"ป๋อ" เล่านาที "ภูดิศ" หายในทริปสกีหิมะ เผยปิดอู่แน่นอน

"ป๋อ" เล่านาที "ภูดิศ" หายในทริปสกีหิมะ เผยปิดอู่แน่นอน

             "ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ" นักแสดงช่อง 3 เผยภายหลังพิธีทำบุญเป็นสิริมงคลก่อนที่ละครเรื่อง "เงินปากผี" จะออนแอร์ 29 ม.ค. นี้ ถึงเรื่องลูกชายคนโตซนและหลงระหว่างไปเที่ยวทริปสกีหิมะว่า เป็นเรื่องที่ตนเองตกใจกลัวมากที่สุด ทั้งนี้ยังเผยถึงแพลนที่จะมีลูกสาวอีกคนว่าคงไม่มีแล้ว

             เป็นทริปไปเที่ยวแล้วลูกหาย คือเหมือนไปผจญภัย คือผมกับเอ๋เนี่ยเอาลูกไปแบบไม่ได้มีพี่เลี้ยงอะไร ก็ไปกับคุณแม่ด้วย คิดว่าเราพอจะไปได้มั้ย เหนื่อยมาก เพราะว่าภูซนมาก เภาก็พอได้ แต่ภูนี่ต่อกรกันน่าดูเลย คือทั้งวิ่งไล่จับ ไม่นอน 3 ทุ่มก็ไม่นอน 4 ทุ่มก็ไม่นอน คือเด็กสนุกกับพื้นที่ห้องใหม่ วิ่งไล่จับจนหายอ่ะ

             เอาเรื่องหายก่อนมั้ย คือวันนั้นจริงๆ ก็ไม่ค่อยอยากพูดนะ รู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเอง แต่ก็ตัดสินใจลงไอจีเอง ก็อยากจะเตือนทุกคนเหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นช่วงที่พ่อแม่พาลูกไปเที่ยวหิมะ และมันเป็นหน้าหนาว เด็กทุกคนก็จะใส่ที่ปิดหน้าปิดตากันหมด คราวนี้เราเล่นเหมือนสไลด์เดอร์เด็กๆ อะที่ลงหิมะไป ที่มีขาพลาสติก คราวนี้ทุกอย่าง พอเราลงกับภูดิศไปสองรอบ ภูดิศบอกอยากเล่นเอง

             "ป๋อ" เผยอีกว่า คราวนี้เราบอกโอเค งั้นพ่อป๋อปล่อยข้างบนนะ ภูดิศอยู่ข้างล่าง พอลงข้างล่างแล้วให้รอ พอลงไปเสร็จ โอ้ย ทำได้เก่งมาก ดีใจ เห้ย มันคว้าแผ่นถาดอะไปต่อคิวคือจะขึ้นมาต่อ แล้วเราก็กำลังลงไป แล้วเราก็บอกเดี๋ยวๆ ภูดิศรอก่อน เพราะว่าคนมันเยอะ แล้วหิมะมันก็จะแบบมัวๆ อะ นึกออกมั้ย ลมก็แรง ไม่สนใจ ก็ขึ้นมาเอง คราวนี้เราก็รีบขึ้นมา มันจะเป็นรอบที่สองซึ่งลงไปอีก คราวนี้มันเริ่มขาดช่วงแล้วไกลกัน คนมันเยอะด้วย คราวนี้มองไม่เห็นแล้วว่าอยู่ไหน คือแบบหิมะตกเต็มเลย แต่เหงื่อแตก แล้วก็แบบว่าเพิ่งเคยรู้สึกแบบนี้ ตอนนั้นก็ยังตั้งสติได้ ก็คือมันคงอยู่ข้างบนแหละ โอเค ไม่เป็นไร เราไปรอข้างล่าง รอบที่ 1 ลงมาไม่มี สงสัยรอคิว รอบที่ 2 เห็นตะคุ่มๆ แต่งตัวคล้ายๆ เห้ย ไม่ใช่ รอบที่ 3 คือไม่ใช่อีกอะไรเงี้ย คือตอนนั้นจิตตกจริงๆ แล้วคือจะร้องไห้แล้ว ก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จะขึ้นไปก็ไม่ดี ไม่เอารอข้างล่างดีกว่า ตัดสินใจบอกเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็วอเรียก มีการหยุดเล่นสไลด์เดอร์ แต่เราบอกว่าอย่างงี้ก็ไม่เวิร์คหรอก เพราะเราก็ไม่รู้ข้างบนกับข้างล่างต้องปล่อยให้ลงมา มาเป็นคิวแรกเลย ภูดิศด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ลั้ลลา จากช่วงครึ่งชั่วโมงนั้นคือแบบเป็นครึ่งชั่วโมงที่นานมาก

             คือข้างบนต้องต่อคิวไง ไม่ได้ลงมาได้เลย เขาก็อาจจะยืนรอคิวอยู่แต่เราไม่รู้ แต่คือเราไม่เห็นเขาไง เราก็ไม่รู้เขาไปไหน เอ๋กับแม่ทนหนาวไม่ไหว รออยู่ร้านกาแฟ ใจคือคิดว่ากลัวจะไปเดินแล้วไปเล่นหิมะแถวซอกแถวมุมแล้วเขาไม่เห็นหรือเปล่า แต่อีกใจก็คิดว่าจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกแล้ว ต้องระวังมากกว่านี้ เพราะเหมือนเป็นเด็กที่มีความคิดความอ่านแล้วก็ทำอะไรได้ด้วยตัวเอง แล้วไปเองได้

             "ป๋อ" เผยประสบการณ์ลูกหายครั้งนั้นว่า ใจตอนนั้นแบบโอ้ย จะเป็นลม ตกใจ ทุกคนก็ตกใจ ทุกคนรู้ว่าที่เล่นตรงนั้นอะมันคนเยอะ แล้วสภาพอากาศมันก็เป็นทั้งลมทั้งหนาว มันจะแข็งอยู่แล้วอะ แล้วโทรศัพท์มือถือไม่ทราบว่าใครทราบมั่ง อยู่ๆ ก็แบตฯ หมดเฉยเลย ผมโทรศัพท์มือถือเวลาเจออากาศเย็นจัดๆ แบตฯ หมด คือเพิ่งรู้เหมือนกัน มันดับไป พอจะเปิดรูปให้เจ้าหน้าที่ดูโทรศัพท์ใช้ไม่ได้เฉยเลย เย็นจัดมาก คือทุกอย่างตอนนั้นแบบเข้าทางของการหลง แล้วพ่อแม่ฟิกซ์เอาท์แบบสุดๆ เลย ก็รู้สึกไม่ดีครับ มีคนอยากมาสัมภาษณ์เยอะเหมือนกันนะ แต่ผมต้องขอโทษด้วย ไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่ตอนนั้น เพราะรู้สึกว่าเราแย่ด้วยอะ แต่ก็ผ่านมาได้ เล่ายังเหงื่อแตกเลยคิดดู ตอนนั้นมันรู้สึกไม่ค่อยดี แต่ว่าก็เป็นประสบการณ์ ผมว่าเขาสอนเรามากกว่าว่าวัยนี้มันต้องระวังอีกแบบนึงแล้ว

             เอ๋ก็แพลนแล้ว เอ๋จะไปอีกแล้วเนี่ย ไม่รู้เขา เขาก็เริ่มคุยๆ กับเพื่อนๆ เขาแล้ว ทริปแรกๆ นี่น่าจะเป็นฮ่องกงก่อน ฮ่องกงนี่ไปไหว้พระขอพร เราไปมาแล้วรอบนึง เราได้สมปรารถนาก็ต้องกลับไปไหว้อีก ไม่ใช่มีลูก ตอนนั้นของาน อย่าใช้คำว่าเอาผู้หญิงอีกคนนึงเลย พอแล้วๆ ประกาศตรงนี้เลยว่าปิดแล้ว พอแล้ว ไม่เอาแล้ว มันเปลือง ค่าใช้จ่าย มีลูกมันเปลือง มันหมดไปกับบ้านเยอะเลย

             "ป๋อ" เผยเรื่องที่จะมีลูกคนที่ 4 ว่าคงไม่มีอีกแล้ว คือหมายความว่าเราต้องพอเพียงสิ ใช่มั้ย เราอย่าไปโลภมาก ชัดเจน เอ๋เขาประกาศชัดเจนกับผมอีกแล้วว่าเอ๋ไม่เอาแล้วนะ เพราะตอนนี้หุ่นเขาเริ่มกลับมาสลิมอีกครั้ง เขามั่นใจ เขาไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย บอกหนูไม่เอาแล้วนะพี่ หนูไม่ท้องอีกแล้วนะ

             ทำหมันไม่ทำนะ เขาลืมไปแล้ว ทำหมันเราคุยกันแล้วว่าไม่ทำ หมายความว่าเรามีโอกาสพลาดพลั้งได้ ต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุด อย่าให้เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา ที่ไม่ทำเพราะว่าเจ็บ ก็ป้องกันเอา เรามีลูกแล้วจะรู้ว่ามันมีค่าใช้จ่ายสูง มันโน่นนี่นั่น แล้วเราต้องแพลนเรื่องการเรียนของเขาในอนาคตด้วย วันนึงจบมหา'ลัยมาแล้วจะทำอะไรต่อ คือเราก็เป็นนักวางแผนพอสมควร เพราะฉะนั้นเราก็คิดถึงอนาคตด้วย ไม่ใช่ว่าเราตะบี้ตะบันมีลูกไปแล้วเราเกิดวันใดวันนึงเราไม่สามารถดูแลเขาในอนาคตได้มันก็เป็นปัญหาอยู่ดี เพราะฉะนั้นเราก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขาด้วยการที่ว่าโอเค เอาเท่านี้ เก็บเงินเก็บทองเพื่อให้เขามีการศึกษาที่ดีในอนาคต

             คือเห็นเด็กผู้หญิงอะชอบไง น่ารัก แล้วมีลูกเพื่อนอยู่คนนึงน่ารักมาก แล้ววันนี้แหละเดี๋ยวเราจะมีลูกผู้หญิงดีกว่า แต่เอ๋เขาพอแล้ว เราก็พอแล้วเหมือนกัน คือส่วนตัวเราก็พอแล้ว แต่มีอีกก็ได้ คือกลับไปกลับมา พี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะ คือพี่ลังเลตลอดเวลา มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ก็ลังเลแหละ แต่เอ๋ไม่อยากมีแล้ว