“เป้” ลุยงานเพลงไม่หวั่นกระแสดร็อป แฮปปี้โปรเจ็คท์ละครที่สิงคโปร์
หนุ่ม "เป้ อารักษ์" เผยสำหรับเพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกไปอย่าง “อย่าเล่นกับไฟ” ที่มาของเพลงมาจากที่ตนมีเพื่อนผู้หญิงที่ไปชอบผู้ชายที่รู้อยู่แล้วว่าเจ้าชู้ ทุกคนในแก๊งก็พยายามเตือนว่าอย่าไปยุ่งเลย แต่เขาก็เหมือนกับไปเล่นกับไฟอยู่ดี เลยเอาเรื่องราวของคนนี้มาแต่ง บวกไปกับความมันทางภาษา เหมือนกับไฟมันอุ่นกาย แต่อยู่ใกล้เกินไปจะโดนเผา และส่วนใหญ่แผลจากไฟจะไม่ตายทันที ไปตายในโรงพยาบาล โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่ 8 จาก 16 เพลง ที่ปล่อยมาในอัลบั้ม “เหล็กกับไม้”
ส่วนร่วมของตนในการทำเพลง ตนเป็นคนแต่งเนื้อร้องและเพลงนี้เป็นการทำดนตรีให้ร็อคมากขึ้น ได้ “ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์” และคุณ “อัด วงศ์วริศ อาริยวัฒน์” มาช่วยทำดนตรีและควบคุมการผลิต ความพิเศษของเพลงนี้ เป็นเพลงที่ร็อคกว่าทุกๆ เพลงที่เคยมี ตั้งแต่ตนเล่นดนตรีมาเพลงนี้ก็เป็นเพลงร็อคที่สุดแล้ว แปลกใหม่โดดเด้งกว่าทุกเพลงจนเวลาจะเล่นคอนเสิร์ตต้องเอาไปไว้ท้ายๆ
ด้านพาร์ทมิวสิควีดิโอ เป็นเรื่องโชคดีมาก เพราะได้งบมาช่วงเวลาสุดท้ายแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้เห็นเอ็มวีกัน แต่ก็มีสปอนเซอร์ใจดีเข้ามา และได้ทีมตากล้อง ทีมผู้กำกับที่เก่งมากๆ เข้ามาช่วย นอกจากนั้นยังได้เพื่อนๆ ในค่ายอย่าง “เดอะ ทอย” และก็ “ปอม เด ฟามิงโก้” มาช่วย โดยเรื่องราวใน MV เป็นแบบกวนๆ แก๊งผู้ชายซ่าๆ ขับรถมอเตอร์ไซค์แล้วก็ไปทำเจ้าชู้ใส่แก๊งผู้หญิงส่วนจะจบแบบไหนก็ต้องไปดูกัน
สำหรับฟีดแบ็คที่ออกมาจริงๆ ก็ค่อนข้างเงียบ แต่ตอนที่เราโหวตเพลง เราก็คุยกันว่าเดี๋ยวนี้เพลงในโลกคนฟังเพลงเป็นแบบนี้ แต่เราอยากปล่อยเพลงแบบนี้เพราะเป็นเพลงที่เราชอบกัน จนก็รู้ว่าเราคงฝืนมันไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร เราทำสิ่งที่เราชอบ ก็พึงพอใจทั้งซาวน์ทั้งเอ็มวี ความคาดหวังแต่แรก ถ้าไม่หวังก็คงโกหก เราก็หวังอยู่แล้ว หวังมากเสมอ แต่ก็ไม่กลัวผิดหวังอะไร
ส่วนเพลงต่อไปมีจะปล่อยเพลงอีกทีเดือนกุมภาพันธ์ จะปิดอัลบั้ม แต่เป็นเพลงที่ไม่ได้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์หรือเรื่องความรักอะไร คิดว่าทำเสร็จช่วงนั้นก็ปล่อย เว้นช่วงเดือนมกราคมที่คนเพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้ ชื่อเพลง “กายฉันว่ายน้ำไปใจฉันคิดถึงเธอ” โดยที่เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำดนตรีของตัวเองว่าแบบตอนที่เราเริ่มลงน้ำก็เหมือนกับตอนที่เราเริ่มทำงานดนตรี เราไม่รู้ว่าจะว่ายไปถึงเมื่อไหร่ แต่ระหว่างทางก็มีเสียงกุ้งหอยปูปลามาพูดด้วยว่า เอ็งอย่าทำอย่างนู้น อย่างนี้เลย และอีกแรงบันดาลใจนึงก็มาจากที่เรื่องพระมหาชนกพูดเรื่องความเพียร เราเปรียบตัวเองว่ากำลังว่ายน้ำเราก็ไม่รู้ว่าจะถึงอีกฝั่งเมื่อไหร่ แต่ว่าสิ่งที่เรามีเวลาคนมาถามว่าจะว่ายถึงเมื่อไหร่ ก็คือไม่ต้องไปสนใจหรอกว่าจะถึงเมื่อไหร่ แต่กล้ามเนื้อเราทน แข็งแรง
ผลงานละครแอคชั่น "Missing" ที่ไปถ่ายที่สิงคโปร์อาจจะไม่ได้มีมาออนแอร์ที่ไทย เพราะว่าเป็นภาษาอังกฤษ ค่อนข้างจะเข้าตลาดไทยลำบาก การทำโปรเจ็คท์ครั้งนี้ตนก็ได้ร่วมงานกับ “เพลง ชนม์ทิดา” และก็มีคนไทยอีก อย่าง เอก ธเนศ, ตี๋ วิวิศน์ และ อาร์ม วรท" บทบาทในเรื่องครั้งนี้ตนเล่นเป็นตำรวจ ผู้กองคนนึงที่มี 2 ด้าน ด้านนึงจะติงต๊อง ทำอะไรไม่ได้เรื่อง อีกด้านหนึ่งจะเป็นคนที่เก่งมากๆ จริงๆ คือเป็นคนเก่ง แต่เคลือบตัวเองด้วยความปัญญาอ่อนเข้าไป เขามีปมของเขาว่าจะเก่งเหมือนพ่อ ซึ่งก็เป็นคาร์แรคเตอร์ใหม่สำหรับตนที่ไม่เคยเล่นเป็นตำรวจมาก่อน รับแต่บทโจร ก็เลยต้องมีการทำการบ้าน มีไปฝึกยิงปืน ไปอยู่กับตำรวจ กองสืบสวนที่สน.ห้วยขวาง ตนก็ต้องขอบคุณโอกาสที่ได้เข้าไปทัศนศึกษา นอกจากนั้นก็ไปเรียนยูโด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้จริงๆ ในเรื่อง
สำหรับการทำงานที่สิงคโปร์ ที่นี่มีสไตล์การทำงานเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนกันกับที่ไทย ถ้าเคยไปดูทีวีของสิงคโปร์ ก็จะรู้เลยว่ามันไม่เหมือนกับที่ไหนเลย เขาจะถ่ายทำกล้องเดียว และก็เข้าเป็นถี่ๆ เวลาตัดออกมาก็แตกต่างมาก เวลามาถ่ายที่ไทยก็ต้องมีการปรับจูนกัน โดยเรื่องนี้อุปสรรคที่ตนเจอก็เป็นเรื่องเวลาที่มันค่อนข้างน้อย การสื่อสารในเรื่องก็เป็น 2 ภาษาเวลาเจอหน้าคนไทยก็พูดภาษาไทย เจอคนสิงคโปร์ก็พูดภาษาอังกฤษ กับโปรเจ็คท์ครั้งนี้ ความคาดหวังอยู่ในตอนการทำงานก็คือทำให้ดีที่สุด ที่เหลือก็เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนการทำงานต่างประเทศจะมีอีกไหม มันก็ไม่ใช่เป้าหมายสำหรับตน แต่ถ้ามีเข้ามา เป็นบทบาทที่ดีและมีค่าตอบแทนที่ดี ตนก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีติดต่ออะไรเข้ามา