เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ใบเตย” กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ใบเตย” กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

          เป็นอีกหนึ่งนักร้องสาวที่น่าจับตามองมากๆ สำหรับ “ใบเตย สุธีวัน” หรือที่รู้จักในนาม “ใบเตย อาร์สยาม” ด้วยความที่กล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ถูกพูดถึงและเป็นกระแสอยู่ตลอด จนเธอนั้นได้รับฉายาว่า ลูกทุ่งสาว “สั้นเสมอหู” นั่นเอง วันนี้ “ดาราเดลี่” จะพาไปย้อนวันวาน พร้อมเปิดเส้นทางในวงการบันเทิงของสาว “ใบเตย อาร์สยาม” กัน

          พูดถึงชีวิตในวัยเด็ก ตอนเด็กๆ ก็เป็น “ใบเตย” เลย เป็นเด็กกิจกรรม เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส คุณพ่อคุณแม่จะสนับสนุนการทำกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับดนตรี เรียนรำตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กนาฏศิลป์มาก่อน เป็นเด็กนาฏศิลป์ตั้งแต่อนุบาล จนถึง ม.3 คุณแม่ชอบร้องเพลงมาก แม่เป็นอดีตนักร้อง คุณแม่ก็เลยชอบผลักดันเรา คือจริงๆ ที่บ้านคุณตาเขาไม่ดันคุณแม่ พอคุณแม่มีเราก็เลยดันแบบเต็มที่เลย ประกวดร้องเพลงตั้งแต่ 6 ขวบ ประกวดเรื่อยๆ ทุกเวที มีเวทีไหนก็จะต้องขึ้นร้องตลอด บางทีก็ขึ้นประกวดทั้งครอบครัวเลย

          จนกระทั่งอายุ 13-14 ปี ตอนนั้นทางอาร์เอสเขามีโครงการ Panasonic Star Challenge 2002, 2003, 2004 “ใบเตย” ประกวดหมดทั้ง 3 ปี และในปีสุดท้ายนักร้องดีเด่นระดับประเทศ ก็เลยได้เข้ามาเซ็นสัญญาอาร์เอส ก็เลยเป็น “ใบเตย อาร์เอส” จากนั้นพอฝึกร้อง ฝึกเต้น อยู่กับอาร์เอส เซ็นสัญญาอยู่ 4 ปี จากนั้นก็มาอยู่ค่ายชื่อว่า ป่าล้อมเมือง ตอนนั้นมาอยู่กับโปรดิวเซอร์ชื่อ “บั๋ง สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา” ก็ได้ปั้นเราเป็นลูกทุ่งป๊อปเบอร์แรกของค่าย ชื่อเพลงว่า “ปากไม่ใจคิดถึง” ใบเตย อาร์สยาม เป็นเพลงแรกในชีวิต

          ความฝันในวัยเด็ก ตอนนั้นคือมีความฝันอยากเป็นนักร้อง ตั้งแต่ประกวดร้องเพลงคือตั้งใจเลยว่าอยากเป็นนักร้องให้ได้ หลังจากที่ได้เซ็นสัญญามีเพลงเป็นของตนเอง ตอนนั้นดีใจมาก จำได้เลยว่ามาบอกกับพี่น้องที่รู้จักว่า หนูได้มีอัลบั้มแล้ว ร้องไห้ดีใจ กระโดดกอดกัน ดีใจมากๆ ตอนนั้นแค่รู้สึกว่าได้มีอัลบั้มแล้ว เป็น 10 เพลงซีดี ตั้งใจจะกลับบ้านเกิดแล้ว ตายตาหลับแล้ว ตอนนั้นเราเด็กก็เลยคิดแค่นั้น พอมาเป็นเพลง “ปากไม่ใจคิดถึง” ก็เริ่มมีงานประมาณหนึ่ง แล้วก็มาเป็นเพลง “โคโยตี้ค่ะพี่” ตอนนั้นก็เริ่มแล้วว่า โอ้โห ลูกทุ่งคนนี้ทำไมใส่สั้นขนาดนี้ หลังจากนั้นก็มาเป็นเพลง “เช็คเรตติ้ง” เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงสร้างชื่อ ณ ตอนนั้น ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงเพลงแรกในชีวิต แล้วก็มาเป็นเพลง “เช็ดแล้วทิ้ง, รกอก, สกัดดาวยั่ว” แล้วเพลงที่ทำให้คนที่รู้จักทั้งประเทศก็เพลง “รักต้องเปิด (แน่นอก)”  ซึ่งชีวิต “ใบเตย” อยู่กับเพลงมาทั้งชีวิตเลย

          เคยคิดไหมว่าชีวิตจะโด่งมาถึงทุกวันนี้ คิดว่าเหมาะแล้ว เพราะว่าคุณแม่ส่งประกวดทุกงาน และเราก็ตั้งใจมากกับทุกงาน ทุกเวที ทุกการประกวด แล้วที่บ้านก็จะมีถ้วยเกือบร้อยถ้วย มีประกาศนียบัตรเยอะมาก เลยรู้สึกว่าการที่เราปวะกวดมาก็เพื่อวันนี้ การประกวดสอนให้เรารู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเข้าวงการ

          การเรียนรู้เพื่อการใช้ชีวิตในวงการบันเทิง “ใบเตย” ประกวดเยอะมาก และก็ทำให้เรารู้จักคนในวงการประกวดเยอะมากๆ และทุกคนก็แสดงความยินดีกับเราที่ประสบความสำเร็จ เพราะรู้ว่าเราลำบากมามาก กว่าจะมีวันนี้ เรียกว่าชั่วโมงเราค่อนข้างสูงมากๆ

          พูดถึงไอดอลหน่อยในยุคนั้น ไอดอลของเราคือ "พี่ทาทา ยัง" เพราะตอนนั้นเราเห็นเขาประกวดร้องเพลง รู้สึกว่าพี่เขาเก่งมาก และคิดว่าวันหนึ่งเราจะต้องเป็นแบบเขาให้ได้ ต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงาน แต่ว่าได้เจอบ้าง แล้วก็จะบอกพี่เขาว่าเรามีเขาเป็นไอดอลนะ อย่างเพลง “เอาไม่เสร็จ” ก็ได้เอาตัวอย่างมาจากเพลง เอลนินโย่ เพราะเราชอบฟีลนั้น

          คิดว่าอะไรที่ทำให้เราอยู่ในวงการมาได้ถึงทุกวันนี้ ส่วนตัวเราคิดว่าคือการตั้งใจทำงาน ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ณ วันนี้การเป็นศิลปินสามารถดังได้เร็ว แต่ใครที่จะรักษาความดังไว้ได้นานที่สุดคือสิ่งที่สำคัญกว่า เราคิดว่าเราอยู่มายาวนาน และก็ความตรงต่อเวลา ความรักในการทำงาน ในความเป็น “ใบเตย อาร์สยาม” จะโดนกระแสเยอะมาก เพราะจุดเริ่มต้นของเราเริ่มต้นมาจากการเป็นลูกทุ่งนุ่งสั้น ซึ่งมันก็ขัดแย้งกับความเป็นวงการลูกทุ่งเมื่อสิบปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง เราเป็นศิลปินที่แหกกฎอย่างสิ้นเชิง แต่ในความที่เราแหกกฎเราก็ทำในมุมดีๆ อย่างเช่น ทำให้คนรู้จักเพลงลูกทุ่งป๊อปมากขึ้น บอกเลยว่าเรารักในตรงนี้

          สิ่งที่อยากจะทำแต่ยังไม่มีโกกาสได้ทำ คือ ตอนนี้เหลือสิ่งเดียวในชีวิตแล้วที่รู้สึกว่า ณ วันนี้เราชอบตรงนี้ ทุกวันนี้เรื่องเพลงนั้นมันคือคอนเทนต์ใฝ่ฝันหนึ่งในชีวิต แต่อีกหนึ่งคอนเทนต์ที่ใฝ่ฝันอยากจะทำ และกำลังจะเกิดขึ้นกับเราก็คือ การเป็นดีไซเนอร์แบรนด์เสื้อผ้า เพราะว่าเราเล่นภาพยนตร์ เล่นละคร และอื่นๆ มากมาย เลยคิดว่าสิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องทำ ต้องเริ่ม เพราะเป็นสิ่งที่เรารักอีกหนึ่งอย่างในชีวิต

          สุดท้ายขอบคุณแฟนคลับ “ใบเตย อาร์สยาม” ทุกคนทั่วประเทศเลย โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เยอะมากๆ ขอบคุณมากๆ ที่ให้การต้อนรับ สนับสนุน และก็เชียร์มาตลอด ก็อยากให้อยู่ข้างๆ กันแบบนี้ตลอดไป เป็นกองเชียร์ เป็นพลัง เป็นกำลังใจ คอยเกื้อหนุน “ใบเตย” ศิลปินนุ่งสั้นคนนี้ตลอดไป และก็จะพยายามผลิตผลงานดีๆ มาให้ฟังตลอดนะคะ ขอบคุณค่ะ