"หมอริท" เล็งเปิดคลินิก ขอบคุณคน ชมช่วยเหลือคนเจ็บ ชื่นใจ "พี่โน่" ทำความดี

"หมอริท" เล็งเปิดคลินิก ขอบคุณคน ชมช่วยเหลือคนเจ็บ ชื่นใจ "พี่โน่" ทำความดี

0

"หมอริท" เล็งเปิดคลินิก ขอบคุณคน ชมช่วยเหลือคนเจ็บ ชื่นใจ "พี่โน่" ทำความดี

 

               ทำเอาหลายคนชื่นชมกับการลงไปช่วยเหลือคนเจ็บ สำหรับ "หมอริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช" หรือ "ริท เดอะสตาร์" ที่เจ้าตัวนั้นได้เป็นหมอเต็มตัวแล้ว ล่าสุดเจอเจ้าตัวก็ให้อัพเดทเหตุการณ์วันนั้น พร้อมกับอัพเดทจะเปิดคลินิกหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่า

ริท เรืองฤทธิ์ ช่วยเหลือ อุบัติเหตุ

               เหตุการณ์ที่ไปช่วย วันนั้นติดไฟแดงอยู่ ได้ยินเสียงตู้มขึ้นมา เราก็เงยหน้าขึ้นมาดู เราเห็นมอเตอร์ไซค์เข้าไปอยู่ใต้รถโม่ปูน พอไฟเขียวริทก็ไปจอดตรงข้างๆ ริทก็ลงไปดูว่ามีใครเป็นอะไรหรือเปล่า

               คือวันนั้นริทเพิ่งตรวจเสร็จพอดี เลยใส่แมสก์ลงไปดีกว่า ไม่อยากให้คนโฟกัสว่าเป็นริท ให้โฟกัสที่คนเจ็บดีกว่า เหมือนเป็นคนแรกๆ ที่เข้าไป แต่ก็มีพี่ๆ วินมอเตอร์ไซค์อยู่ก่อนแล้ว ริทก็เดินเข้าไปขอทาง ขออนุญาตผมเป็นหมอนะครับ เขาก็บอกมีหมอมาพอดีเลย ริทก็ดูเบื้องต้น ตอนแรกริทมองด้วยตาก่อนว่าคนเจ็บยังโอเคอยู่ เลยบอกคนข้างๆ ใครก็ได้กด 1669 ให้หน่อย ริทคิดว่าริทคนเดียวคงช่วยไม่ได้แน่เพราะไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ริทก็ไปประเมินคนไข้ รอดูการหายใจ ดูชีพจร เลือดออก ดูขาที่มันผิดรูป ก็ช่วยได้แค่เบื้องต้น

ริท เรืองฤทธิ์ ช่วยเหลือ อุบัติเหตุ

               ตอนนั้นคนไข้มีสติดีอยู่ พูดได้แต่ชีพจรค่อนข้างอ่อน ซึ่งตอนนั้นริทไม่ได้เห็นเลือดออกเยอะ ริทคิดว่าขาเขาผิดรูปเยอะ ริทก็ไม่ได้ไปไหน อยู่รอรถกู้ภัยมาก่อน

ริท เรืองฤทธิ์ ช่วยเหลือ อุบัติเหตุ

               เป็นครั้งแรกไหมที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนใหญ่ริทเจอคือมีรถกู้ภัย รถพยาบาลมาแล้ว อันนั้นริทก็ไม่ได้ลงไป อันนั้นเขามีทีมแพทย์มาด้วย แต่อันนี้ริทคิดว่าริทเป็นหมอ และเร็วที่สุดตอนนั้นเลยเข้าไปช่วยก่อน ซึ่งริทไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ถุงมือก็ไม่มี แต่ริทก็ลงไปก่อนเผื่อมีอะไรร้ายแรง ต้องปั๊มหัวใจหรืออะไรที่มันรุนแรง

               ถามว่าตื่นเต้นไหม ริทก็ตื่นเต้น ปกติริทจะไปกับรถพยาบาล ก็จะมีอุปกรณ์ มีทุกอย่าง รู้เคสล่วงหน้าแล้ว แต่นี่เราไม่รู้อะไรเลย ลงไปริทก็สั่นเหมือนกัน

ริท เรืองฤทธิ์ ช่วยเหลือ อุบัติเหตุ

               ได้ติดตามคนป่วยไหม ไม่ได้ติดตามเลยครับ หลังจากส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลแล้วก็เหมือนเสร็จหน้าที่ของเราแล้ว ก็เลยไม่ได้ตามว่าเขาเป็นยังไงต่อ

               คนชมเรา ก็ขอบคุณที่คนแชร์เยอะมาก คือตอนแรกริทก็ช่วยเขาอยู่แล้วได้ยินเสียงมีคนมาพากย์ข้างหลังริท ริทก็ไม่คิดว่าคนจะรู้ หรือเป็นกระแส ก็ขอบคุณที่ช่วยแชร์ แต่สิ่งที่ริทอยากจะบอกว่า ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ ริทว่าเข้าไปแสดงความช่วยเหลือจะดีกว่า ไม่ต้องเป็นหมอหรือคนมีความรู้เยอะก็ได้ ไปช่วยเท่าที่เราช่วยได้ อย่างคนรอบข้างบางคนก็ไปช่วยกั้นถนนเพื่อไม่ให้คนเจ็บเจ็บเพิ่ม

ริท เรืองฤทธิ์ ช่วยเหลือ อุบัติเหตุ

               หลายคนบอกว่าเราขึ้นทำเนียบหมอหล่อ ใจดี ก็ขอบคุณมากเลยครับ มันเป็นความบังเอิญมากกว่า อย่างที่บอก ใครเจอก็ช่วย ไม่ควรชื่นชมเพราะริท สิ่งที่ควรทำมันเป็นสัญชาตญาณ สุขใจที่ช่วย และก็ขอบคุณที่คนมองเห็นคุณค่าของการทำดี

               ตอนนี้ริทเรียนต่อ ออกมาเรียนต่ออีกรอบหนึ่ง เกี่ยวกับผิวหนังและความงามอยู่ เรียนไปได้จะครบ 1 ปีแล้ว เรียนทั้งหมด 2 ปีก็จะจบแล้ว เรียนที่ธรรมศาสตร์ คือตอนแรกริทไปใช้ทุนอายุรศาสตร์ แต่ริทรู้สึกว่างานค่อนข้างหนัก ก็ทำงาน 2 อย่างควบคู่กันไปด้วย มันบั่นทอนสุขภาพค่อนข้างเยอะ ริทว่ามันไม่เหมาะสมกับริท ริทอยากทำหมอด้วย ทำวงการบันเทิงด้วย ริทต้องเลือกอะไรที่มันไปด้วยกันได้ ก็เลยเลือกเรียนต่อใฟ้มันเบาบางลงด้วย มีวิชาชีพให้ตัวเองด้วย

ริท เรืองฤทธิ์ ช่วยเหลือ อุบัติเหตุ

               ก็มีคิดว่จะเปิดคลินิกในอนาคตด้วย เพราะว่าเรียนจบก็คงมีคลินิกของตัวเองด้วย ก็เป็นบ้านหลังนั้น เป็นโฮมออฟฟิศ เปิดคลินิกด้วย กำลังวางแผนเตรียมการอยู่ ก็เป็นที่อยู่ ใช้เป็นคลินิก ริทก็เรียนมานานมากแล้ว ต้องเริ่มใช้วิชาความรู้บ้างแล้ว

               ถามหน่อยอย่างริททำความดีแล้วคนก็เลยหาว่าไปเชื่อมโยงกับ “พี่โน่” หรือเปล่า อย่างของ “พี่โน่” เขาก็มีโครงการช่วยเก็บขยะ คือของ “พี่โน่” เขาทำดีมานานแล้ว ไม่ว่าจะมีสื่อหรือไม่มีทุกคนก็ชื่นชมเขาอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ของริทมันคนละเรื่องกัน มันเปรียบเทียบกับใครไม่ได้ “พี่โน่” เขาทำเสมอต้นเสมอปลาย มีความสุขที่จะทำแบบนี้ มันเป็นเหตุการณ์ที่บังเอิญ แล้วริทก็ช่วย ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนอะไรอยู่แล้ว ถ้าเป็นโครงการริทยังไม่มีครับ เพราะว่าริทเรียนต่อด้วย ตรวจคนไข้ด้วย ทั้งทำงานวงการบันเทิงด้วย อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม “พี่โน่” ก็ส่งรูปเข้ามาในกรุ๊ปด้วยว่าจะไปโน่นนี่นั่น เราก็ติดตามในโซเชียลเขา ชื่นชมเขา ก็ยอมใจเขา เสียสละ ที่เขาทำความดีเพื่อสังคม เขาก็มีคอนเสิร์ต เวลาส่วนตัวค่อนข้างน้อย แต่เขาเลือกที่จะมาช่วยเหลือ อันนี้คือสิ่งที่น่าชื่นชม

โตโน่ ภาคิน เก็บขยะ เกาะลิ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments