เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน! “หยา” ชม “เบลล่า” ตีแตก 3 คาแรกเตอร์
อีกหนึ่งละครที่ปังสุดหยุดไม่อยู่ สำหรับ “บุพเพสันนิวาส” ที่เรื่องนี้ได้นางเอกสาว “เบลล่า ราณี แคมเปน” รับบท “แม่การะเกด” วันนี้เมื่อมีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งในนักแสดงของเรื่อง อย่าง “หยา จรรยา ธนาสว่างกุล” เธอเล่าถึงการทำงานร่วมกับ “เบลล่า” ให้ฟังว่า
สำหรับเรื่องนี้ “บุพเพสันนิวาส” เราร่วมงานกับบรอดคาซท์ฯ มาหลายปีแล้ว ก็มีหลายคนชักช่วนให้ร่วมงานในหลายๆ เรื่อง ได้เจอกับผู้กำกับฯ เก่งๆ และมีโอกาสได้มาสอนการแสดงให้เด็กๆ แก๊งน้องใหม่ ก็เห็นความเหมาะสมเขา ก็ติดต่อมาประมาณกลางๆ ปี 58 ว่าจะมีละครเรื่องนี้ เปิดกล้องต้นปี 59 ก็ได้ยินมาจากหลายๆ คนว่าสนุก พอถึงเวลาเล่นก็ยังไม่รู้จัก “เบลล่า” ถือว่าเป็นการทำงานครั้งแรกกับ “เบลล่า”
เรื่องการเตรียมตัวก็อ่านบท ยุคสมัยต่างๆ ทางผู้กำกับฯ ก็มีให้ทำเวิร์คชอป ให้เส้นความสัมพันธ์ระหว่าง “ผิน-แย้ม” กับแม่นาย ให้มันเชื่อมโยงกัน ให้มันสวย มีการทำเวิร์คชอปหลายๆ แบบ ให้รู้ว่า “ผิน-แย้ม” เป็นอะไรกับแม่นาย เป็นพี่สาว, เพื่อน, แม่ แต่วันนั้นที่เด่นสุดคือเหมือนพี่สาวคอยดูแลน้องสาว ทางผู้กำกับฯ ไม่อยากให้มันเป็นเจ้านาย ก็ต้องยกความดีความชอบให้ผู้กำกับฯ
ส่วนเรื่องการร่วมงานกับ “เบลล่า” ประทับใจ ปกติเวลาเราร่วมงานกับใคร โดยเฉพาะนางเอก คือทุกฉากต้องมีเขา จะเป็นตัวละครเดียว ยุคเดียว สมัยเดียว แต่เรื่องนี้เขาทำการบ้านหนักมาก เขาต้องเป็นถึง 3 คาแรกเตอร์ เป็นที่ยุคเก่า ยุคปัจจุบันอยู่ในร่างยุคเก่า ซึ่งเขาทำได้ขาดที่แอ็คทุกบุคลิก รู้เลยว่าทำงานหนักจริงๆ บทมันยาก คำมันยาก แต่ทั้งหมดเขาทำได้อย่างดี เขาสู้ตนเองก็สู้เหมือนกัน ก็เหนื่อยด้วยกัน และมีวันที่ต้องพักก่อนที่เขาป่วย ทำให้ต้องพาไปโรงพยาบาล อันนั้นหนักสุด
ขนาดคุณพ่อน้องเสีย และน้องกลับบ้านวันเสาร์ คือเช้าวันอาทิตย์คุณพ่อเสีย และยังมีคิวถ่ายต่อ ก็มองหน้ากันว่าน้องจะมาถ่ายได้ไหม ไม่ได้มองว่าจะเสียงาน แต่มองว่าจิตใจน้องจะเป็นยังไง ซึ่งน้องรับมือกับสิ่งนี้ได้ ไม่ได้มาแบบไร้สติ แต่มาในฐานะนักแสดงมืออาชีพ ก็มีคนไปถาม แต่น้องเขาก็โอเค มันต้องให้ระยะน้อง ยอมใจน้อง
ด้านฟีดแบ็คเราไม่คิดว่าจะมาเบอร์นี้ เพราะเราก็ทำงานในฐานะนักแสดงอยู่ตรงนี้มานาน ทำเต็มที่ทุกครั้ง แต่สิ่งที่แตกต่างคือบทที่ดี และผู้กำกับฯ ที่ดี ด้วยความที่สนิทกันก็รู้ว่าจะเป็นยังไง เราสามารถขยี้เองได้ ถ้าสั่งให้ร้องไห้ก็ร้องไห้ได้ เพราะทำงานกับตรงนี้ได้เร็ว พอมายืนยันอีกครั้งว่าละครเรื่องนี้มาจริงๆ น่าชื่นใจ และขอบคุณมากๆ
ส่วนทีมนักแสดงเองก็เจอกัน กระโดดกอดกัน เพราะหายเหนื่อย มันตื้นตัน มันเกินมากๆ หายเหนื่อยเนอะ เพราะเรื่องนี้ใช้เวลาในการถ่ายทำนานจนกว่าจะปิดกล้อง และตัด ต่อ เพราะ CG เยอะ ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอ ดีใจ ไปขอบคุณคุณรอมแพงด้วย เขาก็ขอบคุณทีมงาน มันพูดเป็นคำพูดไม่ได้
เรื่องจะได้อะไรหลังดูจบแล้ว จริงๆ แล้วสิ่งหนึ่งที่คนดูจะได้ คือ จะรัก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันจะสนุก ทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา มันเป็นปรากฏการณ์ไปแล้ว กลายเป็นว่าเจอจังหวะที่ถูกต้องและเหมาะสมก็รู้ว่าทำไมถึงถ่ายนาน ก็มีเหตุผลของมัน เรื่องนี้มันดีที่ว่าใครดูก็ได้ เด็กดูก็ได้ ไม่มีพิษภัย ตัวละครจะตระหนักรู้ได้เหตุการณ์อะไรบางอย่าง จะไม่มีความรุนแรง ตอนนี้ทุกคนโหยหาความเป็นไทย แต่สิ่งนี้จะเข้าไปในใจของทุกคน เพราะโหยหาความเป็นไทยแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ตอนนี้เริ่มเห็นปรากฏการณ์ใส่ชุดไทยมากขึ้น มันเป็นช่วงที่ "บุพเพสันนิวาส" ได้มาทำงานพอดี