“กบ” ลุ้นร่วมงาน “ป้อง”
ทำเอาหลายคนอดลุ้นไม่ได้ว่านักแสดงมากฝีมืออย่าง “กบ สุวนันท์ ปุณณกันต์” จะมีโอกาสร่วมงานกับช่อง 7 ไหม หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าได้มีการพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ไป ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวสาว “กบ” เลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย รวมไปถึงคนลุ้นละครหลังถ่ายรูปคู่กับหนุ่ม “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” ด้วย
สำหรับเรื่องละครกับทางช่อง 7 ยังไม่มีการพูดคุย แต่ช่องอื่นพูดคุยแล้ว มีการพูดคุยกันหลายๆ ช่อง หลายๆ ค่าย อาจจะเป็นเพราะว่าละครเรื่องล่าสุดมาเล่นกับช่องวัน และเปิดตัวว่ารับละครในช่องอื่นๆ บ้าง ก็จะมีหลายๆ ค่ายหลายๆ ช่องติดต่อมา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เจอบทที่พอดีกับเรา
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ช่อง 7 ได้มีการทาบทามกบกลับมาเล่นอีกครั้งแล้ว ก็ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ทางดาราวิดีโอว่าอยู่ในช่วงที่กำลังหาเรื่องให้อยู่ แต่ยังไม่มีการพูดคุยว่าจะเล่นเรื่องนี้ รายชื่อเรื่องที่ออกมายังไม่มีชื่อกบ ถ้าอะไรลงตัวกบก็พร้อมรับ สำหรับกบช่อง 7 คือบ้าน แล้วก็เป็นบ้านที่รัก เป็นบ้านที่เราอยู่มานานมาก แล้วกบพร้อมที่จะทำงานให้กับช่อง 7 ก่อนที่อื่นอยู่เสมอ แต่โดยจังหวะโอกาสในช่วงระยะเวลา ถ้ายังไม่มีโอกาสที่ได้ร่วมงานกัน ถ้านานกบก็เปิดรับโอกาสกับทางช่องอื่นบ้าง ทางโมโนอีกแป๊บนึงละครจะออกแล้ว ละครของพี่บรู๊ค ไปรับเชิญไว้ตอนเดียว แต่เกือบๆ ปีแล้ว ถ่ายนานมากแล้ว คงใกล้จะได้เห็นกันแล้วในช่องโมโน แต่เป็นรับเชิญเฉยๆ
ทางบทที่กบจะกลับมารับเล่นจะต้องแตกต่างอย่างไร สำหรับกบ ก่อนหน้านี้จะเป็น “น้ำเซาะทราย” ซึ่งก็ร้องไห้ค่อนข้างหนัก เป็นชีวิต มา “บาปรัก” นี่ก็ร้องไห้รุนแรงมาก ค่อนข้างจะดราม่าเยอะ ณ ตอนนี้กบได้มีโอกาสเจอพี่ป้อนในงานศพคุณพ่อพี่อ้อม (พ่อเปี๊ยก) เจอพี่ป้อนก็บอกว่าเรื่องหน้าไม่ร้องไห้แล้วนะ ขอยิ้มทั้งเรื่องแบบคนบ้าเลยก็ได้ คือรู้สึกว่าเหนื่อยมาก ใช้พลังงานเยอะ ถ้าถามกบในฐานะนักแสดงคนหนึ่งกบรู้สึกว่าการที่เล่นเรื่องเดิมซ้ำๆ มันจะต้องร้องไห้เพิ่มขึ้นๆ ซึ่งกบรู้สึกว่าถ้าเราร้องน้อยคนจะรู้สึกว่ามันได้แค่นี้เหรอ กบอยากจะเปลี่ยนภาพของดราม่าไปบ้าง และเวลากบทำงานดราม่าร้องไห้บางทีกบเหนื่อยมาก รู้สึกหน้าไม่ยิ้มเลยทั้งเรื่อง ออกไปข้างนอกกองมันก็ไม่สามารถยิ้มได้ มันเป็นวังวนของคาแรกเตอร์นั้น อย่างที่บอก ถ้ามีคอมเมดี้สนใจติดต่อมีแววรับก่อนเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าอยากอยู่ในกองถ่ายแล้วสนุกบ้าง
ส่วนที่ “พี่ป้อง ณวัฒน์” ก็ลงรูปว่าอยากร่วมงานกับพี่กบบ้าง ก็ได้มีโอกาสเจอกันในงานศพคุณพ่อของพี่อ้อม ก็ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกันก็จะดีใจมากเหมือนกัน เพราะพระเอกที่จะมาคู่กับกบหายาก และที่สำคัญคือ ป้องก็เป็นคนที่มีฝีมือ แล้วก็เป็นคนที่ไม่เคยร่วมงานด้วยเลย เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกันก็ดีใจ ดีใจกับทุกคนที่จะเข้ามาร่วมงานกันอยู่แล้ว กบโอเค ทำงานด้วยกันได้ แต่ขอยิ้มเป็นบ้าไปเลย เหนื่อยมาก
อย่างปี 62 กบก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะรับละครมากกว่า 1 เรื่องไหม จากการทำงานครั้งที่ผ่านมาทำให้รู้สึกว่าไม่มีโอกาสได้อยู่กับลูกเยอะ ตอนนี้ใครถามก็จะตอบว่าขอกลับไปดู ไปใช้ชีวิตอยู่กับเขานิดนึง เพราะกบเป็นคุณแม่แล้วก็มีหน้าที่ในด้านของการเป็นคุณแม่ที่ต้องทำอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นตอบไม่ได้จริงๆ ว่าจะเป็น 1 เรื่องหรือ 2 เรื่อง แล้วแต่จังหวะ โอกาส แต่ว่าการที่มีโอกาสได้กลับมาทำงานถือว่าเป็นความสุขมากๆ อย่างหนึ่งของกบ เพราะว่ามันได้ออกไปจากรูทีนเดิมของชีวิตที่แบบ เลี้ยงลูก ส่งลูก กลับมาออกกำลังกาย รับลูกตอนเย็นไปเรียนพิเศษ แล้ววนอยู่อย่างนั้นเป็นปีๆ บางทีเราก็รู้สึกว่าอยู่ในวงนี้เยอะมาก มาทำงาน มาเจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็สนุกดี
ส่วนล่าสุดที่ได้ไปดู “น้องณดา” แข่งกีฬายิมนาสติก แต่มีอุบัติเหตุเล็กๆ อันนี้สำหรับกบเอง กบเป็นนักกีฬาเก่า ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน เมื่อลูกจะลงแข่งขัน เราเองก็ลุ้นและเราก็อยากให้เขาทำได้ดีและเต็มที่ที่สุด แต่การที่เขาพลาดในวันจริง กบเองก็ใจเสียและเสียดาย เพราะอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์ที่ถ้าตกลงมาจะถูกตัดคะแนนเยอะที่สุด เราก็เสียดาย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เขาถนัดที่สุด และทำคะแนนได้ดีที่สุดด้วย แต่ว่าสิ่งที่รู้สึกว่ามันดีสำหรับเขาคือ การที่เขาได้รู้จักการล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ต่อ มันทำให้เรารู้สึกว่านี่คือกฎ
สำหรับกบคิดว่ามันคือข้อดีของกีฬาที่เราจะสามารถมาสอนเขาได้ว่าในชีวิตคนทั่วไปล้มแน่นอน ไม่มีใครที่ไม่ล้ม แพ้แน่นอน ไม่มีใครที่ไม่แพ้ แต่เวลาแพ้แล้วคุณจะลุกขึ้นมาต่อสู้และกลับมาทำให้มันดีได้อีกครั้งได้ยังไง คุณจะตกลงมาไม่ว่าจะอุบัติเหตุหรือไม่อุบัติเหตุ การผิดพลั้งบางอย่างในชีวิตมันเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าเขาจะอายุแค่ 7 ขวบครึ่ง แต่สิ่งนี้จะปลูกฝังเล็กๆ น้อยๆ ให้เขาต่อไปในอนาคต วันหนึ่งถ้าเขาเรียนหนังสือไม่ดีขึ้นมาตามที่หวัง ถ้าหลายๆ คนเอ็นทรานซ์แล้วไม่ได้ กบว่าการที่เด็กมีพื้นฐานด้านกีฬา รู้จักแพ้บ้าง ลุกขึ้นมาสู้บ้าง รู้จักผิดพลั้งบ้าง มันก็ดีสำหรับเขา
แต่สำหรับแม่นี่ใจแบบ คือคำถามแรกที่ถามว่าหนูเจ็บไหม เขาตอบว่าเขาเจ็บที่สะโพกเพราะว่าก้นกระแทกลงไป แล้วเราถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบว่ามือหนูเหงื่อลื่น แล้วเราถามโค้ช โค้ชตอบว่ามือน้องมีแต่เหงื่อ แล้วก็นั่งรอนาน เพราะทีมนึงแข่ง 6 คน เขาแข่งเป็นคนสุดท้าย เขานั่งรอและเหงื่อลื่น เราก็เพลย์ดูกันกับณดาว่าพลาดตรงไหน และเขาจะมีแข่งอีกทีเดือนมกราคม เราก็บอกเขาว่าถ้าพลาดตรงนี้ก็ต้องระวังนิดนึง
กับที่บ้านก็มีคุย แม่ก็ยังใจเสียอยู่เลย เสียดาย ความรู้สึกคือนี่เป็นอุปกรณ์ที่เขาถนัดที่สุด เราแค่รู้สึกเสียดาย แต่มันก็ฝึกแม่ด้วยอย่างหนึ่งว่า อะไรที่เกิดขึ้นแล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไป แล้วเราก็หันไปมองข้างหน้า แม้กระทั่ง 2-3 วันที่ผ่านมา แม่จะมองไปข้างหลัง รีภาพตกไปตกมาอยู่อย่างนั้น แต่มันก็สอนแม่เหมือนกัน แม่ก็ต้องก้าวข้ามตรงนี้ไปให้ได้ แล้วก็เดินไปข้างหน้ากับเขาให้ได้ กบเคยเห็นเพื่อนเขาในการแข่งขัน เคยตกมาแล้ว สิ่งที่รู้สึกคือ โห หนูเก่งจังเลยที่หนูลุกขึ้นมาได้ เรารู้สึกว่านักกีฬาพอไปถึงจุดๆ นั้นเขาก็ลุกขึ้นมาเองกันทุกคน ก็ภูมิใจในจุดนี้ของเขาเหมือนกัน