ว่างตรงกันพอดี "เต้ย" ปัด "อาเล็ก" ตามเฝ้ากองละครที่เชียงราย
แม้ไม่มีรูปคู่ออกมาให้เห็นแต่แฟนๆ ก็รู้ว่าความรักของคู่ "อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ" กับหวานใจ "เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ" หวานมาก เพราะล่าสุดมีข่าวว่าฝ่ายชายตามเฝ้าถึงกองหลังเต้ยไปถ่ายละครที่เชียงราย งานนี้มีโอกาสเจอตัวสาวเต้ยเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย
ถ่ายละคร “มีเพียงรัก” ที่เชียงราย อาเล็กไปด้วย เขาว่างพอดี เต้ยไปถ่ายละครที่นั่น 3 วัน เขาไม่มีคิวถ่ายช่วงนั้นพอดี เขาก็เลยขึ้นไปเล่นด้วย มันจะมีวันหนึ่งที่เต้ยว่าง ถ่ายแค่ 2 ซีนตอนเช้า เขาก็บอกว่าจะตามมา ไม่ได้ไปเฝ้าเหมือนเขามาเที่ยว ขับรถเที่ยว เมืองยังสวยเป็นธรรมชาติมากๆ กับทริปนี้ก็ไม่ได้สวีทเลย ขับรถดูวิวไปเรื่อยเปื่อย ด้านคนในกองก็มีแซว ถามว่าเขินไหม ก็ค่อนข้างชินแล้ว เพราะอาเล็กมาเจอพี่หน่อย พี่เคน บ่อยเหมือนกัน เพราะเขาเล่นละครกับพี่หน่อยด้วยก็จะสนิทกันอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งในกอง เสร็จงานเขาก็ขับรถมารับ ไปขับรถเล่นแล้วก็กลับ
ยอมรับแฮปปี้ที่เขามาหา ยอมใจในความพยายามของเขามาก เราก็เป็นห่วงเพราะว่าทางขึ้นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ฝนจะตก หมอกจะลงหรือเปล่า เขาก็เหมือนมาเที่ยวด้วย ส่วนตัวก็เขินอีกฝ่ายมาหาที่กอง ทำตัวไม่ถูก แต่เขาก็ไม่ได้เข้ามาในตอนที่เราถ่ายละครอยู่ เพราะเราก็ทำงานเหมือนกัน เราก็รู้จังหวะไม่ได้อยากให้มารบกวนด้วย ตอนเต้ยถ่ายเสร็จแล้วค่อยเจอเขา แล้วค่อยไปชิวกัน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาถ่ายละครต่ออยู่ดี
กับ "อาเล็ก" เองเขินหรือเปล่าต้องไปถามเขา แต่เต้ยว่าไม่น่าเขินนะ อย่างที่บอกเขาคุ้นกับกองนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้ทำแบบนี้กับทุกที่นะ มันมีช่วงเวลาที่สามารถไปชิวได้ ตอนนี้ก็หาเวลาเจอกันเท่าที่จะมีโอกาส เพราะช่วงนี้ต่างคนต่างยุ่งด้วย เต้ยก็ถ่ายละคร เล็กก็ถ่ายละคร นานๆ ทีจะมีช่วงเวลาใกล้ๆ กัน มันก็อยู่เชียงรายด้วย สวยด้วย ก็เลยมา
ส่วนคนที่มองว่าความรักคู่เราดูมุ้งมิ้งขึ้นเจ้าตัวก็บอกต่อว่า จริงๆ ก็เรื่อยๆ ค่ะ ไม่ค่อยได้ลงรูปมากกว่าค่ะ อันนี้ไปเที่ยว รูปสวย ก็ลงรูปค่ะ แล้วเขาก็น่ารักมาหาเราถึงเชียงราย รูปสวยด้วยก็ลงเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องอะไรขนาดนั้น ส่วนรูปก็ไม่ได้ลงรัวๆ นานๆ ที มันก็ตามธรรมชาติ อยากลงก็ลง ไม่อยากกดดันตัวเองเวลาคนถามเมื่อไหร่จะลงรูปคู่ แล้วต้องลงพรุ่งนี้เลย อยากลงเมื่อไหร่ก็ลง ถ้าโดนบังคับจะรู้สึกไม่อยากทำ ห้ามบังคับ ปล่อยให้ชิวๆ เดี๋ยวลงเอง
ส่วนความสัมพันธ์ในสาธารณะมันดูผ่อนคลายขึ้น เพราะด้วยระยะเวลาด้วย ก็คุยกันมาสักพักหนึ่ง เริ่มรู้จักกันมากขึ้น ก็รู้สึกสบายๆ มีมุมให้คิดว่า เราใช้ชีวิตเราให้มีความสุขดีกว่า ถ้าเรามัวแต่ไปคิดถึงเรื่องข้างนอกมากเกินไปคนที่ไม่มีความสุขคือตัวเราเอง ก็เลยคิดว่าเพราะฉะนั้นทำไมเราต้องทำร้ายตัวเราเองด้วย ก็มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น กับสิ่งที่เราอยู่ กับคนที่เราอยู่ ควรให้เกียรติกับคนตรงนี้มากกว่า
กับเมื่อก่อนค่อนข้างกดดันกับกระแสสังคม เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ที่มีคนมาจับตามอง จริงๆ ก็เป็นอย่างนี้ของเรามาตั้งนานแล้ว ทำอะไรก็ไม่เคยปิดบังอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป อยู่มานานตั้งแต่เริ่มมีเว็บบอร์ดแรกๆ เริ่มมีคนคอมเมนต์น้อยๆ หลังๆ มีอินสตาแกรม เฟซบุ๊ค และเพจต่างๆ มีคนกล้าแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น พอเห็นก็ตกใจ เหมือนช็อกไปชั่วขณะ สตั๊นไปเลย ก็เลยรู้สึกว่า งั้นฉันอยู่เงียบๆ ก่อนก็ได้ ยอมรับตอนนี้ก็รู้สึกดีใจที่ฟีดแบ็คดีขึ้น มันรู้สึกสบายขึ้น แต่ "เต้ย" ว่าสุดท้ายแล้ว ถ้าเราสบายคนจะรู้สึกว่าเราสบาย แต่ถ้าเรากังวลคนก็จะรู้สึกว่าเรากังวล ตอนนี้ก็รู้สึกสบาย