​​​​​​​"เจมส์ มาร์" ย้ำชัดยังโสดสนิท แย้มเชื่อเรื่องพรหมลิขิต

"เจมส์ มาร์" ย้ำชัดยังโสดสนิท แย้มเชื่อเรื่องพรหมลิขิต

             เพื่อนๆ ในกลุ่มเริ่มทยอยเปิดตัวสาวกันไปแล้วไม่รู้ว่าหนุ่มตี๋อย่าง "เจมส์ มาร์" เมื่อไหร่จะมีหวานใจบ้าง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้เห็นเจ้าตัวเป็นข่าวเรื่องสาวๆ เลย เมื่อมีโอกาสเจอก็แอบถามถึงเรื่องหัวใจสักหน่อย

             เรื่องสาวๆ ตนบอกยังไม่มีแฟนก็เลยยังเปิดตัวไม่ได้ เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดเรามีแล้วทุกอย่างโอเคเราก็เปิดตัวได้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีผมก็รู้สึกยินดีกับทุกๆ คนที่มีเรื่องน่ายินดี แต่ผมยังไม่มี แฟนคลับก็มีถามแล้วก็ถามบ่อยมาก ถึงเขาไม่ถามผมก็รู้ว่าเขาคิดในใจ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนที่ตรงไปตรงมา เราก็พูดถ้าเกิดเรามีแต่ตอนนี้เรายังไม่มีก็เลยไม่รู้จะบอกยังไง ผมเป็นคนมีกิจกรรมทำเยอะบางทีกลับบ้านก็กลับก็หลับแล้ว เลยไม่ได้มองถึงเรื่องนั้นด้วย อาจจะเป็นคนที่คิดถึงเรื่องงานเรื่องเรียนก่อน ตั้งแต่เข้าวงการมาเพื่อนเยอะขึ้นมีคนรู้จักเยอะขึ้น แต่ยังอยู่ในสถานะที่เป็นเพื่อนกันหมดทุกคน เรายังไม่ได้ชอบใครขนาดนั้น ถ้ามีก็ไม่ปิด ส่วนเพื่อนคุยก็คุยกับทุกคนปรึกษาได้

             ส่วนใหญ่เพื่อนผู้หญิงที่รู้จักในวงการมีแฟนหมดแล้ว จีบสาวเก่งไหมคงไม่เก่งแต่อาจจะไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ด้วย เป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องไปจีบใครสักคน เป็นคนที่รู้สึกว่าถ้าเกิดเราพยายามจะทำอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความรักมันจะไม่ระยะยาว แล้วอยู่ดีๆ ทุกอย่างมันง่ายมันลงตัว เรารู้สึกว่าอย่างนั้นเหมาะแล้วเป็นสิ่งที่เราต้องรับไว้ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราจะต้องเดินไปหา

             ผมเชื่อในพรหมลิขิตแต่ผมไม่ได้รอสาวมาจีบ ถ้ามีสาวมาจีบก็ต้องดูอีกทีว่าเส้นทางมันง่ายขนาดนั้นหรือเปล่า หมายความว่าเส้นทางที่เราจะไปถึงจุดที่เราชอบเขาได้มันง่ายหรือเปล่า หรือทุกอย่างลงตัวไหม ถ้าเกิดมีคนที่เราชอบแล้วรู้สึกว่ามันใช่เราก็จะบอกเขาอยู่แล้ว สเป็คไม่ได้ตั้งเป็นคนที่ชอบคนด้วยความรู้สึก แล้วก็ชอบคนที่การอยู่ด้วยกัน ถ้าเขารักตัวเองเขาเข้าใจเรานั้นคือสิ่งที่ผมชอบมากที่สุด เพื่อนๆ ก็ไม่ได้พาสาวๆ มาให้รู้จัก ก็ไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนั้น ส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันก็เล่นเกม หรือไม่ก็นัดไปตีกอล์ฟ ผมว่าอาจจะต้องเลิกทุกอย่างที่ทำอยู่ (หัวเราะ) มันจะได้มีเวลาบ้าง มีกิจกรรมทำเยอะมากจนผู้จัดการว่าตลอดว่าทำงานบ้าง ไม่ใช่ทำกิจกรรมตลอดเวลา กิจกรรมนอกเหนือจากงานเยอะมาก อย่างไปเที่ยว เล่นกีฬา เล่นเกม ซื้อของ เยอะมากเลย 

             ส่วนเรื่องที่ไปเที่ยวยุโรปตนสัญญากับตัวเองไว้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ว่าจะเปิดหูเปิดตามากขึ้นจะไปเรียนรู้โลก เพราะว่าอันดับแรกผมเรียนการท่องเที่ยวด้วย ผมควรจะเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง สองเป็นการพักผ่อนด้วย เพราะต้นปีนี้จนถึงตอนนี้ผมทำงานหนักมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าอยากให้รางวัลตัวเองด้วยการไปพักผ่อนในที่ที่ไม่เคยไป ไปก็นอนเยอะมาก เดินก็เยอะ ขับรถก็เยอะ พาทุกคนที่ไปเที่ยวเหมือนเป็นคนขับรถ ได้ทำอะไรที่อยากทำได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป ที่ไปก็ไป 10 วัน หลังจากนี้ก็ยังไม่มีแต่มันต้องมีฮ่องกงอยู่แล้วเร็วๆ นี้หรืออีกสักพัก เพราะเรากลับฮ่องกงตลอดเวลาอยู่แล้วเมื่อมีเวลาว่าง เที่ยวในเมืองไทยก็ดีแต่สัญญากับตัวเองว่าเมื่อมีเวลาว่างจะเบรกทุกอย่าง วางกิจกรรมทุกอย่างแล้วก็ไปเที่ยว