำหรับ “ท็อป-ไปป์” เรียนแจ๊ส ที่มหิดล เป็นสายดนตรี ส่วน “คริน” เองจบจากภาพยนตร์ แต่เล่นดนตรีมาตั้งแต่ ม.3 แล้ว เล่นมาเรื่อยๆ หลายปีแล้ว แต่เรานั้นเป็นอุบัติเหตุทางการศึกษาว่าตอนนั้นไม่รู้ว่ามีคณะดนตรีอยู่

เครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิต
“คริน” เลือกเล่นเบส เพราะคิดว่าง่าย สายมันน้อย “ไปป์” เลือกเล่นเปียโน เพราะเห็นน้องอยากเรียน และก็ได้ฝึกสมาธิด้วย ต่อมาเป็นกีตาร์คลาสสิค สุดท้ายจบที่การเล่นเบส “ท็อป” เลือกเล่นกีตาร์ตั้งแต่แรก เพราะมันเท่ ตั้งแต่ยุคก่อนจนตอนนี้ ใช้จีบสาวด้วยในตอนนั้น กีตาร์เป็นเพื่อนคนแรกของเราด้วย เพราะเราโตมากับครอบครัวที่พ่อแม่อาจไม่มีเวลามากด้วย ก็จะได้จับกีตาร์ หรือเล่นหมากรุกคนเดียว หรือทำอะไรกับสิ่งๆ หนึ่งเสมอ เราเลือกใช้กีตาร์เป็นหนึ่งสิ่งที่อยู่กับมัน ซึ่งบางคนจะแบ่งเวลาเล่นกีฬาหรือทานข้าวกับครอบครัว แต่เราทำเพราะพยายามหาบางอย่างในการใช้ชีวิต แต่วันหนึ่งมันสนุก ทำให้หยุดไม่ได้ ส่งผลมาถึงปัจจุบัน เป็นรสนิยมทางดนตรี ไปถึงการทำเพลง ทำ MV กลายเป็นอย่างที่เห็น ทั้งแฟชั่นด้วย

Cinematic นักร้อง วงเพลง

แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อวงเกิดจากอะไร?
มันมาจากซินีมาโตกราฟฟี มันคือการทำภาพยนตร์ ก็คือการจัดองค์ประกอบภาพทุกๆ อย่าง ทำไมถึงเลือกชื่อนี้ เพราะทั้ง 3 คนโดยพื้นฐานเหมาะกับคำนี้ คอนเซ็ปต์นี้ ทำให้เกิดเป็นแนวดนตรี เป็นวิธีคิดแก่นของวง

Cinematic นักร้อง วงเพลง

อยากให้นิยามความเป็นตัววง
ถ้าแนวดนตรีจะเป็นร็อกที่มีส่วนผสมของอิเล็กโทรนิกส์มิวสิค เหมือนที่เราดูภาพยนตร์ การเสพงานดนตรีของพวกเราจะมีความชอบที่ต่างกัน บางแนวที่เหมือนกันด้วย แต่สิ่งที่เราได้ฟังจากเพลงวงเรามันไม่ใช่ชอบทางไหนทางเดียว เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกัน

ทั้ง 3 คนจูนอย่างไรให้เกิดเป็นวง?
ทั้ง 3 คนต่อให้ต่างกันยังไงก็ชอบร็อกเหมือนกัน เอารสนิยมทั้ง 3 คนมาหารกัน มันไม่ยากเลยที่จะนำมารวมตัวกันได้ พูดถึงเรื่องเสียใจที่ทุกคนมี ส่วนแนวดนตรีจะเป็นแนวเศร้าบวกกับเสียงต่างๆ

Cinematic นักร้อง วงเพลง

การเดินทางก่อนมีซิงเกิ้ลแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
จริงๆ การเดินทางของวงตั้งแต่เริ่มต้นมา เราทั้ง 3 คนเป็นคนที่เก็บรายละเอียดเยอะมาก บางคนอาจจะถามว่าทำไมใช้เวลา 3 ปีเพิ่งมาปล่อยเพลง แต่จริงๆ มันคือแนวเพลงชัดเจน แก่นการแข็งแรง เราเองมีความเชื่อที่จะทำวงดนตรีขึ้นมาสักหนึ่งวันมันประกอบด้วยหลายๆ อย่าง รสนิยม การหามุมมองที่นำเสนอ ศิลปะ การค้า มีหลายๆ อย่าง ไม่ใช่แค่ตื่นเช้ามาทำเพลงกัน เชื่อว่าต้องละเอียดทุกขั้นตอน นั่นคือวิธีคิดของวงการ แต่สุดท้ายของเราอยากทำเพลงให้ทุกคนฟัง

Cinematic นักร้อง วงเพลง

ฟีดแบ็คเป็นอย่างไรบ้าง?
สำหรับฟีดแบ็คจากค่าย ทาง “พี่ก้อ ณฐพล ศรีจอมขวัญ” ก็แฮปปี้ และได้เข้ามาเสริมในสิ่งที่ขาดไป หลังจากเข้ามาอยู่ในค่ายแล้วก็ค่อนข้างฟรี เพราะค่ายเองให้โอกาสพื้นที่ได้เต็มที่เลยในการทำเพลง

เพลง “โลกซึมเศร้า” เป็นอย่างไรบ้าง?
มันเกี่ยวพันกับคนที่ตอบโจทย์อารมณ์ได้ ก็มีหลายๆ คนคอมเมนต์ว่ามีภาวะทางนี้ เพลงนี้เป็นเพื่อนเขาตอบโจทย์เขา คุณยังมีใครอยู่นะ ไม่ได้อยู่คนเดียว

Cinematic นักร้อง วงเพลง

ประสบการณ์ความเศร้าในแบบของเรา?
“คริน” ผมมองว่าความคิดสร้างสรรค์บางอย่างมันเกิดจากการถูกรังแก มันเป็นต้นเหตุที่จะสร้างพลังบวก ดูจากศิลปะหลายๆ อย่าง มันมาจากที่ฉันไม่พอใจสิ่งที่เป็นอยู่ มันเป็นต้นเหตุของความคิดสร้างสรรค์ และหากใช้ความเศร้าให้เป็นจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
“ท็อป” สิ่งที่เศร้าที่สุดที่เคยเจอคือความกลัวจะเปลี่ยนไป วันหนึ่งที่จะไม่คุยกับคนอื่น กลัวจะเข้าสังคมไม่ได้ และวันหนึ่งก็เปลี่ยนไป เราก้าวผ่านไม่ได้ แต่สามารถที่จะอยู่กับมันได้
“ไปป์” คนเราเองมีโมเมนต์เศร้ากันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องแฟน ครอบครัว เพื่อน ทุกคนจะเจอหมด แต่คิดว่าเป็นประสบการณ์ เป็นการเดินทางที่ได้เจอ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา

ในการแต่งใช้เวลานานเท่าไหร่?
สำหรับเพลงนี้ไม่นาน แต่จะมีขั้นตอนการอัด การมิกซ์ การทำโลโก้ราวๆ ประมาณ 2 ปี

อยากให้พูดถึงตัว MV ?
เนื้อหาของ MV จะเน้นเรื่องอารมณ์ของนางเอกที่เป็นตัวแทนของวงว่าเจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง อย่างเวลาเจอเรื่องอะไรในชีวิตถึงอารมณ์เศร้าก็อยากไปอีกที่หนึ่ง อย่างภาพสีและภาพขาวดำ จะรวมความเศร้าเข้ามาเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะขอกรี๊ด มันรวมหลายๆ อย่างเข้ามาจนจบเพลง

Cinematic นักร้อง วงเพลง

เสียงเพลงนาฬิกาปลุกตอนสุดท้ายสื่ออะไร?
เสียงนาฬิกาเราจบต่อให้หนักแค่ไหนตื่นขึ้นมาก็ต้องไปต่อ

ความคาดหวังอะไรบ้าง?
อยากให้ฟังทั้งเพลงและ MV เอามาแชร์กัน ในคอมเมนต์ทั้งยูทูบและเพจวงหรือเพจค่าย เรามองว่าคนฟังจะได้รับเพื่อนที่เข้าใจในอารมณ์นั้น

กดดันหรือเปล่ากับเรื่องชาร์ตเพลง?
เราเองคาดหวังกันอยู่แล้ว มันคือเพลงเศร้าที่ทุกคนต้องเจอ เรามองว่าเพลงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ฟังแล้วจะอินตาม ชาร์ตมันเป็นสิ่งที่ในฐานะวงไม่ควรคำนึง แต่คำนึงถึงในสิ่งที่เราจะทำต่อไป สิ่งที่แฟนเพลงพูด

กระแสเพลงร็อกช่วงนี้กับความนิยมของตลาดเพลงยุคใหม่
เราเองเข้าใจเพลงในยุคนี้ แต่สิ่งที่เราเป็นและนำเสนอมันไม่ใช่เรื่องของแนวเพลงร็อก แต่มันเป็นเพลงเศร้า เราคงไม่บอกว่าใช้ชีวิตแบบร็อก แบบอาร์แอนด์บี ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่แบบนั้น ตามกระแสเพลงของโลกก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรามองว่ามันจะวนเปลี่ยนไป และเชื่อว่าเพลงร็อกจะกลับมาอย่างแน่นอน

สุดท้ายอยากให้ฝากผลงาน
สุดท้ายขอฝากทุกช่องทางของวง ทั้ง Cinematic รวมถึงยูทูบและอินสตาแกรมของวง และอีกหลายๆ ช่องทาง ใครสะดวกตรงไหนเชิญได้เลย เราอ่านทุกอัน ตอบทุกอัน ฝากเข้าไปติดตามด้วย และอย่าลืมติดตาม MV ของวงเราด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments